ลุ้นทดสอบ 1,630 จุด

ลุ้นทดสอบ 1,630 จุด

ดัชนีวานนี้ปิดปรับตัวขึ้นแรง เช่นเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาค โดยได้แรงหนุนหลักจากดัชนีดาวโจนส์ และราคาน้ำมัน WTI ที่คืนวันศุกร์ปิดปรับตัวขึ้นแรง

หลังเผยตัวเลขการจ้างานนอกภาคเกษตรที่ออกมาดีเกินคาด และการเจรจาการค้าสหรัฐ-จีนคืบหน้า ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,622.25 จุด (+29.73 จุด) Volume 6.5 หมื่นลบ. ต่างชาติ -345.59 ลบ. TFEX Net +16,816 สัญญา ตลาดตราสารหนี้ -744 ลบ.

ปัจจัยบวก / ปัจจัยลบ

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 114.75 จุด +0.42% หลังรมว.พาณิชย์สหรัฐแสดงความเชื่อมั่นว่าสหรัฐและจีนจะบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรกในเดือนนี้

+ราคาน้ำมันดิบ WTI +34 เซนต์ +0.6% ปิดที่ 56.54 ดอลลาร์/บาร์เรล ขานรับความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน รวมทั้งตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่ขยายตัวแข็งแกร่งเกินคาดในเดือนต.ค.

+เอกชนคาดกนง.ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย. ในการประชุมวันที่ 6 พ.ย.นี้เพื่อลดแรงกดดันให้ค่าเงินบาทแข็งและกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาพรวมที่ชะลอตัว

-สหรัฐเผยยอดสั่งซื้อภาคโรงงานในเดือนก.ย.ลดลงมากกว่าคาด

-มาร์กิตเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของยูโรโซนอยู่ที่ระดับต่ำที่สุดในรอบ 7 ปี

และต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ถึงภาวะหดตัว

-Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD -1.4 หมื่นลบ. ค่าเงินบาท 30.21 บาท/US

*จับตาสหรัฐเผยดุลการค้าเดือนก.ย. PMI ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนต.ค.(มาร์กิต) ดัชนีภาคบริการเดือนต.ค.(ISM) และตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงานเดือนก.ย.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ หลังรัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐ เชื่อว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรกกับจีนได้ในเดือนนี้ ขณะที่ปัจจัยในประเทศนักลงทุนยังคงติดตามการประชุมกนง.ในวันพรุ่งนี้คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,615-1,630 จุด

 

กลยุทธ์การลงทุน

  • Sector ที่แข็งกว่าตลาด ICT (ADVANC) และ TRANS (AOT BEM และ BTS)
  • หุ้นเด่นเดือนพ.ย. (TACC PSTC BCH)

