จีนเบอร์ 1 แหล่งผลิต‘ยูนิคอร์น’แซงสหรัฐ
รายงานล่าสุดจากบริษัทวิจัยฮูรุน รีพอร์ต ชี้ ตอนนี้จีนมีสตาร์ทอัพมูลค่าเกิน 1 พันล้านดอลลาร์มากกว่าสหรัฐ
บริษัทวิจัยฮูรุน รีพอร์ต เผยรายงานว่าด้วยยูนิคอร์นโลกฉบับแรก ระบุว่า เมื่อเดือน มิ.ย. ทั่วโลกมีสตาร์ทอัพมูลค่าสูงเกินกว่า 1 พันล้านดอลลาร์หรือที่เรียกว่า ยูนิคอร์น รวม494 ราย เป็นบริษัทจีน 206 ราย ทำให้จีนเป็นประเทศที่มียูนิคอร์นมากที่สุดในโลก ขณะที่สหรัฐอยู่ในอันดับ 2 จำนวน 203 ราย
นายรูเพิร์ต ฮิวจ์เวิร์ฟ ประธานฮูรุนรีพอร์ต กล่าวว่า จีนและสหรัฐครองสัดส่วนยูนิคอร์นโลกกว่า 80% ทั้งๆ ที่สองประเทศนี้มีจีดีพีแค่ครึ่งหนึ่งของจีดีพีโลก และมีประชากรเพียง 1 ใน 4 ของโลกท่านั้น
“ประเทศอื่นๆ ที่เหลือจำเป็นต้องตื่นขึ้นมาสร้างบรรยากาศเอื้อให้ยูนิคอร์นในประเทศตนเติบโตได้แล้ว”
ตามข้อมูลของฮูรุน ยูนิคอร์นมูลค่าสูงสุด 3 แห่งอยู่ในจีน ได้แก่ แอนท์ไฟแนนเชียลในเครืออาลีบาบา บริษัทผลิตแอพพลิเคชัน “ไบต์แดนซ์” และบริษัทเรียกรถโดยสาร “ตี้ตี่ ซู่ชิง” ทั้ง 3 บริษัทมีูลค่ารวมกัน 2.8 แสนล้านดอลลาร์
ส่วนบริษัทใหญ่จากสหรัฐ เช่น แอร์บีแอนด์บี และบริษัทบริการพื้นที่ทำงานร่วม “วีเวิร์ก” ก็ติดอันดับด้วย รวมถึงสตาร์ทอัพที่ยังไม่โด่งดังเท่าอย่างซูเม บริษัทส่งพิซซาอัตโนมัติในแคลิฟอร์เนีย และดรีม 11 แพลตฟอร์มกีฬาแฟนตาซีของอินเดีย
ฮูรุนกล่าวด้วยว่า นี่เป็นครั้งแรกที่นักวิจัยยืนยันจำนวนยูนิคอร์นจีนมากกว่าสหรัฐ ก่อนหน้านี้ในเดือน มิ.ย. วิชวล แคปิตอลลิสต์ บริษัทวิจัยอีกแห่งหนึ่ง รายงานอ้างข้อมูลในเดือน พ.ค.ว่า จีนมียูนิคอร์นเพียง 94 ราย เทียบกับสหรัฐที่มี 156 ราย
สำหรับบริษัทที่ติดอันดับฮูรุนเฉลี่ยแล้วเพิ่งก่อตั้งมาได้ 7 ปี กว่าครึ่งมาจาก 5 อุตสาหกรรมที่สร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้กับเศรษฐกิจโลก ที่มีมากที่สุดคือยูนิคอร์นสายอีคอมเมิร์ซและฟินเทค ตามด้วยคลาวด์คอมพิวติ้ง เอไอ และโลจิสติกส์
นอกจากนี้ มีหลายบริษัทเคยอยู่ในเครือบริษัทใหญ่กว่าแล้วแยกตัวออกมา นายฮิวจ์เวิร์ฟ กล่าวว่า จีนประสบความสำเร็จในด้านนี้มากที่สุด ทั่วโลกมียูนิคอร์นที่แยกตัวออกมาจากบริษัทใหญ่ 20 ราย อยู่ในจีน 18 ราย เช่น อาลีบาบา เริ่มทำอาลีเพย์ จากนั้นก็แตกเป็นธุรกิจฟินเทคในนามแอนท์ไฟแนนเชียล เมื่อปี 2557