'ปตท.-บางจาก' เร่งแผนบี10 ขายครบทุกปั๊มมี.ค.ปีหน้า

“บางจาก”เร่งปรับหัวจ่าย

นายสมชัย เตชะวณิช ประธานเจ้าหน้าที่การตลาดและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจการตลาด บริษัท บางจากคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บางจากได้ให้ความสำคัญกับเชื่อเพลิงชีวภาพมาโดยตอลด โดยปี 2549 เริ่มจำหน่ายน้ำมันใบโอดีเซล B5 ให้กับประชาชนทั่วไป มาในปี 2561 กระทรวงพลังงาน มีนโยบายให้ภาคขนส่ง ใช้น้ำมัน B 20 บางจากก็ตอบสนองนโยบาย 

ทั้งนี้ ปัจจุบันมีสถาณีบริการที่จำหน่าย B 20 แล้ว 560 สถานี และในเดือน มิ.ย.2562 เริ่มจำหน่ายน้ำมัน B10 และยังได้ปรับปรุงคุณภาพโดยเพิ่มสารซุปเปอร์บุสเตอร์ และสารทำความสะอาดหัวฉีด เพื่อให้ได้น้ำมัน B10 ที่สะอาดและมีคุณภาพสูง

“บางจาก จะเพิ่มการจำหน่าย B10 ให้ได้ทุกสถานีบริการทั่วประเทศให้ได้ภายในวันที่ 1 มี.ค.2563 ไปพร้อมกับการให้ข้อมูลผู้บริโภคในเรื่องของรถยนต์ที่ใช้ B 10 ได้ ซึ่งในปัจจุบันมีรถยนต์ดีเซลมากกว่า 50% ที่ใช้ B 10 ได้”

อย่างไรก็ตาม บริษัทน้ำมันก็มีปัญหาที่ถังเก็บน้ำมัน และหัวจ่ายมีจำกัด ซึ่งในปัจจุบันแต่ละสถานีบริการมีน้ำมันดีเซล 3 เกรด ได้แก่ B7 , B10 และB20 ซึ่งน่าจะตัดหัวจ่ายน้ำมัน B7 มาจำหน่าย B10 เพราะรัฐบาลจะนำ B10 ขึ้นมาเป็นน้ำมันดีเซลพื้นฐานแทน B7 นอกจากนี้ บางจากยังมีโรงงงานผลิตไบโอดีเซล B100 ของตัวเอง จึงมั่นใจในการผลิต B10 ที่มีคุณภาพ และไม่ขาดแคลนอย่างแน่นอน

มั่นใจสร้างสมดุลน้ำมันปาล์ม

นายศาณินทร์ ตริยานนท์ นายกสมาคมผู้ผลิตไบโอดีเซลไทย กล่าวว่า ในภาพรวมตฃาดน้ำมันปาล์ม ประเทศไทยผลิตได้กว่า 3 ล้านตัน รองจากประเทศอินโดนีเซีย ที่เป็นอันดับ 1 ผลิตได้กว่า 40 ล้านตัน และอันดับ 2 มาเลเซีย ผลิตได้กว่า 20 ล้านตัน ดังนั้นจึงเห็นได้ว่าไทยถูกขนาบโดยประเทศที่ผลิตน้ำมันปาล์มรายใหญ่ที่มีผลผลิตมากกว่าไทย ดังนั้นไทยจะต้เองเร่งปรับตัวเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มให้อยู่รอด

โดยนโยบาย B10 ของรัฐบาล จะเป็นคำตอบที่ช่วยเหลือเกษตรกรได้มาก ซึ่งในปัจจุบันมีเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มหลายแสนครัวเรือน จากนั้นจะส่งผลผลิตไปให้โรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม และส่งให้โรงงานสกัดเป็น B100 ต่อไปซึ่งจะปรับสภาพให้ได้มาตรฐานเติมให้กับรถยนต์ เพื่อไม่ให้เกิดไขอุดตันไส้กรองน้ำมัน

