จับครูสาวสอนภาษา คดีตุ๋นกลุ่มผู้ปกครองลงทุนธุรกิจเสื้อผ้า สูญเงิน 16 ล้าน
ให้เหยื่อรีบแจ้งความ! ผบช.ภ.1-ผบก.สมุทรปราการ แถลงจับกุมครูสาวสอนภาษาฯ คดีตุ๋นผู้ปกครองร่วมลงทุนธุรกิจเสื้อผ้า เหยื่อกว่า 18 รายหลงเชื่อ เผยสูญเงินกว่า 16 ล้าน
บก.ภ.1 - เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 11 ต.ค.2562 พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 (ผบช.ภ.1) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชุมพล พุ่มพวง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ และ พ.ต.อ.ฐานุพงศ์ แสงซื่อ ผู้กำกับการสภ.เมืองสมุทรปราการ ร่วมกันแถลงผลจับกุม น.ส.ศิญาภัสร์ ปิยะตระกูลวิชญ์ อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการที่ 65/2562 ลงวันที่ 9 ตุลาคม 2562 ในความผิดฐาน "ฉ้อโกงประชาชน" และกู้ยืมเงิน หรือจะกู้ยืมเงิน โดยจัดให้มีบุคคลตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปชักชวนบุคคลต่าง ๆ เพื่อให้มีการกู้ยืมงินโดยตกลงว่าจะจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนให้แก่ผู้ให้กู้ยืม ในอัตราที่สูงว่าอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่สถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมของสถานบันการเงินจะพึงจ่ายได้"
พล.ต.ท.อำพล กล่าวว่า สำหรับพฤติกรรมของผู้ต้องหา ได้อ้างตัวว่ารู้จักกับโรงงานทอผ้า ในพื้นที่เขตบางบอน และได้ชักจูงให้ผู้เสียหายเข้ามาร่วมลงทุนทำธุรกิจเกี่ยวกับการรับทำเสื้อส่งบริษัทต่างๆ ซึ่งรับประกันว่าจะได้ค่าตอบแทนในอัตราประมาณร้อยละ 50 ต่อเดือน กลุ่มผู้เสียหายจึงได้หลงเชื่อและได้โอนเงินให้แก่ผู้ต้องหา โดยในช่วงแรกๆกลุ่มผู้เสียหายได้รับผลตอบแทนตามที่ผู้ต้องหารับประกันจริง หลังจากนั้นผู้ต้องหาจึงได้ชักชวนให้กลุ่มผู้เสียหายร่วมลงทุนเพิ่มอีก และใช้วิธีการให้กลุ่มผู้เสียหายชักชวนคนรู้จักมาร่วมลงทุนกับผู้ต้องหาเพิ่ม
กลุ่มผู้เสียหายหลงเชื่อและร่วมลงทุนกับผู้ต้องหาเพิ่มอีก จำนวนหลายครั้งในอัตราเงินลงทุนที่สูงขึ้นตามลำดับ เพื่อหวังเงินตอบแทนในอัตราสูงขึ้น จนท้ายที่สุดผู้ต้องหาได้บ่ายเบี่ยงที่จะจ่ายเงินค่าตอบแทน โดยอ้างว่าไม่สามารถเก็บเงินจากลูกค้าได้ เมื่อกลุ่มผู้เสียหายติดตามทวงถาม พบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีไปแล้ว จากการตรวจสอบพบว่าแท้จริงแล้ว ผู้ต้องหาไม่ได้นำเงินของกลุ่มผู้เสียหายไปลงทุนทำเสื้อตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด เพียงแค่นำเงินของกลุ่มผู้เสียหาย แต่ละคนที่ร่วมลงทุนมาหมุนจ่ายให้แก่สมาชิกแต่ละคนเท่านั้น ซึ่งสิ่งที่ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อนั้น เนื่องจากผู้ต้องหาได้ทำงานเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ ทำให้มีความน่าเชื่อถือ และส่วนใหญ่ผู้เสียหายมักจะเป็นผู้ปกครองของนักเรียน และทำมาแล้ว 3-4 เดือน
ขณะที่ พ.ต.อ.ฐานุพงศ์ แสงซื่อ ผู้กำกับการสภ.เมืองสมุทรปราการ ระบุว่า จากการตรวจสอบ น.ส.ศิญาภัสร์ พบว่า ไม่ได้นำเงินของกลุ่มผู้เสียหายไปลงทุนทำเสื้อตามที่กล่าวอ้าง เพียงนำเงินไปมาหมุนจ่ายให้แก่สมาชิกแต่ละคนเท่านั้น และเมื่อกลุ่มผู้เสียหายร่วมลงทุนมีจำนวนมากขึ้น และไม่สามารถหมุนเงินได้ทัน ทำให้ไม่มีเงินจ่ายค่าตอบแทนแก่กลุ่มผู้เสียหาย ซึ่งทำมาแล้ว 3-4 เดือน
ทั้งนี้ ตำรวจเชื่อว่ายังมีผู้สียหายมากกว่า 18 ราย จึงฝากประชาสัมพันธ์ หากใครถูก น.ส.ศิญาภัสร์ หลอกลวง สามารถมาแจ้งความได้ที่ตำรวจภูธรภาค1 โดยจากการตรวจสอบพบผู้เสียหายรวมทั้งสิ้นกว่า 18 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 16 ล้านบาท ตำรวจจึงอยากฝากประชาสัมพันธ์ หากใครที่ถูกผู้ต้องหารายนี้หลอกลวง สามารถมาแจ้งความได้ที่ตำรวจภูธรภาค1
ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา “ฉ้อโกงประชาชนและกู้ยืมเงิน หรือจะกู้ยืมเงิน โดยจัดให้มีบุคคลตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปชักชวนบุคคลต่างๆเพื่อให้มีการกู้ยืมงินโดยตกลงว่าจะจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนให้แก่ผู้ให้กู้ยืม ในอัตราที่สูงว่าอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่สถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมของสถานบันการเงินจะพึงจ่ายได้”
ภาพจาก fb/RTP.p1