‘สุดารัตน์’ ขอรัฐจริงใจเร่งมาตรการช่วยชาวนา ถูกกดราคาข้าวเปลือก
“สุดารัตน์” ลงแขกเกี่ยวข้าวแปลงเกษตรอินทรีย์ที่ขอนแก่น พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลจริงใจเร่งออกมาตรการช่วยชาวนาถูกกดราคาข้าวเปลือก
เมื่อวันที่ 11 พ.ย.62 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ได้เดินทางไปร่วมกิจกรรมลงแขกเกี่ยวข้าวที่แปลงของกลุ่มอินทรีย์อีสานเขียว ต.บ้านโต้น อ.พระยืน จ.ขอนแก่น โดยมี ส.ส. นักการเมือง และอดีต ส.ส.หลายคน ร่วมลงแขกเกี่ยวข้าวกับชาวบ้าน และยังมีนายอดิศร เพียงเกษ อดีตรัฐมนตรี หลายสมัย เป่าแคนกล่อมการเกี่ยวข้าวด้วย
คุณหญิงสุดารัตน์ ให้สัมภาษณ์ว่า 3 ปีแล้วได้ทำโครงการกับเกษตรกรหลายกลุ่ม มีกลุ่มคิงคองไรซ์ เป็นกลุ่มใหญ่ เป็นโครงการทำข้าวอินทรีย์หรือข้าวออร์แกนิก โดยใช้โลโก้ข้าวสานธรรม ซึ่งเป็นข้าวที่ปลอดสารพิษ และจำนำข้าวไปขายเพื่อให้เกษตรกรได้ราคาดี การสนับสนุนเพื่อให้เกษตรกรทำแบบนี้จำเป็นต้องช่วยตั้งแต่การผลิตการจัดจำหน่าย วันนี้มาดูแปลงมาเกี่ยวข้าวถือว่าเป็นปฐมฤกษ์ และจะนำข้าวนี้ไปขายให้คนกรุงเทพ วันนี้นโยบายของพรรคเพื่อไทยเราชัดเจนว่า เราสนับสนุนการผลิตอาหารปลอดภัย เราขอประกาศว่า เรามีนโยบายผลักดันประเทศไทยให้เป็นศูนย์การผลิตอาหารปลอดภัย สำหรับชาวไทยและป้อนโลก ซึ่ง ส.ส.พรรคเพื่อไทยทุกคน ได้รับลงไปดำเนินการ ทั้งข้าว ผัก สินค้าในหมวดอาหารอื่น ๆ
ขณะนี้ราคาข้าวเปลือกแค่ 12 บาท ราคาไม่เป็นธรรมต่อประชาชน โครงการข้าวสานธรรมจึงมาเชื่อมโยงข้าวคุณภาพไปขายให้กับประชาชน ทั้งเป็นของขวัญปีใหม่ เรากำลังเปิดเว็บไซต์ เพื่อให้สามารถจองข้าวออร์แกนิก แบบทั้งผูกประจำส่งถึงบ้าน ซื้อตรงจากเกษตรกร เว็บไซต์จะเปิดสัปดาห์ถัดไป อยากให้ทุกคนได้กินข้าวปลอดสารพิษ จะได้ลดการเป็นโรคมะเร็ง สมัยเป็นรัฐมนตรีสาธารณสุข คนเป็นมะเร็งแค่ 50,000 คน แต่ตอนนี้ป่วยมะเร็งเพิ่มขึ้น เกือบ 8 แสนคนแล้ว
