“หน่วยพญาเสือ” ขยายผลจับกุมขบวนการค้าสัตว์ป่าข้ามชาติและออนไลน์ หลังพบใช้รถประจำทางขนถ่ายสินค้า
พบทั้งสัตว์ป่าตามบัญชีไซเตสและสัตว์ป่าคุ้มครองถูกลักลอบค้าอย่างต่อเนื่อง
โดยในช่วงกว่าอาทิตย์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (พญาเสือ) กรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้วางแผนแกะรอยกลุ่มลักลอบค้าสัตว์ป่าออนไลน์และค้าสัตว์ป่าข้ามชาติ ขนถ่ายสินค้าโดยอาศัยรถประจำทางในประเทศและสถานีชุมทางใหญ่หมอชิตและสายใต้ใหม่เป็นเครื่องมือในการขนถ่ายสัตว์ป่าระหว่างผู้ค้าและลูกค้า
หลังจากพบเบาะแสในโลกออนไลน์จากกลุ่มผู้ใช้บัญชีเฟสบุ๊คค้าสัตว์ป่าในชื่อต่างๆ อาทิ ตุลาคม คนดวงดี ในวันที่ 20 ตุลาคม ซึ่งมีการโพสต์ขายนางอาย ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองของไทย
เจ้าหน้าที่จึงทำการติดต่อขอซื้อนางอายในราคา 3,500 บาท โดยโอนเงินเข้าบัญชี นายจีรติ และมีการส่งของโดยการฝากส่งโดยรถทัวร์โดยสารปรับอากาศ กรุงเทพ-ยะลา-เบตง และนัดส่งมอบบริเวณพื้นที่หน้าปั๊มน้ำมัน ถนนเพชรเกษม ขาเข้ากรุงเทพฯ
ในการติดต่อขอซื้อนางอายครั้งที่ 2 ผู้ค้าไหวตัวทัน เจ้าหน้าจึงที่มีความเห็นร่วมกันที่จะให้มีการออกหมายเรียกนายจีรติมาสอบสวนโดยมอบให้ บก.ปทส. เป็นผู้ดำเนินการต่อไป
ต่อมาในวันที่ 30 ตุลาคม ชุดพญาเสือ สนธิกำลังร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้ง บก.ปทส. ได้ทำการสืบสวนทางออนไลน์ จากผู้ใช้ชื่อเฟสบุ๊ค “ตรงนี้ วันที่รอคอย” , “นากน้อย แสนรู้” , “วัยรุ่น สร้างตัว” ซึ่งพบพฤติกรรมค้าขายสัตว์ป่าคุ้มครองและสัตว์ป่าสงวน จึงได้ทำการติดต่อล่อซื้อสัตว์ป่าอีกครั้ง และทำการติดตามจนทราบที่อยู่ของผู้ต้องสงสัย ชื่อ นายวุฒินันต์
คณะ จนท.จึงได้ส่งสายลับไปสังเกตการณ์ในที่พักใน จ.พัทลุง และพบว่ามีสัตว์ป่าเก็บซุกซ่อนอยู่เพื่อรอส่งจำหน่ายเป็นจำนวนมาก คณะ จนท.จึงแสดงตัวเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ตรวจค้นจนพบสัตว์ป่าอยู่ในกล่องและกรง ได้แก่นากเล็กเล็บสั้น (Aonyx cinerea) จำนวน 17 ตัว , ซากนากเล็กเล็บสั้น (Aonyx cinerea) จำนวน 1 ซาก, และชะนีธรรมดาหรือชะนีมือขาว (Hylobates lar) จำนวน 1 ตัว
ต่อมานายวุฒินันต์ได้รับการติดต่อจากนายเอกรัฐ ให้นำส่งนากเล็กเล็บสั้น 10 ตัว และชะนี 1 ตัว ในจังหวัด โดยมีเป้าหมายจะส่งจำหน่ายไปยังอำเภอหาดใหญ่ต่อ คณะ จนท.จึงได้วางแผนดักซุ่มอยู่บริเวณที่นัดหมายส่งมอบสัตว์ป่าดังกล่าว จนนายเอกรัฐปรากฎตัว คณะ จนท. จึงได้แสดงตัวเข้าทำการจับกุม พร้อมนำตัวผู้ถูกจับและของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองพัทลุงเพื่อดำเนินคดี ในฐานความผิดตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า, “มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 19 และมาตรา 47, “ร่วมกันค้าสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 20 และมาตรา 4, และ “ห้ามมิให้ผู้ใดช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ซื้อ หรือรับไว้โดยประการใดซึ่งสัตว์ป่า ตามมาตรา 55
และล่าสุดเมื่อ 04.00 น วานนี้ ชุดพญาเสือและชุดกำลังสนธิได้ดักจับกุมผู้กระทำผิดระหว่างขนถ่ายสัตว์ป่าโดยอาศัยรถประจำทางสายสุไหงโกลก-กรุงเทพมหานคร หลังได้รับเบาะแสว่า จะมีการนัดหมายส่งสัตว์ป่าคุ้มครอง และสัตว์ป่าตามบัญชีแนบท้ายอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ (CITES)
