เทียบ‘เบร็กซิท’-‘เจเรมี คอร์บิน’ใครเลวร้ายกว่า
ชาวอังกฤษจะได้เลือกตั้งอีกครั้งในวันที่ 12 ธ.ค.นี้ เพื่อผ่าทางตันวิกฤติเบร็กซิท หรือการออกจากสหภาพยุโรป (อียู) แต่เกิดคำถามว่า ระหว่างเบร็กซิท กับเจเรมี คอร์บิน หัวหน้าพรรคแรงงาน อันไหนเลวร้ายกว่ากัน
สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า สัปดาห์นี้นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน เพิ่งวิจารณ์ความเกลียดชังระบบทุนนิยมของ คอร์บิน เปรียบเทียบเขากับโจเซฟ สตาลิน ผู้นำเผด็จการของสหภาพโซเวียต เพราะผู้นำพรรคแรงงานประกาศว่าจะกระจายความมั่งคั่งเสียใหม่ เพื่อแก้ปัญหาความเหลืื่อมล้ำ ยึดกิจการเอกชนมาเป็นของรัฐ ซึ่งนโยบายเหล่านี้ถูกหลายคนมองว่า ไม่เป็นมิตรกับภาคธุรกิจและคนมีเงิน
“โดยรวมแล้วลูกค้าดูเหมือนกังวลกับเจเรมี คอร์บิน ยิ่งกว่าเบร็กซิทเสียอีก” จอห์น ฮิลล์ นักวางแผนการเงินบริษัทจัดการสินทรัพย์เซาเดอร์ซันเฮาส์ ในกรุงลอนดอนกล่าว
หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดี้ยน อ้างทนายความและนักบัญชีที่ทำงานให้กับตระกูลมั่งคั่งของอังกฤษระบุ หลายคนวางแผนออกไปภายในไม่กี่นาที ถ้าคอร์บินชนะเลือกตั้ง
การเลือกตั้งก่อนคริสต์มาสรอบนี้หัวใจสำคัญอยู่ที่ การที่อังกฤษต้องใช้นโยบายรัดเข็มขัดมานานกว่า 10 ปี เศรษฐกิจชลอตัวท่ามกลางความไม่แน่นอนเรื่องเบร็กซิท พร้อมๆ กับความเหลื่อมล้ำเพิ่มขึ้นทุกขณะ
คอร์บิน ประกาศว่า รัฐบาลพรรคแรงงานภายใต้การนำของเขาจะจัดการกับผลประโยชน์ของชนชั้นสูง
“การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโอกาสเพียงครั้งเดียวในชั่วอายุคนที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศ จัดการกับผลประโยชน์ที่ฉุดรั้งประชาชน และสร้างหลักประกันว่าไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง” คอร์บินกล่าว ซึ่งนายกฯ อังกฤษโต้กลับผ่านบทบรรณาธิการ เมื่อวันพุธ (6 พ.ย.)
“โศกนาฏกรรมของพรรคแรงงานยุคใหม่ภายใต้การนำของเจเรมี คอร์บินอยู่ที่พวกเขาเกลียดแรงจูงใจในการทำกำไรอย่างเห็นได้ชัด และอาจมัวเมากับการขึ้นภาษี จนทำลายรากฐานความมั่งคั่งพื้นฐานของประเทศ”
ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินหลายคนก็กังวลเช่นกันว่า แนวทางดังกล่าวอาจทำให้อภิมหาเศรษฐีไม่อยากได้สถานะผู้มีถิ่นพำนักในอังกฤษ หรือย้ายฐานการลงทุนไปที่อื่นที่มีโครงสร้างภาษีเป็นมิตรมากกว่า เช่น โมนาโก สวิตเซอร์แลนด์ หรือที่อื่นๆ
“คาดการณ์ได้เลยว่า รัฐบาลคอร์บินจะทำให้บุคคลผู้มั่งคั่งที่สุด ประสบความสำเร็จที่สุดในประเทศ ผู้มีส่วนสร้างเศรษฐกิจอังกฤษอย่างมากมายทั้งทางตรงและทางอ้อม ไหลทะลักออกไปอยู่ที่อื่น“ ไนเจล กรีน ประธานบริษัทที่ปรึกษาการเงิน ”เดอเวียร์กรุ๊ป” ส่งเสียงเตือน พร้อมย้ำว่า คนร่ำรวยสุดๆ เหล่านี้ตั้งใจย้ายถิ่น และอาจย้ายไปง่ายๆ แต่ส่งผลกระทบต่อการเงินสาธารณะอย่างมหาศาล
“ถ้าคนที่สร้างงานและความมั่งคั่งมากมายเหล่านี้ย้ายถิ่นไป เรามีหลักฐานว่าคนจำนวนมากอาจทำเช่นนั้น การเงินภาครัฐจะต้องเสียหายหนัก เพราะเขาทำเงินเข้าคลังในปริมาณมากมายก่ายกอง”
รายงานเศรษฐีอังกฤษประจำปี 2562 จัดทำโดยหนังสือพิมพ์ซันเดย์ไทม์ส ระบุว่าอังกฤษมีมหาเศรษฐีพันล้านราว 151 คน ขณะเดียวกันเศรษฐีผู้มั่งคั่งที่สุด 1,000 คน มีสินทรัพย์รวมกันที่ 7.71 แสนล้านปอนด์
สัปดาห์ก่อนคอร์บินได้เพิ่มวาทกรรมเกรี้ยวกราดใส่คนที่เขาเรียกว่า พวกเลี่ยงภาษี เจ้านายแย่ๆ พวกปล่อยมลพิษ และสื่อในอุ้งมือมหาเศรษฐี
หัวหน้าพรรคแรงงานระบุชื่อ จิม แรตคลิฟฟ์ ผู้บริหารบริษัทพลังงานอินีออส ดยุคแห่งเวสต์มินเตอร์ เจ้าของที่ดิน และคริสปิน โอดีย์ ผู้จัดการเฮดจ์ฟันด์ ว่าเป็นหนึี่งในกลุ่มอภิสิทธิชน แต่ก็โดนสวนกลับอย่างดุเดือดจากไมค์ แอชลีย์ เศรษฐีธุรกิจค้าปลีก ที่เรียกคอร์บินว่า ไม่ใช่แค่โกหกเท่านั้น แต่ยังไม่รู้เรื่องอะไรเลยด้วย
อย่างไรก็ตาม ใช่ว่านักธุรกิจจะกังวลกับคอร์บินไปเสียทั้งหมด อย่างน้อยๆ ก็จอห์น มิลส์ ผู้ก่อตั้งอาณาจักรสินค้าเพื่อบ้าน “เจเอ็มแอล”
“ผมคิดว่าพวกเราหลายคนกังวลมากเรื่องความเหลื่อมล้ำของเขตต่างๆ ในอังกฤษ” สะท้อนว่านักธุรกิจบางคนก็เห็นความไม่เสมอภาคในสังคมเช่นกัน