คุณหญิงสุดารัตน์ ยังได้กล่าวอีกว่า อยากฝากรัฐบาล ปีนี้ข้าวหอมมะลิและข้าวเหนียวน่าจะขาดตลาด น่าจะได้ราคาดี อีสานที่เป็นแหล่งผลิต ส่วนใหญ่เจอแล้งและท่วม มีหลายจังหวัดเจอแล้ง ท่วมและก็แล้ง ทำให้ได้ข้าวน้อยมาก แต่ขณะนี้ชาวนากำลังถูกเอาเปรียบ ไม่มีมาตรการของภาครัฐออกมาช่วยเลย ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิคุณภาพดี กก.ละ 12 บาทเท่านั้น เป็นข้าวที่ดีที่สุดในโลกผลิตในภาคอีสาน แต่ ข้าวเหนียวโลละจะ 60 แล้ว แต่ข้าวเปลือกกลับได้แค่นี้ ดังนั้นต้องการให้รัฐบาลเช้ามาดูแลราคาข้าวในห้วงนี้ที่ชาวนาเก็บเกี่ยว ไม่ใช่ไปดูในปลายเดือนหรือต้นเดือนหน้า ที่ข้าวย้ายมือจากชาวนาไปอยู่ในมือพ่อค้าคนกลางหรือโรงสีแล้ว ขอมีมาตรการออกมาช่วยตอนนี้เพื่อชะลอการขายข้าว แต่ไม่เห็นมาตรการใด ๆ เลย รัฐบาลเงียบ ปล่อยให้ชาวนาขายข้าวในราคาที่ไม่เป็นธรรมแบบนี้
และอยากฝากถึง พี่น้องเกษตรกรอย่าเพิ่งขายข้าว ขณะนี้แดดกำลังดี ตากข้าวแล้วทยอยขายออกไป สิ้นเดือนจะเห็นตัวเลขกก.ละ 20-25 แน่นอน แต่ว่าถ้ารีบขายมาตรการรัฐออกในห้วงที่ไปอยู่ในมือของพ่อค้าคนกลางแล้ว เกษตรกรก็จะไม่ได้อะไร รัฐจริงใจจะช่วยเกษตรกร ต้องช่วยตอนนี้ ก่อนที่ข้าวจะอยู่ในมือพ่อค้าคนกลาง เพราะขายไปแล้วพ่อค้าคนกลางได้ประโยชน์ จำเป็นต้องมีมาตรการเร่งด่วนแล้ว ตอนนี้กำลังเกี่ยว แต่ไม่ได้ยินเสียงรัฐว่าจะมีมาตรการช่วยข้าวที่กำลังเกี่ยว ว่ากำลังถูกกดราคาเหลือแค่ 12 บาท อย่างไร ไม่ได้ยินแม้แต่คำเดียว หวังว่าพรุ่งนี้มะรืนนี้จะได้รับคำตอบจากรัฐบาล ขณะที่ซับพลายมีน้อยมาก แต่ราคากลับต่ำ อย่ามาคุยในเดือนหน้าว่าข้าวราคาสูง เพราะเป็นการช่วยพวกพ่อค้า ถ้าจะช่วยเกษตรกรต้องช่วยตอนนี้ และพุธพฤหัสนี้ สส.เพื่อไทยจะยื่นหารือและสอบถามเรื่องการช่วยเหลือเกษตรกรชาวนา
“ปีนี้ข้าวออกน้อยมาก ควรจะได้ราคาสูง แต่กลับถูกกดราคาตอนนี้ข้าวยังอยู่ในมือชาวนา เราก็เลยเรียกร้องขอให้รัฐบาลเร่งเข้ามาช่วยเหลือตั้งแต่ตอนนี้ ถ้ารอสิ้นเดือนหรือเดือนหน้า ข้าวไปอยู่ในมือพ่อค้าคนกลางหมดแล้ว เงินที่ใส่ลงไปก็จะไปอยู่ในมือพ่อค้าคนกลาง ไม่ได้อยู่ในมือชาวนา ชาวนาก็อย่าเร่งขาย เก็บไว้ถึงเดือนหน้ารับรองว่าเห็นตัวเลขตันละ 2 หมื่น 2 หมื่นห้าแน่นอน” ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวย้ำ