เซ็นทรัลทุ่ม 'หมื่นล้าน' พลิกโฉมสู่ ‘ห้างไลฟ์สไตล์’
ห้างเซ็นทรัลยกเครื่องทุกสาขาสู่ “ห้างไลฟ์สไตล์” รับเทรนด์ผู้บริโภคเปลี่ยน พร้อมสู้ศึกดิจิทัลดิสรัป ประเดิมทุ่ม “พันล้าน” รีแบรนด์ดิ้ง ห้างเซน รอบ 30 ปี พลิกโฉมสู่ “เซ็นทรัล แอท เซ็นทรัลเวิลด์" ต้นแบบ "ชิดลม" อัพสเกล "ลักชัวรี"
เทรนด์ผู้บริโภคในการเข้าใช้บริการห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า หรือบรรดาห้างร้านค้าปลีกต่างๆ เปลี่ยนไปจากเดิม โดยไม่ได้คิดว่าจะมาเพื่อ “ชอปปิง” เป็นอันดับแรก จากการศึกษาตลาดเชิงลึกพบว่า ผู้บริโภคยุคใหม่นึกถึงจุดนัดพบ (แฮงเอาต์) อย่างเช่น ร้านอาหาร หรือร้านกาแฟ ก่อนเป็นลำดับแรก เป็นโจทย์สำคัญของการขับเคลื่อนธุรกิจห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ในฐานะห้างเก่าแก่คู่คนไทยมากว่า 7 ทศวรรษ ประกาศตัวว่าจากนี้จะ “ห้างเซ็นทรัลไม่ใช่ห้างสรรพสินค้าอีกต่อไป”
นางณัฐธีรา จิราธิวัฒน์ บุญศรี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด ในเครือกลุ่มเซ็นทรัลรีเทล กล่าวว่า ในช่วง 3-5 ปีจากนี้ ห้างเซ็นทรัลจะมีการปรับปรุงเพื่อพลิกโฉมสาขาเก่าครั้งใหญ่สู่ “ห้างไลฟ์สไตล์” เป็นกลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป รวมทั้ง “ดิจิทัล ดิสรัปชัน” ที่ถูกแปลงเป็นโอกาสผ่านเซอร์วิส และการสร้างประสบการณ์ใหม่ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล
ทั้งนี้ คาดว่าจะใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาทในการปรับปรุงห้างเซ็นทรัล 20 สาขา จากทั้งหมด 23 สาขา สู่โฉมใหม่ โดยทยอยดำเนินการตั้งแต่ปีนี้ต่อเนื่องใน 3-5 ปีข้างหน้า แต่ละแห่งใช้งบประมาณ 400-500 ล้านบาท จนถึง 2,000 ล้านบาทสำหรับสาขาขนาดใหญ่
“ห้างเซ็นทรัลเป็นแบรนด์หลักและแบรนด์อันดับ 1 ของประเทศไทย แต่ลูกค้ามาห้างวันนี้ไม่ได้คิดว่าจะมาชอปปิงเป็นอันดับแรก คิดว่าจะแฮงเอาต์ที่ไหน กินอะไรก่อน เราต้องปรับตัวให้สอดรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปมองหาประสบการณ์ใหม่ ออกมาใช้ชีวิตมากขึ้น ฉะนั้นห้างเซ็นทรัลต้องนำไลฟ์สไตล์เข้ามานำเสนอประสบการณ์ อินโนเวทีฟ ที่แตกต่าง”
ประเดิมด้วยการใช้งบกว่า 1,000 ล้านบาท ทำการปรับโฉมและรีแบรนด์ดิ้งห้างเซน หรือ เซน แอท เซ็นทรัลเวิลด์ (ZEN@centralwOrld) ให้เป็น เซ็นทรัล แอท เซ็นทรัลเวิลด์ (CENTRAL@centralwOrld) เพื่อยกระดับสู่ห้างไลฟ์สไตล์ของไทยสร้างประสบการณ์ใหม่ที่มากกว่าการชอปปิง บนพื้นที่กว่า 50,000 ตร.ม.ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ กิน ดื่ม ช้อป และการบริการพิเศษ ซึ่งจะเป็นต้นแบบในการปรับปรุงห้างเซ็นทรัลสาขาต่างๆ ในอนาคต
