‘ไทย’ ชนะโหวตนั่ง ‘คณะมนตรีไอเอ็มโอ’ สมัยที่8
ประเทศสมาชิกองค์การทางทะเลระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มโอ เทคะแนนเสียงให้ประเทศไทยดำรงตำแหน่งคณะมนตรีฯ วาระปี 2563 - 2564 ชนะไปด้วยคะแนน 127 จาก 165 เสียง
มีรายงานว่า ที่ประชุมสมัชชาองค์การทางทะเลระหว่างประเทศ สมัยสามัญ ครั้งที่ 31 (International Maritime Organization : IMO) ได้จัดเลือกตั้งคณะมนตรีไอเอ็มโอ วาระปี 2563 - 2564 มีขึ้นที่สำนักงานใหญ่ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งผลปรากฏว่า ประเทศไทยได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งสมาชิกคณะมนตรีไอเอ็มโอ กลุ่มซี ด้วยคะแนนเสียง 127 เสียง สูงเป็นอันดับที่ 16 ของประเทศที่ได้รับเลือกตั้งทั้งหมด 20 ประเทศ จากรัฐสมาชิกที่มีสิทธิลงคะแนนเสียงทั้งหมด 165 ประเทศ ส่งผลให้ไทยได้ดำรงตำแหน่งสมาชิกคณะมนตรีไอเอ็มโอต่อเนื่อง เป็นสมัยที่ 8
ไทยดำรงตำแหน่งนี้ติดต่อกันมาตั้งแต่ปี 2549 สะท้อนความไว้วางใจที่รัฐสมาชิกไอเอ็มโอ ตระหนักถึงบทบาทสำคัญของไทยในเวทีระหว่างประเทศในด้านกิจการทางทะเล
นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทย กล่าวย้ำกับที่ประชุม ถึงความมุ่งมั่นของไทยในด้านกิจการทางทะเลและการส่งเสริมผลประโยชน์ทางทะเลร่วมกันของรัฐสมาชิก โดยไทยจะสานต่อบทบาทที่แข็งขันและสร้างสรรค์ในกรอบไอเอ็มโอ ทั้งการรณรงค์เรื่องการกำจัดขยะในทะเล การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนที่เกี่ยวกับประเด็นทางทะเล รวมทั้งการส่งเสริมผลประโยชน์ร่วมกันในอุตสาหกรรมการขนส่งทางเรือในห่วงโซ่การผลิตของโลก
"ไทยมีเจตนารมณ์มุ่งหมายให้การเชื่อมโยงทางทะเลเป็นไปด้วยความมั่นคงปลอดภัย สะอาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และตอบโจทย์ผลประโยชน์ร่วมกันของทุกประเทศที่เกี่ยวข้อง และเพื่ออนาคตที่ดีกว่าของอนุชนรุ่นต่อไปในอนาคต ตลอดจนการเป็นสะพานเชื่อมความร่วมมือระหว่างไอเอ็มโอกับกลไกและกรอบภูมิภาคต่าง ๆ โดยเฉพาะอาเซียน และคณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมแห่งเอเชียแปซิฟิก หรือเอสแคป ซึ่งไทยพร้อมแบ่งปันประสบการณ์และบทเรียนที่เป็นเลิศกับประเทศอื่น ๆ เพื่อสนับสนุนการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืนโดย ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” รมว.คมนาคมกล่าว
นอกจากประเทศไทย รัฐสมาชิกที่ได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งสมาชิกคณะมนตรีไอเอ็มโอ ในกลุ่มซี ได้แก่ สิงคโปร์ มอลตา มาเลเซีย ไซปรัส อินโดนีเซีย บาฮามาส แอฟริกาใต้ เม็กซิโก ชิลี เบลเยียม อิยิปต์ เปรู โมร็อกโก เดนมาร์ก ตุรกี จาไมกา ฟิลิปปินส์ คูเวต และเคนยา