โดยคณะ จนท. ได้ดำเนินการเข้าตรวจสอบรถโดยสารประจำทางดังกล่าวระหว่างเส้นทางในจังหวัดเพชรบุรี และได้แสดงตัวเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
คณะ จนท.ประจำรถโดยสารคันดังกล่าวนำตรวจสอบโดยเปิดช่องเก็บสัมภาระให้แก่ คณะ จนท. ตรวจสอบ จนพบกล่องลังพลาสติกและลังกระดาษบรรจุสัตว์ป่าคุ้มครองและสัตว์ป่าตามบัญชี CITES ซึ่งเป็นชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ รวมทั้งสิ้นจำนวน 9 กล่อง
คณะ จนท.จึงได้สืบสวนขยายผล และพบว่า สัตว์ป่าดังกล่าวเตรียมนำส่งให้กับบุคคลต่างๆที่ตามจับกุมได้ 3 ราย ณ สถานีหมอชิตและสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ คือ นายธนสิทธิ์ ซึ่งรับ นกกระตั้วขาว (White ccockatoo) 2 ตัว, นกโนรีแดง (Red Loly) 37 ตัว, ซากนกโนรีแดงนกโนรีแดง (Red Loly) จำนวน 3 ซาก, และนกโนรีแซตเตอริ่ (Chattering Loly) 10 ตัว ซึ่งป็นสัตว์ป่าตามบัญชี CITES หมายเลข 2, นายอิมรอน ซึ่งรับนกกางเขนดงหรือนกบินหลาดง (Copsychus malabaricus) จำนวน 3 ตัว ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง, และนายทวีพงษ์ ซึ่งรับนกกระตั้วโมลัคกัน (Moluccan ccockatoo) 1 ตัว ซึ่งเป็นสัตว์ป่าตามบัญชี CITES หมายเลข 1 ห้ามการค้า
คณะ จนท. จึงนำตัวผู้ถูกจับและของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีต่อไป ในฐานความผิดตามมาตรา 19 ฐานมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, มาตรา 20 ฐานค้าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, มาตรา 23 ภายใต้บังคับมาตรา 24 ฐานนำเข้าหรือส่งออกซึ่งสัตว์ป่าหรือซากสัตว์ป่าชนิดที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด หรือนำผ่านซึ่งสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง หรือซากสัตว์ป่าดังกล่าว โดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดี, มาตรา 24 ฐานนำเข้า ส่งออก หรือนำผ่าน ซึ่งสัตว์ป่าหรือซากสัตว์ป่าชนิดที่ต้องมีใบอนุญาตหรือใบรับรองให้นำเข้า ส่งออก หรือนำผ่าน ตามความตกลงระหว่างประเทศว่าด้วยการค้าสัตว์ป่าและซากของสัตว์ป่า โดยไม่มีใบอนุญาตหรือใบรับรองจากอธิบดี, และ มาตรา 55 ฐานช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้ โดยประการใดซึ่งสัตว์ป่าหรือซากของสัตว์ป่าอันได้มาโดยการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า
นายยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษา รมว. ทส. ได้ร้องขอให้ผู้ค้าเลิกพฤติกรรมที่ส่งผลกระทบต่อสัตว์ป่าในระหว่างการแถลงผลการจับกุมผู้ค้าสัตว์ป่าออนไลน์ชุดใหญ่ในวันที่ 30 ตุลมคมที่ผ่านมา ในห้วงเวลาที่การลักลอบค้าสัตว์ป่ายังคงเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อสัตว์ป่าทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ โดยอาศัยเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างเฟสบุ๊ค และสื่อออนไลน์ต่างๆ ที่สร้างความกังวลให้แก่องค์กรอนุรักษ์ทั่วโลกเนื่องจากความซับซ้อนของเทคโนโลยีที่ทำให้การลักลอบค้าสัตว์ป่าหลบลอดสายตาและการตรวจจับได้ยากขึ้น
ภาพ/ ทีมพญาเสือ