ทยอยปรับห้างใหญ่-ยอดสูง
แผนการปรับปรุงห้างเซ็นทรัลสู่ห้างไลฟ์สไตล์ ในปีหน้าเริ่มจาก 3 สาขาใหญ่ ลาดพร้าว พระราม 2 และ ชิดลม โดยเฉพาะ ชิดลม จะมีการพลิกโฉมครั้งใหญ่ทั้งภายในและภายนอก พร้อมยกระดับสู่ “ลักชัวรี ดีพาร์ทเมนท์สโตร์” โดยทั้ง 3 สาขาดังกล่าวรวมทั้งห้างเซน จัดอยู่ในกลุ่มที่ทำรายได้สูง อันดับ 1 ได้แก่ ชิดลม ตามด้วย ลาดพร้าว และเซน
“เซ็นทรัล แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ตั้งอยู่บนพื้นที่ทำเลทองของกรุงเทพฯ เป็น Strategic location ที่ดีที่สุดใจกลางย่านราชประสงค์ย่านเศรษฐกิจสำคัญของไทย สามารถเดินทางได้สะดวก เป็นเดสทิเนชั่นสำคัญที่นักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติต้องมา สร้างยอดขายติดท็อป 3 ของห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลที่ขายดีที่สุดในไทย จึงเป็นอีกก้าวสำคัญกับการสร้างปรากฏการณ์ครั้งใหญ่ใจกลางกรุง”
สำหรับ เซ็นทรัล แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ตั้งแต่ ชั้น 1-7 จะเป็นมากว่าการชอปปิงสินค้า โดยวางคอนเซปต์ใหม่ที่ผสมผสานความลงตัวของสินค้า อาหาร และการบริการรวมไว้ในแต่ละชั้น เพิ่มความสะดวกของการใช้ชีวิต ตอบโจทย์ทุกความต้องการด้วยสินค้าจากแบรนด์ดังทั่วทุกมุมโลก ร้านอาหาร ระดับมิชลินไกด์ ไทยสตรีทฟู้ด พร้อมกลยุทธ์ออมนิชาแนล (Omni-Channel) ได้แก่ บริการ Click and Collect บริการสั่งของออนไลน์ สามารถรับได้ที่หน้าร้าน บริการ Chat & Shop แอดไลน์และพูดคุยกับผู้ช่วยส่วนตัวที่ให้บริการในการเลือกซื้อสินค้า พร้อมส่งถึงมือภายในเวลา 99 นาที สำหรับพื้นที่กรุงเทพฯ หรือรับเองที่สาขาที่สะดวก รวมถึงบริการ E-Ordering บริการสำหรับลูกค้าที่มาเดินห้าง เช่น ลูกค้าเข้าไปที่ห้างเซ็นทรัล ต้องการซื้อสินค้าชิ้นหนึ่ง แต่สาขานี้ไม่มีสินค้า ระบบ E-Ordering จะสามารถตรวจสอบได้ทันทีว่าสินค้าชิ้นนั้นมีที่สาขาไหนบ้าง พร้อมสั่งซื้อ-จัดส่งได้ตามความต้องการของลูกค้าทันที
นับเป็นต้นแบบห้างออมนิแชนแนล (Omni-Channel Service) รวมถึงทุกช่องทางโซเชียลมีเดียเพื่อให้ลูกค้ารับข่าวสารต่างๆ ของเซ็นทรัลได้อย่างครบถ้วน ทำให้โซเชียลมีเดียของ CENTRAL เป็นฐานข้อมูลที่แข็งแกร่ง
คาดว่าหลังปรับโฉมสู่ เซ็นทัล แอท เซ็นทรัลเวิลด์ จะสร้างยอดขายเติบโตขึ้น 20% ในอนาคต โดยลูกค้ากลุ่มเป้าหมายจะเป็นคนไทย 60% ต่างชาติ 40% ซึ่งปัจจุบันมีกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มาช้อปที่ห้างเซ็นทรัล แอท เซ็นทรัลเวิลด์ มากที่สุด ประกอบด้วย จีน กัมพูชา สิงคโปร์ ตะวันออกกลาง และฮ่องกง ตามลำดับ
