กรมป่าไม้จับรถขน ‘บุก’ เกือบ 4,000 กิโลกรัมจากป่าแม่ฮ่องสอน
พบ เตรียมส่งขายให้ชาวต่างชาติส่งออกไปยังต่างประเทศ เนื่องจากกำลังเป็นที่นิยมนำไปใช้เป็นส่วนประกอบในเครื่องสำอาง และสมุนไพรอาหารลดความอ้วน
สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 สาขาแม่ฮ่องสอน กรมป่าไม้ส่งหน่วยป้องกันฯ ออกตรวจลาดตระเวนปราบปรามการกระทำผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ยวมฝั่งซ้าย อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน และได้ตรวจยึด บุกหรือไข่บุก ซึ่งเป็นของป่าได้ทั้งสิ้น 3,943 กิโลกรัม และมีมูลค่ากว่า 300,000 บาท
โฆษกกรมป่าไม้ นันทนา บุณยานันต์ กล่าวว่า อธิบดีกรมป่าไม้ อรรถพล เจริญชันษา ได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานเข้มงวดกับกลุ่มนายทุนและผู้บุกรุกป่า ตลอดจนผู้ที่เข้าไปเก็บหาของป่าอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เป็นที่มาของการตรวจจับการลักลอบนำบุกออกจากป่า หลังพบการกระทำผิดอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา
จากการข่าวของสำนักฯ ที่มีรายงานว่าจะมีการลักลอบขนบุกภายใน อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน, นายเล็ก วงษา รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 สาขาแม่ฮ่องสอน จึงได้มอบหมายให้นายสมจินต์ เนตรประดิษฐ หัวหน้าหน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้แม่สะเรียงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่งออกตรวจลาดตระเวนในเขตพื้นที่รับผิดชอบในวันที่ 20 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เพื่อควบคุมตรวจสอบการเก็บหาของป่า ภายหลังทราบจากแหล่งข่าวของหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ มส.5 (อำเภอแม่สะเรียง) และการสืบทราบว่าจะมีชาวต่างชาติมาว่าจ้างให้คนในพื้นที่เข้าเก็บหาเมล็ดบุก โดยจะนำมารวมไว้ที่บริเวณหลังร้านล้างอัดฉีดรถยนต์ (คาร์แคร์) ในพื้นที่
ทางเจ้าหน้าที่จึงได้จัดชุดเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการเข้าไปทำการสืบ และพบว่ามีการนำ “บุก” บรรจุกระสอบมาวางไว้ในบริเวณคาร์แคร์ดังกล่าวจริง
เจ้าหน้าที่จึงเฝ้าจับตาดูและเมื่อพบว่ามีการนำหัวบุกขนขึ้นรถกระบะ ทะเบียนเชียงใหม่ และขับออกไปจากร้านคาร์แคร์ไป เจ้าหน้าที่จึงส่งชุดติดตามก่อนที่จะแสดงตัวเพื่อเข้าจับกุม พบผู้ต้องหา 1 ราย ชื่อนายบัญฑิต บรรจักร และตรวจยึดของป่า (บุกหรือไข่บุก) นำ้หนักรวม 3,943 กิโลกรัม มีมูลค่ากว่า 300,000 บาท พร้อมด้วยรถกระบะบรรทุก 1 คัน ในที่สุด
เจ้าหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมด้วยเอกสารและนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ. แม่สะเรียง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยมีฐานความผิดตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ 2507 มาตรา 14 ระบุถึงการเก็บของป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต, และมาตรา 34 ระบุถึงการรับหรือช่วยนำของป่าที่ได้มาจากการกระทำผิดไป
นอกจากนี้ ยังมีฐานความผิดต่อพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 54 ระบุถึงการกระทำใดๆ ที่เป็นการทำลายป่า และมาตรา 70 ระบุถึงการรับหรือช่วยนำเอาของป่าที่ได้มาจากการกระทำผิดไป
และจากการพิจารณาของคณะเจ้าหน้าที่, การนำใบเบิกทางนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่มาแสดงไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เป็นการกระทาผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ฐานใช้หรืออ้างอิงเอกสารอันเกิดจากการกระทำความผิดตามมาตรา 264 มาตรา 265 มาตรา 266 หรือมาตรา 267 ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน
โฆษกฯ นันทนา กล่าวว่า จากการสอบถามผู้ต้องหาของเจ้าหน้าที่ในเบื้องต้น ผู้ต้องหาเตรียมขนย้าย “บุก” เพื่อส่งขายให้ชาวต่างชาติ ส่งออกไปยังต่างประเทศ เนื่องจากในต่างประเทศกำลังเป็นที่นิยมนำไปเพาะขยายพันธ์
เพื่อนำไปใช้เป็นส่วนประกอบในเครื่องสำอาง ตลอดจนนำไปใช้เป็นสมุนไพรทางยา เพราะเมื่อนำไปสกัด จะได้สารที่มีชื่อว่า กลูโคแมนแนน (Glucomannan) ซึ่งเป็นใยอาหารที่มีคุณสมบัติช่วยลดและป้องกันการเกิดโรคในร่างกาย ช่วยในเรื่องการคุมน้ำหนักลดความอ้วน เพราะร่างกายของมนุษย์ไม่สามารถย่อยเส้นใยอาหารได้ ในต่างประเทศนั้นจึงนิยมบริโภคอาหารที่ทำจาก “บุก”