‘ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้’ชื่นมื่นซัมมิตอาเซียนกรุงเทพฯ

‘ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้’ชื่นมื่นซัมมิตอาเซียนกรุงเทพฯ

‘ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้’ชื่นมื่นซัมมิตอาเซียนกรุงเทพฯ โดยผู้นำเกาหลีใต้และญี่ปุ่น หารือกันนอกรอบการประชุมผู้นำอาเซียนที่กรุงเทพฯ เป็นเวลา 11 นาที

การประชุมผู้นำอาเซียนที่กรุงเทพฯ กลายเป็นประเด็นเมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ไม่ได้มาประชุมด้วยตนเองแต่ส่งตัวแทนระดับรัฐมนตรีพาณิชย์และทูตพิเศษมา จากนั้นความสำคัญของการประชุมถูกโฟกัสอยู่ที่ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (อาร์เซ็ป) ที่ลุ้นกันว่าจะประกาศความสำเร็จกันที่กรุงเทพฯ ได้หรือไม่

อย่างไรก็ตาม เวทีผู้นำอาเซียนและการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องยังมีประเด็นอื่นให้น่าจับตามอง วานนี้ (4 พ.ย.) ประธานาธิบดีมุน แจอินของเกาหลีใต้ หารือกับนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่น ในช่วงที่ความสัมพันธ์สองประเทศดิ่งลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบหลายสิบปี หลังจากศาลฎีกาเกาหลีใต้พิพากษาเมื่อปี 2561 ให้บริษัทญี่ปุ่นหลายแห่งจ่ายเงินชดเชยให้กับแรงงานทาสชาวเกาหลีสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2

โก มิน จุง โฆษกประธานาธิบดีมุนเผยว่า ผู้นำเกาหลีใต้และญี่ปุ่น หารือกันนอกรอบการประชุมผู้นำอาเซียนที่กรุงเทพฯ เป็นเวลา 11 นาที

“ผู้นำทั้งสองยืนยันในหลักการที่ว่าปัญหาทวิภาคีควรแก้ไขด้วยการเจรจา” โฆษกหมายถึงการเจรจาระดับสูงระหว่างกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้และญี่ปุ่น ซึ่งประธานาธิบดีมุนเสนอว่า ถ้าจำเป็นก็ควรมีการเจรจาระดับสูง ส่วนนายกฯ อาเบะแนะนำให้ใช้ทุกวิถีทางที่มีนำมาแก้ปัญหา

ด้านสถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเคของญี่ปุ่น รายงานว่า ผู้นำทั้งสองเห็นพ้องกันถึงความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีใต้และญี่ปุ่น จึงควรแก้ไขข้อพิพาทด้วยการเจรจา ในโอกาสนี้นายกฯ อาเบะยังแสดงความเสียใจต่อการจากไปของมารดาประธานาธิบดีมุนเมื่อสัปดาห์ก่อน

น่าสังเกตว่าในช่วงที่เกาหลีใต้และญี่ปุ่นมีปัญหากันทั้งเรื่องการค้าและความมั่นคง ทั้งมุนและอาเบะไม่ได้ประชุมสุดยอดกันมากว่าหนึ่งปีแล้ว แม้จะเคยเจอและจับมือทักทายกันในการประชุมผู้นำกลุ่มประเทศจี 20 ในเดือน มิ.ย.ที่ญี่ปุ่น

ในงานพระราชพิธีราชาภิเษกของสมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะเมื่อเดือนก่อน มุนส่งนายกรัฐมนตรีลี นัก ยอน ไปร่วมพิธีในกรุงโตเกียว พร้อมจดหมายส่วนตัวเรียกร้องให้แก้ไขสัมพันธภาพระหว่างกัน แต่ความคืบหน้ามีเพียงเล็กน้อย

อาเบะย้ำกับมุนว่า ปัญหาแรงงานทาสช่วงสงครามแก้ไขไปแล้วตามสนธิสัญญาปี 2508 ที่สองประเทศสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน หลังจากญี่ปุ่นยึดคาบสมุทรเกาหลีเป็นอาณานิคมระหว่างปี 2453-2488 แต่แม้สงครามจะทำให้เพื่อนบ้านสองประเทศนี้เกิดความบาดหมาง แต่ทั้งเกาหลีใต้และญี่ปุ่นต่างก็เป็นพันธมิตรสหรัฐด้วยกันทั้งคู่ และต่างเผชิญกับภัยคุกคามจากอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธจากเกาหลีเหนือเหมือนๆ กัน

เกาหลีใต้เรียกร้องให้ญี่ปุ่นยกเลิกมาตรการทางการค้าที่ประกาศออกมาในปีนี้ ในช่วงที่ความสัมพันธ์ทวิภาคีเสื่อมถอย ถ้าญี่ปุ่นยอมทำตามที่ขอรัฐบาลโซลก็จะยกเลิกการยุติข้อตกลงแบ่งปันข่าวกรองทหารที่จะหมดอายุลงในเดือนนี้