รวมสถาปัตยกรรมนักออกแบบโลก
สำหรับการตกแต่ง เซ็นทรัล แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ครั้งนี้ ยังเสมือนเป็นการรวมผลงานสถาปัตยกรรมของ นักออกแบบชั้นนำระดับโลกมารวมไว้ที่นี้ ทั้งจากประเทศอังกฤษ เยอรมนี ฝรั่งเศส และอิตาลี ผู้ที่เคยออกแบบห้าง Rinascente (รีนาเซนเต) รวมถึงดีไซเนอร์ไทย โดยร่วมมือกัน ภายใต้คอนเซ็ปต์ Contemporary ทำให้ห้างดูทันสมัย ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่มากขึ้น
โดยมีคอนเซ็ปต์ที่ต่างกัน และใช้โทนสีที่แตกต่างกัน ตามไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของแต่ละชั้น มีการนำเข้าหุ่น Mannequins หรือหุ่นโชว์ดิสเพลย์ มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท จากประเทศฝรั่งเศส บริษัทผู้ออกแบบฯ/ผลิต และส่งออกหุ่นโชว์ดิสเพลย์อันดับ 1 ของโลก โดยหุ่นโชว์นี้จะสร้างสีสัน ในแต่ละชั้น เพิ่มมุมมองใหม่ของการแต่งตัว มีชิ้นส่วนของปาก ที่สามารถเปลี่ยนสีริมฝีปากได้หลายร้อยเฉดสี และใบหน้าที่สามารถถอดเปลี่ยนไปตามซีซั่นของแฟชั่นได้อย่างอิสระ
ระดมกว่า3พันแบรนด์เจาะชาวไทย-ทัวริสต์
พร้อมกันนี้ มีสินค้ามากกว่า 3,000 แบรนด์ กระจายอยู่ทั้ง 7 ชั้น ไฮไลท์ เช่น ชั้น 1 บิวตี้แกลลอรีแอนด์ลักซ์แกลลอรี อาณาจักรความงามในรูปแบบ Vertical Space ด้วยแนวคิดให้แต่ละแบรนด์ออกแบบดีไซน์เคานเตอร์ได้อย่างเต็มที่ อาทิ DIOR Backstage Studio ดีไซน์ทันสมัยและมีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชีย ครบครันทั้ง เมคอัพ สกินแคร์ และน้ำหอม, CHANEL พบกับไอเท็มความงามล่าสุดประจำซีซั่นที่สาวๆทั่วโลกตามหาได้ที่นี่ , LA MER ตอกย้ำแบรนด์ระดับตำนาน โดยการดีไซน์เคาน์เตอร์ในคอนเซ็ปต์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากท้องทะเล, GIORGIO ARMANI BEAUTY แบรนด์เครื่องสำอางระดับโลกที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความสง่างามแบบอิตาเลียน เปิดตัวที่เเรกในประเทศไทยที่เซ็นทรัล, CLARINS Skin Studio แห่งแรก และแห่งเดียวในประเทศไทย
แผนกโฮมคอนเซปต์ใหม่ใจกลางกรุงที่่รวบรวมร้านอาหารระดับ Michelin Guide Thai Street Food Deck มาไว้ที่ห้างสรรพสินค้า Co-Living & Eating Space รองรับการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่บนพื้นที่ 5,000 ตร.ม.
โดยเปิดตัวอย่างเป็นทางการวันที่ 11 ธ.ค.นี้