หุ้นรายงานพิเศษ

IP เข้าซื้อขายวันแรก ราคาเหมาะสม 7.66 บาท

**บล.โกลเบล็กเป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ซึ่งจะได้รับค่าธรรมเนียมในฐานะผู้จัดจำหน่าย**

  • ดำเนินธุรกิจพัฒนา คิดค้น และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ความงามสำหรับคนและผลิตภัณฑ์สุขภาพสำหรับสัตว์เลี้ยงและปศุสัตว์ โดยมีสัดส่วนรายได้ปี 2561 อยู่ที่ 71% และ 29% ตามลำดับ โดยผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทคือ ผลิตภัณฑ์ความงามสำหรับคน ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ซินไบโอติก ผลิตภัณฑ์เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันร่างกาย ผลิตภัณฑ์โอเมก้า 3 ผลิตภัณฑ์รวมสารอาหารเพื่ออวัยวะสำคัญ ผลิตภัณฑ์รวมทั้งสารต้านอนุมูลอิสระและสารต้านการอักเสบ และผลิตภัณฑ์วิตามินรวม
  • คาดว่ากำไรปี 2562 อยู่ที่ราว 42.8 ล้านบาท เติบโต 44%YoY คาดรายได้ราว 392 ล้านบาท +25% YoY เติบโตจากการเริ่มขยายช่องทางการจัดจำหน่ายสู่ร้านค้าปลีกสมัยใหม่เพิ่มขึ้นส่งผลให้สินค้าเข้าถึงผู้บริโภคในวงกว้าง อย่างไรก็ตามอัตรากำไรขั้นต้นอาจอ่อนตัวลงจาก 60% สู่ 56% เนื่องจากการนำสินค้าเข้าไปจำหน่ายในร้านค้าปลีกสมัยใหม่มีค่าใช้จ่ายแรกเข้าค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับการจำหน่ายผ่านช่องทางโรงพยาบาล ในปี 2562 เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการโฆษณาเพื่อสร้างแบรนด์สินค้าให้เป็นที่รู้จัก
  • การประเมินมูลค่าหุ้น : ฝ่ายวิจัยประเมินมูลค่าด้วยวิธี Prospective P/E Ratio โดยอ้างอิง P/E Ratio เฉลี่ยย้อนหลัง 1 ปีของ MEGA ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยและ Blackmore ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหุ้นออสเตรเลียที่ 25.3 เท่า ได้ราคาเหมาะสมที่ 7.66 บาทต่อหุ้น

หุ้นมีข่าว   

·         TNP คงคำแนะนำ ซื้อราคาเหมาะสม 2.56 บาท

รายงานกำไร 3Q62 เท่ากับ 19.4 ลบ. (+24.3%YoY -7.3%QoQ) น้อยกว่าที่เราคาดที่ 22 ลบ. (ต่ำคาด 11%) เนื่องจาก SSSG กลับมาหดตัว 2.1%QoQ ตามปัจจัยฤดูกาล ประกอบกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ อาทิ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และ ชิม ช้อป ใช้จะถูกเลื่อนมารับรู้ใน 4Q62 แทน

คาดกำไร 4Q62 จะ Peak ที่สุดของปี จากการเข้าสู่ High Season ของธุรกิจ รวมทั้ง ได้แรงหนุนจากมาตรการภาครัฐที่ถูกเลื่อนมารับรู้จาก 3Q62 ทั้งนี้ เรายังคงประมาณการกำไรทั้งปี 62 เท่าเดิมที 82 ลบ. +28%YoY คงคำแนะนำ ซื้อราคาเหมาะสม 2.56 บาท

·         (-) IRPC (Bloomberg Consensus 4.57 บาท)  ผลประกอบการ 3Q62 ขาดทุนสุทธิ 1.32 พันลบ. -151%YoY และ -360%QoQ และแย่กว่าที่ตลาดคาด 58%โดยถูกกดดันจากค่าการกลั่นรวมที่ปรับตัวลดลงแม้ว่าค่าการกลั่นจะปรับตัวดีขึ้นแต่ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ ปิโตรเคมีปรับตัวลดลงจากผลกระทบของสงครามการค้า รวมถึงต้นทุน Crude Premium เพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งมีผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมัน 1,333 ล้านบาทเข้ามากดดันผลประกอบการเพิ่มเติม

·         ความเห็น ให้ระวังแรงขายในหุ้นปิโตรเคมีโดยเฉพาะ PTTGC และ IVL เพิ่มเติมเนื่องจากผลประกอบการของ IRPC ออกมาแย่กว่าที่ตลาดคาดไว้ ทำให้มีความกังวลว่าหุ้นดังกล่าวผลประกอบการอาจแย่กว่าที่คาดไว้เช่นกัน

·          (+) GUNKUL (Bloomberg Consensus 4.17 บาท)  โชว์คว้างานก่อสร้างโซลาร์รูฟ จาก มูราตะ อิเล็กทรอนิกส์(ประเทศไทย)กำลังการผลิตติดตั้งรวม 3.99 MW หนุนกำลังการผลิตไฟฟ้าในมือเพิ่มขึ้น ฟาก โศภชาพร้อมลุยยื่นประมูล กฟภ.-กฟผ. มูลค่างานไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)

