ปลอดภัยไว้ก่อน! 5 ข้อเตือนภัย คนขับหลังพวงมาลัยต้องรู้
อันตรายเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ! ไม่ใช่แค่เรื่องรองเท้าแตะเข้าไปขัดเบรกเท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายสาเหตุของอุบัติเหตุที่เราสามารถป้องกันได้
จากอุบัติเหตุรถกระบะหลุดโค้งด้วยความเร็วและชนกับรถจักรยานยนต์ภายในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน วานนี้ (24 ต.ค.) และมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย ซึ่งภายหลังผู้ขับรถกระบะได้เล่าถึงเหตุการณ์ว่า ตนเองได้ขับรถมาด้วยความเร็วประมาณ 80 กม.ต่อชั่วโมง โดยปกติตนจะถอดรองเท้าแตะขับรถ เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ รองเท้าแตะไปขัดอยู่ที่ตัวเบรก จึงทำให้เบรกไม่ได้ จนส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าว
เหตุการณ์นี้ถือเป็นอุทาหรณ์เตือนใจผู้ขับรถหลายคนที่มองข้ามความปลอดภัย โดยเฉพาะเรื่องความประมาท ขาดความเอาใจใส่ และมองข้ามเรื่องเล็กน้อย อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงอย่างไม่คาดคิดได้
ทั้งนี้ นอกจากสาเหตุเรื่องสิ่งของที่เข้าไปขัดกับเบรกแล้ว ยังมีอีกหลายสาเหตุของอุบัติเหตุที่เราสามารถป้องกันได้ ซึ่งข้อมูลจาก กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แนะข้อควรปฏิบัติในการใช้รถเพื่อป้องกันอุบัติภัยที่อาจเกิดขึ้นจากรถในกรณีต่างๆ ได้ ดังนี้
1. การสตาร์ทเครื่องยนต์ทิ้งไว้ขณะเปิดปิดประตูบ้าน กรณีเป็นรถระบบเกียร์อัตโนมัติ ให้เลื่อนคันเกียร์ตำแหน่ง P หรือดับเครื่องยนต์ให้เรียบร้อยก่อนลงรถไปเปิดปิดประตูรั้ว โดยเฉพาะบ้านที่มีพื้นที่ลาดเอียงและประตูรั้วแคบ ห้ามจอดรถบริเวณทางลาดชัน และเลื่อนเกียร์ไปไว้ตำแหน่ง N แล้วขึ้นเบรกมือไว้ เพราะเบรกมือไม่สามารถหยุดการเคลื่อนตัวของรถได้
หรือหากรถเลื่อนไหลลงมา ห้ามผลักหรือดันรถให้รถหยุด เพราะจะถูกรถอัดกระแทกติดกับประตูรั้ว ทำให้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตได้
2. ไม่ควรทิ้งเด็กไว้ในรถที่จอดสตาร์ทเครื่องยนต์ เพราะเด็กอาจซุกซนกดปุ่มต่างๆ ในรถเล่น โดยเฉพาะหากเด็กเลื่อนคันเกียร์ อาจทำให้รถเคลื่อนตัว ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุได้
สำหรับกรณีเด็กหลับไม่ควรติดเครื่องยนต์ทิ้งไว้แล้วเปิดแอร์ เพราะควันจากท่อไอเสียรถจะเข้ามาในรถยนต์ ทำให้เด็กขาดออกซิเจนเป็นสาเหตุให้เสียชีวิตได้ หากจำเป็นต้องทิ้งเด็กไว้ในรถตามลำพังในระยะเวลาไม่นาน ควรดับเครื่องยนต์ ลดระดับกระจกหน้าต่างรถเล็กน้อย ดึงเบรกมือ ปิดปุ่มที่จุดบุหรี่ พร้อมเตรียมกุญแจรถสำรองไว้ เพื่อป้องกันอันตรายจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเด็ก
3. การสตาร์ทเครื่องยนต์ขณะตรวจสภาพรถหรือซ่อมรถ ก่อนตรวจสอบเครื่องยนต์ ควรถอดเครื่องประดับ เนคไท ระมัดระวังเสื้อผ้าหรืออวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งเข้าใกล้ใบพัดหรือสายพานที่กำลังทำงาน รวมถึงห้ามสัมผัสเครื่องยนต์ เปิดหม้อน้ำในขณะที่เครื่องยนต์ร้อน
กรณีต้องตรวจสอบใต้ท้องรถให้จอดรถบนพื้นราบ ไม่ลาดเอียง พร้อมดับเครื่องยนต์ ห้ามเข้าไปอยู่ใต้ท้องรถ โดยมีเพียงแม่แรงรองรับ ต้องใช้ขาตั้งและยางรถยนต์รองให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันการถูกรถหล่นลงมาทับ
4. ไม่ควรสูบบุหรี่ในขณะขับรถ เพราะรถยนต์ใช้น้ำมันและก๊าซเป็นเชื้อเพลิง จึงเป็นแหล่งรวมความร้อน โดยเฉพาะหากก๊าซรั่วไหล หรือมีน้ำมันหกข้างฝาถังน้ำมันรถและผู้ขับรถจุดไฟแช็กหรือสูบบุหรี่บริเวณดังกล่าว จะทำให้เกิดการระเบิดและเพลิงไหม้รถ
5. ไม่ควรวางสิ่งของไว้ใต้เบาะนั่งผู้ขับขี่ ไม่ว่าจะเป็น รองเท้า ขวดน้ำ เป็นต้น ไว้บริเวณใต้เบาะที่นั่งคนขับ รวมถึงไม่วางสิ่งของไว้บนตักขณะขับรถ เพราะหากเบรกหรือหยุดรถกะทันหัน สิ่งของเหล่านี้อาจกลิ้งหรือกระเด็นตกเข้าไปติดใต้แป้นเบรก ทำให้ไม่สามารถหยุดรถได้ทัน ก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ เพื่อความปลอดภัย ควรวางไว้บริเวณใต้เบาะที่นั่งผู้โดยสารด้านหน้า ด้านหลังรถหรือกระโปรงท้ายรถ
ทั้งนี้ การเรียนรู้หลักปฏิบัติในการใช้รถในกรณีต่างๆ อย่างถูกวิธี จะช่วยลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุและเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง