ผถห.ใหญ่โนมูระฯ จ่อเพิกถอนออกจากตลาดหุ้น ตั้งโต๊ะเทนเดอร์ฯ 2.51 บาทต่อหุ้น
บล.โนมูระ พัฒนสิน แจ้งตลท.บอร์ดอนุมัติชงที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติการขอเพิกถอนหุ้นจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน หลังผู้ถือหุ้นใหญ่แสดงความประสงค์ขอเพิกถอนหุ้นของบริษัทผ่านการทำคำเสนอซื้อหุ้นที่เหลือทั้งหมดในอัตรา 2.51 บาทต่อหุ้น
บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) หรือ CNS แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) เมื่อวันที่ 3 ต.ค.2562 ได้อนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการขอเพิกถอนหุ้นจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เนื่องจากบริษัทได้รับหนังสือเมื่อวันที่ 2 ต.ค.2562 จาก Nomura Asia Investment (Singapore) Pte., Ltd. (NAIS) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 85.78% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด ได้แสดงความประสงค์ขอเพิกถอนหุ้นของบริษัทผ่านการทำคำเสนอซื้อหุ้นที่เหลือทั้งหมดในอัตรา 2.51 บาทต่อหุ้น พร้อมทั้งอนุมัติให้แต่งตั้งบริษัท แกรนท์ ธอนตัน เซอร์วิสเซส จำกัด ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินอิสระของบริษัทและเสนอแนะความเห็นต่อผู้ถือหุ้นเพื่อประกอบการพิจารณาการขอเพิกถอนหุ้นออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ
ทั้งนี้การขอเพิกถอนหุ้นดังกล่าว เนื่องจากกลุ่มบริษัท Nomura (ซึ่งรวมถึง Nomura Holdings, Inc. (Nomura HD) ในฐานะบริษัทแม่ของ NAIS และบริษัทย่อยและบริษัทร่วมอื่น ๆ ของ Nomura HD) และบริษัทได้สร้างความสัมพันธ์อันใกล้ชิดและแข็งแกร่งยิ่งขึ้นระหว่างกันตั้งแต่บริษัทได้เข้าเป็นบริษัทย่อยของ NAIS เมื่อปี 2557 จากการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการโดย NAIS กลุ่มบริษัท Nomura เชื่อว่าการเพิกถอนหุ้นของบริษัทออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน และการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทในกลุ่ม Nomura ให้มีความใกล้ชิดและแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น จะช่วยเพิ่มความคล่องตัวให้กับการดำเนินการตามกลยุทธ์ทางธุรกิจของบริษัท และจะทำให้การตัดสินใจในเรื่องต่างๆมีความรวดเร็วขึ้นทำให้สามารถนำเสนอบริการที่ดียิ่งขึ้นให้แก่ลูกค้า
ขณะที่บริษัทกำหนดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2562 เพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าวในวันที่ 27 พ.ย.2562 และกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่่ 18 ต.ค.นี้
ด้านตลาดหลักทรัพย์ฯ แจ้งว่าตามที่ CNS ได้มีมติคณะกรรมการขอเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ดังนั้นเพื่อให้หลักทรัพย์ดังกล่าวสามารถมีการซื้อขายต่อไปได้ตามสภาพความเป็นจริง ตลาดหลักทรัพย์ฯจึงอาศัยอำนาจตามความในข้อ 29 (3) แห่งข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเรื่องการซื้อขายการชำระราคาและการส่งมอบหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2555 กำหนดให้ราคาซื้อขายหลักทรัพย์ของ CNS ในวันที่ 4 ตุลาคม 2562 มีราคาสูงสุดและต่ำสุด(Ceiling & Floor)ไม่เกินหนึ่งเท่าจากราคาซื้อขายครั้งสุดท้ายของหลักทรัพย์