ศาลอนุมัติหมายจับ 'พระธีรธนัชณฤทธา' นำแก๊งพระเขมรตระเวนเรี่ยไรเงินชาวบ้าน
ตำรวจจัดหนัก "แก๊งพระเขมรต่างด้าว" ตระเวนเรี่ยไรเงินชาวบ้านพื้นที่นครปฐม รวบแล้ว 4 ราย ผลักดันออกนอกประเทศ และศาลอนุมัติศาลหมายจับ "พระธีรธนัชณฤทธา" ช่วยซ่อนเร้นต่างด้าวเข้าเมืองผิดกฎหมาย
จากกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรมของพระรูปหนึ่งในโซลเชียงมีเดีย ที่ออกมาเรียกร้องถึงการจับกุมพระต่างด้าว ออกเรี่ยไรเงินสดจากประชาชนในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ จ.นครปฐม ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 22 ต.ค. 2562 เวลา 06.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนปราบปราม ได้ออกปฏิบัติหน้าที่ตรวจสอบแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย ในเขตพื้นที่บริเวณตลาดสดสมภพ และบริเวณถนนพุทธมณฑลสาย 5 ต่อมาเวลาประมาณ 07.30 น. ได้มีประชาชน ไม่ประสงค์ออกนามเข้ามาร้องเรียนเจ้าหน้าที่ ตม.จ.นครปฐม ซึ่งออกปฏิบัติหน้าที่อยู่นั้น ว่าในเขตพื้นที่จังหวัดนครปฐม มีคนต่างด้าวบวชเป็นพระสงฆ์ออกเดินบิณฑบาต โดยมีพฤติการณ์รับปัจจัยเฉพาะเงินสด และสิ่งของจากประชาชน และส่วนใหญ่จะออกมาบิณฑบาตแถวตลาดสดพุทธมณฑล และเข้ามาพักอาศัยอยู่ตามสานักปฏิบัติธรรม หรือสถานที่ที่อยู่ใกล้แหล่งชุมชน โดยจะเข้ามาเป็นกลุ่ม โดยบวชเป็นพระสงฆ์มาแล้ว และมีวัตถุประสงค์เพื่อเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนปราบปราม จึงได้ออกตรวจสอบและสืบสวนหาข่าวตามวัด และสถานที่ปฏิบัติธรรมหลายแห่ง
โดยได้เข้าตรวจสอบที่สำนักปฏิบัติธรรม พุทธชยันตรี 2,600 ปี ตั้งอยู่ที่ ต.บางแก้วฟ้า อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม พบผู้ดูแลสานักฯ ชื่อ พระธีรธนัชณฤทธา เสาวภาคย์ โชติรส สัญชาติไทย และพบพระสงฆ์ สัญชาติกัมพูชา 2 รูป สามเณร สัญชาติกัมพูชา 2 รูป ซึ่งเป็นพระกลุ่มเดียวกันกับที่ประชาชนร้องเรียน เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจสอบเอกสาร หนังสือเดินทาง พบว่าไม่มีหนังสือเดินทาง หรือเอกสารมาแสดง จากการสอบถามได้เดินทางหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทย ทางช่องทางธรรมชาติ จ.สระแก้ว เจ้าหน้าที่ตารวจจึงได้นำพระสงฆ์และสามเณร ทั้ง 4 รูป ไปดำเนินการลาสิขา โดยความเต็มใจของ พระสงฆ์และสามเณร จากนั้นได้ดำเนินการจับกุมในข้อหา "เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต"
ต่อมาได้รับรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 28 พ.ย. 2562 พระธีรธนัชณฤทธา เสาวภาคย์โชติรส ได้เดินทางมาที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนครปฐม เพื่อขอทราบรายละเอียดบันทึกจับกุม กรณีดังกล่าวข้างต้น โดยระหว่างรอนั้น พระธีรธนัชณฤทธาฯ ได้เกิดความไม่พอใจต่อเจ้าหน้าที่ พร้อมพูดตัดพ้อต่อว่าเจ้าหน้าที่และอัดคลิปวีดิโอ (ไลฟ์สด) โดยพูดต่อว่าเจ้าหน้าที่ด้วยเสียงดังโวยวายกริยาไม่สำรวม และห่มจีวรไม่เหมาะสม เดินไปทั่วบริเวณตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนครปฐม ซึ่งทำให้ผู้ติดต่อราชการเกิดความตื่นตระหนกตกใจในกริยาของพระธีรธนัชณฤทธาฯ และทำให้ภาพลักษณ์ของตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนครปฐมเป็นไปในทางที่ไม่ดี
รอง โฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า สำหรับความเกี่ยวข้องของพระธีระนัชณฤทธาฯ นั้น เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนครปฐม ได้ทำการสืบสวนขยายผลพฤติการณ์ในคดีที่ได้มีการจับกุม พระและสามเณรสัญชาติกัมพูชาก่อนหน้านี้ จนสามารถรวบรวมพยานหลักฐานร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ พนักงานสอบสวน สภ.นครชัยศรี ให้ดำเนินคดีในฐานความผิดที่เกี่ยวข้อง
โดยต่อมา ศาลจังหวัดนครปฐม ได้อนุมัติหมายจับ พระธีระธนัชณฤทธาฯ ในความผิดฐาน “ช่วยซ่อนเร้น ช่วยเหลือ หรือช่วยด้วยประการใดๆ แก่คนต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย เพื่อให้พ้นการจับกุม” ซึ่งเป็นโทษทางอาญา มีอายุความ 10 ปี ประกอบกับในส่วนพฤติกรรมที่ปรากฏนั้น ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนครปฐม ได้มีหนังสือไปยัง สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ให้ตรวจสอบพฤติกรรมของพระธีระนัชณฤทธาฯ มีความเหมาะสมต่อการครองอยู่ในสมณเพศหรือไม่ อย่างไร เพื่อให้สังคมคลี่คลายข้อสงสัยถึงความประพฤติต่อสมณเพศดังกล่าว