·         (+) IHL (Bloomberg Consensus - บาท) ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ภายใต้แบรนด์ “GROW PLUS” อะมิโน โปรตีนชนิดสเปรย์ แปรรูปจากเศษหนัง เพื่อใช้งานในครัวเรือน เปิดจำหน่ายผ่านออนไลน์ ลงทุนผ่านบริษัทย่อย อินเตอร์ กรีนตั้งเป้า 3-5 ปี ดันเข้าจดทะเบียนใน SET (ที่มา ข่าวหุ้น)

·          (+) UPA (Bloomberg Consensus 79.89 บาท)  เฮ! ปิดดีลลงนามเซ็นสัญญาซื้อขายหุ้นโครงการน้ำประปาแสนดินใน สปป.ลาว มูลค่ารวม 80.85 ล้านบาท บุ๊กรายได้ทันที สร้างรายได้ประจำ ส่งซิกแผนเจรจาร่วมทุนโซลาร์ฟาร์มเวียดนาม ขนาดกำลังผลิต 50 เมกะวัตต์ หวังหนุนผลประกอบการเทิร์นอะราวด์ (ที่มา ข่าวหุ้น)

·         (+) SUSCO (Bloomberg Consensus 79.89 บาท)   เผยยอดขายน้ำมันปีนี้โตต่อเนื่อง ลุ้นไตรมาส 4/62 ช่วงไฮซีซั่นมีความต้องการใช้น้ำมันสูง หนุนผลประกอบการปีนี้มีโอกาสทำสถิติสูงสุด เป้ารายได้ 3 หมื่นล้านบาท ขณะที่ยอดขายน้ำมันผ่านปั๊มขยับเพิ่ม 4% (ที่มา ข่าวหุ้น)

·         (+) LPH (Bloomberg Consensus - บาท)   แย้มแผนปี 2563 เตรียมสร้างตึกใหม่ มูลค่า 300 ล้านบาท จับมือพันธมิตรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญร่วมลงทุนเปิดศูนย์รักษาเฉพาะทาง คาดเปิดให้บริการปี 2565 ระบุไตรมาส 4/2562 เตรียมบุ๊กกำไรพิเศษจากการขายตึกหนุนผลงาน ด้านการให้บริการคนไข้ต่างชาติ และบริการตรวจสุขภาพนอกสถานที่โตเกินคาด (ที่มา ทันหุ้น)

  • (+) WHA (Bloomberg Consensus 90 บาท) เซ็น MOU บริษัท กราวด์ อิงค์ ประเทศญี่ปุ่น ภายใต้โครงการ "Open Innovation Columbus" เพื่อพัฒนาโซลูชั่นด้านโลจิสติกส์อันล้ำสมัย และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านโลจิสติกส์ในประเทศไทย รองรับการเติบโตแบบก้าวกระโดดของตลาดและอุตสาหกรรม(ที่มา ทันหุ้น)
  • (+) ALL (Bloomberg Consensus 3.39 บาท)  เล็งเปิดให้บริการ เดอะ นิว ฟอรั่ม พลาซ่า จังหวัดชลบุรี ช่วงไตรมาส 2/2563 หลังได้ผู้รับเหมาก่อสร้างและปรับปรุงโครงการแล้ว พร้อมรับรู้รายได้ 200 ล้านบาทต่อปี ปัจจุบันมีร้านค้าติดต่อเช่าพื้นที่แล้วกว่า 80% ขณะที่เตรียมปรับแผนเปิดโครงการใหม่ไตรมาส 1/2563 รุกคอนโด Low Rise ตอบโจทย์มาตรการอสังหาของภาครัฐ (ที่มา ทันหุ้น)