'บีซีซี' แถลงปมประท้วง ย้ำเงียบ-อดทนมาตลอด
โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ออกแถลงการณ์ข้อเท็จจริงความขัดแย้งภายใน ชี้แจงร่ายยาวพยายามเงียบและอดทนอดกลั้นมาตลอด
เมื่อวันที่ 7 พ.ย. มัคนายกวิศาล มหชวโรจน์ ประธานกรรมการบริหารโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ส่งแถลงการณ์เรื่อง "ข้อเท็จจริงเบื้องต้น กรณี โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย" ระบุว่า ตามที่มีข่าวเรื่องโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัยในช่วงระยะเวลาสามเดือนที่ผ่านมา โรงเรียนฯ และสภาคริสตจักรในประเทศไทย (ผู้รับใบอนุญาต) ได้อดทนและดำเนินการไปตามขั้นตอนภายในให้ดี ถูกต้อง และยุติธรรม เพื่อให้สถานการณ์จะได้คลี่คลายลง แต่จนถึงวันนี้ กระบวนการก็ยังไม่สิ้นสุดลง จึงสมควรที่โรงเรียนฯ จะเริ่มให้ข้อมูลแก่สาธารณชน เพื่อให้สามารถรับทราบข้อมูลได้ครบถ้วนมากขึ้น ดังต่อไปนี้
1. โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย เป็นสถาบันหนึ่งในสังกัด มูลนิธิสภาคริสตจักรในประเทศไทย รวมถึง โรงเรียน 28 แห่ง , โรงพยาบาล 8 แห่ง , มหาวิทยาลัย 2 แห่ง และอื่นๆ โดยทุกสถาบันดาเนินการอยู่ภายใต้ ธรรมนูญของสภาคริสตจักรในประเทศไทยและระเบียบต่างๆ เดียวกัน รวมถึง
(1) “ระเบียบข้อบังคับการบริหารหน่วยงานและสถาบันของสภาคริสตจักรในประเทศไทยและมูลนิธิแห่งสภาคริสตจักรในประเทศไทย ค.ศ. 2009” ซึ่งเป็น ข้อบังคับการบริหารของหน่วยงานและสถาบัน มีขึ้นเพื่อวางกรอบการทำงาน สถาบันให้การทำงานจะตรวจสอบได้ตามหลักธรรมาภิบาล และในเวลาเดียวกันก็เป็นเกราะคุ้มกันการทำงานของบุคลากรว่าอยู่ในระบบอันถูกต้องและเหมาะสมแล้ว
(2) “หลักเกณฑ์การจัดซื้อจัดจ้างของสภาคริสตจักรในประเทศไทยและมูลนิธิแห่งสภาคริสตจักรในประเทศไทย ค.ศ. 2016” ซึ่งเป็นหลักเกณฑ์สำหรับใช้เพื่อจัดซื้อจัดจ้าง มีขึ้นเพื่อ ให้สถาบันจะได้รับประโยชน์สูงสุดในการจัดซื้อและจัดจ้าง เพื่อการป้องกันความเสี่ยง โดยกำหนดให้มีการเปรียบเทียบราคาก่อนซื้อ ให้ตั้งคณะกรรมการช่วยพิจารณา เป็นต้น นอกจากนี้ยังเพื่อคุ้มครองบุคลากรผู้ปฏิบัติหน้าที่ ผู้มีอำนาจอนุมัติสั่งจ่าย และจัดซื้อจัดจ้าง ว่าได้ดำเนินการอย่างรัดกุม เหมาะสม และตามขั้นตอนแล้ว
ซึ่งธรรมนูญและระเบียบเหล่านี้ หน่วยงานสถาบันจะได้รับการอบรมร่วมกันเป็นประจำ และหากมีข้อสงสัยก็สามารถสอบถามกลับมายังมูลนิธิแห่งสภาคริสตจักรในประเทศไทยได้ หากมีข้อสงสัยหรือไม่แน่ใจขณะปฏิบัติงานจริง ซึ่งเป็นสิ่งที่หน่วยงานและสถาบันทุกแห่งปฏิบัติกันมา
เมื่อมีการปฏิบัติงานใดๆ ที่ไม่ถูกต้องตามระเบียบ คณะกรรมการบริหารโรงเรียน จะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ เพื่อตรวจสอบและหาความจริงในสิ่งที่เกิดขึ้น ว่า การปฏิบัติที่ไม่ถูกระเบียบนั้นบกพร่องอย่างไร รุนแรงหรือไม่ หรือเจตนาเป็นอย่างไร ซึ่งเป็นแนวทางปกติที่หน่วยงานเอกชนหรือแม้แต่หน่วยงานราชการจะมีขั้นตอนภายในสำหรับตรวจสอบบุคลากรของตนเอง ตัวอย่างเช่น เมื่อมีการจัดซื้อจัดจ้างที่ขัดต่อระเบียบ ไม่มีการเปรียบเทียบราคากับผู้ผลิตหลายรายก่อนจัดซื้อ ไม่มีการตั้งกรรมการจัดซื้อจัดจ้างและตรวจรับ ไม่มีการสั่งจ่ายที่ตรวจสอบได้แต่จ่ายเป็นเงินสดในจานวนเงินที่สูงเกินกำหนดเป็นประจำ มีการแบ่งชำระเพื่อให้การเบิกจ่ายไม่เกินวงเงินที่สามารถอนุมัติได้ หรือมีการเบิกเงินสดย่อยเกินกำหนดเป็นจำนวนมาก เป็นต้น หากเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ คณะกรรมการบริหารโรงเรียนฯ ก็จะต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า เกิดขึ้นได้อย่างไร ผิดพลาดอย่างไร แก้ไขได้หรือไม่ เกิดความเสียหายหรือไม่ และต่อไปควรจะปรับปรุงแก้ไขอย่างไร ผู้ที่กระทำผิดคือใคร เจตนาหรือไม่ มีการเรียกผู้ถูกกล่าวหาและผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าให้ข้อมูล และอื่นๆ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นขั้นตอนภายในหน่วยงานทั้งสิ้น
สำหรับประเด็นที่เป็นข่าวอยู่ ณ ตอนนี้ เนื่องจากการดำเนินการทั้งหมดยังไม่สิ้นสุดลงโดยสมบูรณ์ ประกอบกับวงเงินที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบมีจำนวนรวมสูงมากกว่าหนึ่งร้อยยี่สิบล้านบาท ซึ่งยังไม่มีมติอนุมัติจากกรรมการบริหารโรงเรียน หรือมูลนิธิแห่งสภาคริสตจักรในประเทศไทย ทำให้โรงเรียนฯ และสภาคริสตจักรฯ จึงยังไม่สามารถเผยแพร่ข้อเท็จจริงอันเกี่ยวเนื่องกับเรื่องดังกล่าวได้ เพราะจะกระทบกระเทือนต่อผู้ถูกสอบสวน และความสงบเรียบร้อยของโรงเรียนและบุคลากรเอง ที่ผ่านมา โรงเรียนฯ และสภาคริสตจักรฯ ได้อดทนอดกลั้นต่อข่าวที่ไม่ครบถ้วน และการสื่อสารเพื่อหวังเจตนาบางประการอย่างเสมอมา แต่โรงเรียนฯ และสภาคริสตจักรฯ ขอยืนยันต่อ ท่านผู้เกี่ยวข้องทุกคนว่า ตั้งแต่เริ่มเกิดเหตุการณ์ขึ้นมา การตัดสินใจ การเลือกปฏิบัติต่อผู้ถูกล่าวหา ได้ทำโดยมุ่งประโยชน์สูงสุดของนักเรียนเป็นสำคัญ โดยพยายามอดทน อ่อนสุภาพ และไม่ตอบโต้ต่อคากล่าวโทษว่าร้าย เพื่อให้กระทบกับนักเรียน บุคลากรและโรงเรียนให้น้อยที่สุด ซึ่งกลายเป็นว่า กลับถูกใช้ความเงียบกลับมาโจมตีมากขึ้นรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในสื่ออินเทอร์เน็ต และระหว่างการชุมนุม ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเศร้าใจอย่างยิ่ง และที่สาคัญสถานการณ์ต่างๆ ก็กระทบกับการเรียนการสอนมากขึ้นเรื่อยๆ โรงเรียนเห็นว่า ความขัดแย้งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้และควรได้รับการแก้ไข แต่ก็ปรารถนาที่ให้ความขัดแย้งนั้นจะไม่กระทบต่อนักเรียน ต่อการเรียนการสอน และอยู่ในรูปแบบและลักษณะที่เหมาะสม เพื่อว่าวันหนึ่ง เมื่อเราทุกคนมองกลับมา จะเราไม่เสียใจในบางสิ่งที่ได้ทำลงไป
ที่ผ่านมา มีหลายสถาบัน ทั้งโรงเรียนและโรงพยาบาล ที่มีกระบวนการตรวจสอบลักษณะเดียวกันนี้เกิดขึ้น มีทั้งผู้ถูกลงโทษตามข้อสมมุติฐาน และที่ตัดสินว่าไม่มีเจตนาและยังคงปฏิบัติหน้าที่อยู่ แต่ไม่เคยมีเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันนี้เกิดขึ้น การตอบสนองของโรงเรียนฯ และสภาคริสตจักรฯ จึงไม่ทันการ และไม่ได้คาดหวังการตอบสนองในลักษณะนี้แต่อย่างใด จึงเรียนขออภัยท่านผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมา ณ ที่นี้ ด้วย โดยจะปรับปรุงและเผยแพร่ข้อมูลเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องโดยเร็ว
โรงเรียนฯ จึงขอเรียนแก่ผู้ปกครอง คณะครู บุคลากร และศิษย์ปัจจุบัน และศิษย์เก่าทุกๆ ท่านว่า โรงเรียนฯ จะพยายามอย่างดีที่สุด ในการให้การศึกษาแก่นักเรียนของเราทุกคน พร้อมทั้งยังคงไว้ซึ่ง สปิริต บีซีซี โดย มีความจงรักภักดี , มีความซื่อสัตย์สุจริต , มีความรับผิดชอบและมีความรักสามัคคี ต่อไป
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
มัคนายกวิศาล มหชวโรจน์
ประธานกรรมการบริหารโรงเรียน
กรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย