'กรุงไทย' แจงกรณีปลอมลายเซ็นถอนเงินมูลนิธิฯ 41 ล้าน
"กรุงไทย" โร่แจงกรณีมูลนิธิศูนย์ส่งเสริมพุทธศาสนาแห่งประเทศไทยร้องสื่อว่าถูกรอง ผจก.สาขาหนึ่ง ปลอมลายเซ็นเบิกเงินกว่า 41 ล้านบาท ยันธนาคารพร้อมปฏิบัติตามคำสั่งศาล
ธนาคารกรุงไทย ออกแถลงการณ์ในวันนี้ (7 ต.ค.) ว่า ตามที่มูลนิธิศูนย์ส่งเสริมพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย ได้ร้องเรียนสมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย ให้ธนาคารกรุงไทยรับผิดชอบ กรณีการเบิกถอนเงินจากบัญชีเงินฝากประจำของมูลนิธิศูนย์ส่งเสริมพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย ที่สาขาถนนร่มเกล้า (หมู่บ้านปรีชา) โดยขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ รวมทั้งอยู่ระหว่างพิจารณาฟ้องศาลแพ่งนั้น
ธนาคารขอเรียนว่า ธนาคารให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ โดยที่ผ่านมา ธนาคารได้พูดคุยและเจรจา เพื่อหาข้อสรุปและหาผู้ร่วมกระทำผิดร่วมกับทางมูลนิธิฯ หลายครั้ง
นอกจากนี้ ธนาคารยังได้มีหนังสือลงวันที่ 5 ก.ย. 2561 ถึงประธานมูลนิธิฯ เพื่อแสดงความรับผิดชอบ โดยเสนอเงินเบื้องต้น เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของมูลนิธิฯ ในขณะที่คดีอยู่ระหว่างการพิจารณา
ทั้งนี้ ธนาคารพร้อมรับผิดชอบจำนวนเงินความเสียหาย ตามที่ศาลพิจารณา และมีคำพิพากษาถึงที่สุด จึงขอให้มูลนิธิฯ มั่นใจว่าธนาคารกรุงไทย ในฐานะธนาคารพาณิชย์ของรัฐ ธนาคารยึดมั่นในการปฏิบัติงานตามหลักบรรษัทภิบาล ดำเนินงานอย่างมืออาชีพ ด้วยความซื่อสัตย์และโปร่งใส รวมทั้งให้บริการลูกค้าตามแนวทางของหลัก Market Conduct
การชี้แจงของกรุงไทยมีขึ้นหลังจากวานนี้ (6 ต.ค.) มูลนิธิศูนย์ส่งเสริมพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทยเผยว่า ถูกรองผู้จัดการธนาคารแห่งหนึ่ง ปลอมแปลงลายเซ็น พระครูปลัดสุชาติ ฐานจาโร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหงส์ เขตบางกอกใหญ่ ในฐานะประธานมูลนิธิศูนย์ส่งเสริมพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย ถอนเงินไปกว่า 41 ล้านบาท แล้วโอนเงินเข้าบริษัทเอกชนหลายแห่ง ก่อนจะโอนเงิน 30 ล้านบาท เข้าบัญชีของเหรัญญิกของมูลนิธิ เมื่อปี 2559