ทั้งนี้ ปัญหาราค้ำมันปาล์ม เกิดจากความไม่สมดุลระหว่างดีมานกับซับพลาย ซึ่งหากเม่อไรที่สต็อกน้ำมันปาล์มอยู่ในภาวะสมดุลราคาภายในประเทศจะสูงกว่าต่างประเทศเล็กน้อย ซึ่งเป็นจุดที่เกษตรกรจะได้ราคาดีที่สุด ซึ่งนโยบาย B 10 จะทำให้สต็อกน้ำมันปาล์มเกิดความสมดุล

รถดีเซล50%ใช้น้ำมันB10ได้

นายธนวัฒน์ คุ้มสิน รองผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ กล่าวว่า ไทยผลิตรถยนต์ได้ปีละ 2 ล้านคัน ในจำนวนนี้ 60% เป็นรถยนต์ดีเซล แต่หากดูรายยี่ห้อบางรายก็ผลิตรถยนต์ดีเซลมากน้อยต่างกัน บางรายผลิตในไทย 20,000 คัน แต่ผลิตในจีน 2 ล้านคัน ดังนั้น จึงมีปริมาณผลิตในไทยไม่เพียงพอต่อการปรับเครื่องยนต์ให้ได้ตามมาตรฐานใหม่ และการปรับเปลี่ยนมาตรฐานน้ำมันสำหรับรถยนต์ จะต้องให้เวลากับผู้ผลิตในการปรับตัว ซึ่งแต่ละค่ายก็ใช้เวลาปรับตัวมากน้อยต่างกัน

นอกจากนี้ ปัจจุบันมีรถยนต์ดีเซลในไทย 10.5 ล้านคันในจำนวนนี้ 50% หรือ 5 ล้านคันสามารถใช้น้ำมัน B10 ได้ ส่วนรถยนต์ดีเซลที่เหลือคาดว่าค่ายรถยนต์ต่างๆจะทยอยออกมารับรองต่อไป เพราะในการรับรองค่ายรถยนต์จะต้องลงทุนทำการทดสอบเครื่องยนต์อย่างละเอียด จึงต้องใช้ระยะเวลา รวมทั้งยังเป็นนโยบายที่สำคัญของรัฐบาล ดังนั้นทุกค่ายจะต้องทดสอบและออกมารับประกัน

มั่นใจค่ายรถพร้อมปรับตัว

นายธนวัฒน์ กล่าวว่า การเปลี่ยนมาใช้น้ำมัน B10 จะทำให้มีการชะล้างเขม่าได้ดีขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นผู้ที่หันมาใช้น้ำมัน B10 ในระยะแรกจึงควรจะเปลี่ยนไส้กรองน้ำมัน และน้ำมันเครื่องให้เร็วขึ้นกว่าเดิม เพื่อไม่ให้เขม่าไปอุดตันเครื่องยนต์ แต่หลังจากนั้นก็เปลี่ยนตามระยะเวลาเดิมที่กำหนด

ทั้งนี้ ค่ายรถยนต์มีความเป็นห่วงที่นโยบายของรัฐบาลปรับเปลี่ยนรวดเร็ว เช่น ในกรณีการส่งเสริมรถยนต์เอ็นจีวี แต่มาภายหลักก็ไม่มีการส่งเสริมต่อ ทำให้ค่ายรถทุกรายต้องยกเลิกสายการผลิตรถยนต์เอ็นจีวี 

ดังนั้นภาคเอกชนจึงเสนอว่าควรจะมีการตั้งคณะกรรมการในอุตสาหกรรมรถยนต์ระดับชาติ ที่ประกอบจากตัวแทนทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพราะอุตสาหกรรมรถยนต์เกี่ยวข้องกับหลายกระทรวง เช่น กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงคมนาคม กระทรวงพลังงานและกระทรวงคลัง ดังนั้นควรจะมีคณะกรรมการเพื่อออกนโยบายให้มีความสอดคล้องกัน ไม่ใช่แต่ละกระทรวงออกนโยบายเอง ทำให้กระทบต่ออุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์