ยอดสังหาร ‘ผู้ประท้วงอิหร่าน’ พุ่งกว่า 1 พันคน

เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐเปิดเผยว่า กองกำลังรักษาความมั่นคงของอิหร่านอาจสังหารประชาชนไปกว่า 1,000 รายแล้ว นับตั้งแต่การประท้วงต่อต้านรัฐบาลเริ่มขึ้นในช่วงกลางเดือนพ.ย.  หลังจากราคาน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ถือเป็นวิกฤตการเมืองครั้งเลวร้ายที่สุดของอิหร่านในรอบกว่า 40 ปี

นายไบรอัน ฮุค ผู้แทนพิเศษของสหรัฐประจำอิหร่านเปิดเผยในการแถลงข่าวว่า “ขณะนี้ถึงเวลาแล้วที่ทุกประเทศจะยืนเคียงข้างประชาชนอิหร่าน โดดเดี่ยวทางการทูตกับอิหร่าน และคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ซึ่งรับผิดชอบกับการสังหารชาวอิหร่านผู้บริสุทธิ์”

นายฮุค กล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐไม่แน่ใจเกี่ยวกับยอดผู้เสียชีวิต เนื่องจากรัฐบาลอิหร่านปิดกั้นข้อมูล แต่เขากล่าวว่า ผู้ที่ถูกสังหารมีแนวโน้มที่จะรวมถึงเด็กๆ อย่างน้อย 12 คนซึ่งมีอายุระหว่าง 13-14 ปี

ทั้งนี้ การปราบปรามผู้ประท้วงแบบนองเลือดเป็นความวิตกล่าสุดสำหรับสหรัฐซึ่งมีความขัดแย้งกับอิหร่านเกี่ยวกับข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2558

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา องค์การแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชันแนลระบุว่า ตามรายงานที่เชื่อถือได้นั้นเชื่อว่า จำนวนประชาชนที่ถูกสังหารในช่วงการประท้วงได้เพิ่มขึ้นสู่ระดับอย่างน้อยที่สุด 208 คน ขณะที่รัฐบาลอิหร่านยืนยันว่า ตัวเลขดังกล่าวสูงเกินจริง