นายจอง เคียง ดู รัฐมนตรีกลาโหมโสมขาวแถลงต่อสภาว่า ข้อตกลงแบ่งปันข่าวกรองถ้ามีประโยชน์ต่อความมั่นคงของชาติก็ควรเก็บไว้ แต่ปัญหาการค้าก็จำเป็นต้องได้รับการแก้ไขเช่นกัน

สำนักข่าวเกียวโดรายงานด้วยว่า ในวันเดียวกันนั้นนายกฯ อาเบะยังได้เจรจากับนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียงของจีน หารือเรื่องที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงไปเยือนญี่ปุ่นในปีหน้า รวมถึงประเด็นอื่นๆ เช่น การพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ และอาจยกประเด็นอ่อนไหวทางการเมืองอย่างฮ่องกงและไต้หวันมาหารือ โดยอาเบะจะผลักดันให้รัฐบาลปักกิ่งปล่อยตัวศาสตราจารย์ชาวญี่ปุ่นที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในจีน

ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นกับจีนมักตึงเครียดบ่อยๆ ในเรื่องประวัติศาสตร์ช่วงสงครามและข้อพิพาทดินแดน แต่ตอนนี้ประเทศเพื่อนบ้านทั้งสองบอกว่าความสัมพันธ์ของตนกำลังกลับคืนมาสู่เส้นทางปกติ

สัญญาณที่บ่งชี้ถึงสัมพันธ์อันอบอุ่น เห็นได้จากผู้นำต่างผลัดกันเยี่ยมเยือน อาเบะเดินทางไปกรุงปักกิ่งเมื่อเดือน ต.ค.2561 ส่วนสีไปร่วมประชุมผู้นำกลุ่มประเทศจี 20 ที่นครโอซากาในเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา พร้อมเจรจาตัวต่อตัวกับอาเบะ

ขณะนี้ทั้งรัฐบาลโตเกียวและปักกิ่งเห็นชอบในหลักการที่ประธานาธิบดีสีจะมาเยือนญี่ปุ่นในฤดูใบไม้ผลิปี 63 ตามคำเชิญของนายฯก อาเบะที่อยากให้ผู้นำจีนมาเยือนตอนที่ดอกซากุระบาน

ส่วนผู้นำญี่ปุ่นนั้นจะไปเยือนจีนในเดือน ธ.ค.เพื่อร่วมประชุมผู้นำจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ แม้ว่าความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างโตเกียวกับโซลเสื่อมถอยลงจากเรืื่องเงินชดเชยแรงงานทาสช่วงสงครามและข้อพิพาทการค้า

ส่วนเกาหลีเหนือที่อยู่ใกล้เคียงกันเมื่อเร็วๆ นี้ก็ยิงขีปนาวุธหลายครั้ง ระหว่างที่การเจรจาลดอาวุธนิวเคลียร์กับสหรัฐไม่คืบหน้าไปไหน ปักกิ่งนั้นเป็นมิตรสนิทและทรงอิทธิพลที่สุดของรัฐบาลเปียงยาง ขณะที่โตเกียวไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูตกับโสมแดง

อาเบะแสดงตนว่าพร้อมพบกับคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือโดยไม่มีเงื่อนไข เพื่อพยายามหาทางออกให้กับปัญหาเปียงยางลักพาตัวพลเมืองญี่ปุ่นในช่วงทศวรรษ 70 และ 80

จากกรุงเทพฯ ไปที่กรุงโซล สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ลี อุน แจ ส.ส.เกาหลีใต้แถลงหลังประชุมกับหน่วยข่าวกรองแห่งชาติ (เอ็นไอเอส) ว่า เกาหลีเหนือและสหรัฐจะประชุมคณะทำงานรอบใหม่ เร็วสุดกลางเดือน พ.ย. ช้าสุดไม่เกินต้นเดือน ธ.ค. โดยคิม จองอึนต้องการพบกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อีกครั้งในเดือน ธ.ค. และไปเป็นได้ว่าจะไปจีนก่อน

ก่อนหน้านี้ในเดือน ก.ย.เจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือและสหรัฐพบกันที่กรุงสต็อกโฮล์มของสวีเดน เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ทรัมป์-คิม เห็นชอบร่วมกันในเดือน มิ.ย. ให้เปิดการเจรจาลดอาวุธนิวเคลียร์อีกครั้งจากที่ล่มไปในการประชุมที่เวียดนามเมื่อเดือน ก.พ.แต่การเจรจาที่สวีเดนก็ต้องล่มลง ทูตโสมแดงบอกว่าสหรัฐไม่ยอดลดราวาศอก

ด้านโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสวีเดนหวังว่า การเจรจาระหว่างสหรัฐและเกาหลีเหนือจะเริ่มต้นใหม่ในเร็วๆ นี้ และสวีเดนยินดีเป็นเจ้าภาพ