‘สหรัฐ’ ใช้หนี้ ‘ยูเอ็น’ บางส่วนกว่า 5 พันล้าน
สหรัฐจ่ายค่าสมาชิกที่ค้างอยู่บางส่วนให้กับ “ยูเอ็น” แล้วกว่า 5,400 ล้านบาท และจะจ่ายเพิ่มอีกเร็ว ๆ นี้ ท่ามกลางวิกฤติการเงินครั้งใหญ่ที่สุดในรอบเกือบ 10 ปีขององค์กรระหว่างประเทศยักษ์ใหญ่ ที่นำไปสู่การประกาศมาตรการรัดเข็มขัด
นางเชอริธ นอร์แมน ชาเล็ต อัครราชทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติ (ยูเอ็น) กล่าวเมื่อวันศุกร์ (18 ต.ค.) ว่า สำนักงานคณะผู้แทนถาวรสหรัฐประจำยูเอ็นส่งหนังสือถึงคณะกรรมาธิการด้านงบประมาณและการเงินของยูเอ็นเมื่อไม่กี่วันก่อนว่า รัฐบาลวอชิงตันได้ชำระค่าธรรมเนียมเข้าส่วนกลางแล้ว 180 ล้านดอลลาร์ (ราว 5,453 ล้านบาท) สำหรับปีงบประมาณล่าสุด
นอกจากนั้น วอชิงตันจะชำระเพิ่มอีก 96 ล้านดอลลาร์ (ราว 2,908 ล้านบาท) ภายในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ขณะเดียวกัน นางชาเล็ตยังกล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐชุดปัจจุบันจะให้การสนับสนุนแก่ยูเอ็นในเดือน พ.ย. ต่อไป
เมื่อต้นเดือนนี้ นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการยูเอ็น ส่งหนังสือเวียนถึงผู้อำนวยการและหัวหน้าภารกิจทั้งหมดภายใต้สังกัด มีหัวข้อเกี่ยวกับ “มาตรการฉุกเฉินทางเศรษฐกิจภายในองค์กร” ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ “จนกว่าจะมีการแจ้งให้ทราบอีกครั้ง”
หนังสือเวียนดังกล่าวระบุว่า นับตั้งแต่ต้นปีนี้จนถึงเมื่อวันที่ 4 ต.ค. ที่ผ่านมา มีสมาชิกยูเอ็น 128 ประเทศจ่ายเงินค่าธรรมเนียมประจำปีงบประมาณปัจจุบันรวมกัน 1,990 ล้านดอลลาร์ (ราว 60,290 ล้านบาท) หมายความว่า เหลืออีก 65 ประเทศยังไม่ได้ชำระค่าธรรมเนียมดังกล่าว มูลค่ารวมกัน 1,386 ล้านดอลลาร์ (ราว 41,991 ล้านบาท)
หนึ่งในนั้นคือสหรัฐที่ต้องจ่ายมากถึง 1,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 30,296 ล้านบาท) คิดเป็น 22% ของงบประมาณทั้งหมด แต่เงินค้างชำระส่วนนั้นของรัฐบาลวอชิงตันเป็นคนละส่วนกับอีก 3,700 ล้านดอลลาร์ (ราว 112,097 ล้านบาท) ที่ยังค้างสำหรับค่าบำรุงหน่วยงาน 14 แห่งภายใต้ภารกิจรักษาสันติภาพของยูเอ็น
นางชาเล็ตกล่าวว่า นับตั้งแต่ต้นปีนี้ รัฐบาลวอชิงตันชำระเงินสนับสนุนภารกิจรักษาสันติภาพยูเอ็นแล้ว 600 ล้านดอลลาร์ (ราว 18,178 ล้านบาท) และยืนยันสหรัฐจะยังคงเป็นประเทศผู้บริจาครายใหญ่ที่สุดของยูเอ็นต่อไป ด้วยเงินสนับสนุนเกือบ 10,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 302,965 ล้านบาท) ต่อปีงบประมาณ
“ปีงบประมาณของสหรัฐกับยูเอ็นนั้นแตกต่างกัน ดังนั้นการชำระเงินจึงอาจไม่เหมือนสมาชิกส่วนใหญ่” นางชาเล็ตระบุ