แจ้งตร.บางเขน โวย 'มูลนิธิชีววิถี หรือไบโอไทย' ผิดพ.ร.บ.คอมฯ ฐานหมิ่นประมาท

แจ้งตร.บางเขน โวย 'มูลนิธิชีววิถี หรือไบโอไทย' ผิดพ.ร.บ.คอมฯ ฐานหมิ่นประมาท

นายกสมาคมวิทยาการวัชพืชแห่งประเทศไทยและเอเชียแปซิฟิก โร่แจ้งความตำรวจ สน.บางเขน ให้ดำเนินคดีต่อ มูลนิธิชีววิถี หรือไบโอไทย ในความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และความผิดฐานหมิ่นประมาท

เมื่อเวลา 14.20 น. วันที่ 2 ธันวาคม ที่ สน.บางเขน น.ส.จรรยา มณีโชติ นายกสมาคมวิทยาการวัชพืชแห่งประเทศไทยและเอเชียแปซิฟิก เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.สมพร สมตะ สว.สอบสวน สน.บางเขน ให้ดำเนินคดีต่อ มูลนิธิชีววิถี หรือไบโอไทย ในความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และความผิดฐานหมิ่นประมาท ตามประมวลกฎหมายอาญา

น.ส.จรรยา กล่าวว่า มูลนิธิชีววิถี หรือไบโอไทย ที่มี นายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ เป็นประธาน ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อสำนักหนึ่งว่า สมาคมวิทยาการวัชพืชฯ มีเอกชนเข้ามาร่วมเป็นบอร์ดบริหารซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะบอร์ดของมูลนิธิฯ ทุกคนเป็นข้าราชการทั้งหมด อีกทั้งไบโอไทย ยังได้นำข้อความที่สมาคมวัชพืชฯ โพสต์ว่า “ไม่มีรัฐบาลไหนในโลกใบนี้ที่จะแบนสารแถบสีน้ำเงิน แบบไกลโฟเซต แต่เสนอสารทดแทนแถบสีเหลืองแบบกลูโฟสิเนต” มากากบาท พร้อมระบุข้อความว่า “แถบสีน้ำเงินไกลโคเซตคือสารก่อมะเร็ง แถลสีเหลืองพาราควอต มีสารพิษมากกว่าที่เคยแบนแล้ว 43 เท่า” ซึ่งสมาคมฯ ไม่ได้กล่าวถึงพาราควอต จนทำให้สมาคมได้รับความเสียหาย

น.ส.จรรยา กล่าวว่า ในฐานะนายกสมาคม มองว่าเรื่องข้อมูลทางวิชาการสามารถขัดแย้งกันได้อย่างมีเหตุผล ไม่ใช่มาทำลายหรือดิสเครดิตสมาคมอื่น ด้วยการเปลี่ยนแปลงข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ดังนั้น เพื่อปกป้องมูลนิธิจึงต้องดำเนินคดีกับนายวิฑูรย์ และไบโอไทย ฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาตามกฎหมายอาญา และ ความผิดตาม ม.16 พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ทั้งนี้ยืนยันว่า 3 สารเคมีที่ถูกแบนอยู่นั้น ปัจจุบันยังไม่มีสารทดแทน ส่วน 16 สารเคมีอื่นที่ถูกระบุแนบท้ายว่านำมาใช้ทดแทน 3 สารนี้ ก็ถูกหยิบยกมาจากคำแนะนำเท่านั้น ซึ่งเกษตรไทย อาจเข้าสู่ยุคหนีเสือปะจระเข้