อุตุฯชี้หนาวถึง 10 ธ.ค. สาธารณสุขเตือนเด็ก-สูงวัย อาบน้ำอุ่นนานเสี่ยง
อุตุฯประกาศหนาวยาวถึง 10 ธ.ค. ยอดดอยเกิดน้ำแข็ง กทม.อุณหภูมิต่ำสุด 12 องศา ส่งผลคนไทยแห่ท่องเที่ยวพื้นที่ภาคเหนือ-อีสานสัมผัสอากาศหนาวเย็น ยอดดอยอินทนนท์5,000-10,000 คนต่อวัน เชียงใหม่เตรียมประกาศพื้นที่ภัยพิบัติหลังหนาวต่อเนื่อง
กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศ “อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบนและคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย(มีผลกระทบจนถึงวันที่ 10 ธันวาคม 2562)”ฉบับที่ 13 ประเทศไทยตอนบนจะมีอุณหภูมิลดลงอย่างต่อเนื่อง 1-3 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง บริเวณพื้นราบภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-12 องศาเซลเซียส ส่วนยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวจัดและมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 1-8 องศาเซลเซียส
สำหรับภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-22 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง รวมถึงระมัดระวังอัคคีภัยไว้ด้วยเนื่องจากอากาศแห้งและมีลมแรง
บรรยากาศการท่องเที่ยวจังหวัดหนองคาย ในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์คึกคัก นักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางไปท่องเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ในจ.หนองคาย สถานที่ท่องเที่ยวที่คึกคักเป็นพิเศษก็ยังคงเป็นสกายวอล์ค ที่วัดผาตากเสื้อ ต.ผาตั้ง อ.สังคม จ.หนองคาย ซึ่งเป็นจุดชมวิวพื้นกระจกใส มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวชาวไทยชาวลาว และชาวต่างประเทศ ได้เดินทางมาเพื่อขึ้นไปชมทัศนียภาพ 2 ฝั่งโขงไทย-ลาว และสัมผัสอากาศหนาวเย็นบนสกายวอค์คกันตั้งแต่เช้าและตลอดทั้งวัน คาดนักท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า3พันคน ขณะที่เจ้าหน้าที่ต้องเพิ่มความเข้มงวด โดยขอความร่วมมือกับนักท่องเที่ยวให้ขึ้นชมได้รอบละ20 – 25 คน เพื่อความปลอดภัยและความเป็นระเบียบบนสกายวอล์ค.
ส่วนที่อ.ภูเรือจ.เลย นักท่องเที่ยว ที่ใช้ช่วงวันหยุดใช้รถขึ้นภูเรือ จับจองที่กางเต็นท์พักแรม ไปชมทัศนียภาพสวยงาม ทะเลหมอก ดอกไม้หลากสีสันบานสะพรั่งสัมผัสอากาศหนาวเย็นจัดรุ่งเช้าตรู่ตื่นชมดวงอาทิตย์ขึ้น ถ่ายภาพเซลฟี่เป็นที่ระลึก ตอนสายเดินทางลงมายังด้านล่างแล้วเข้าชมลานคริสต์มาส ซึ่งอ.ภูเรือเปิด”เทศกาลต้นคริสต์มาสภูเรือ ครั้งที่ 8”ตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน 2562 ถึงวันที่31 มกราคม 2563 หวังจะเป็นการกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาจ.เลยมากขึ้น
จ.นครราชสีมา มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปชมดวงอาทิตย์ตกลับขอบฟ้าตัดกับเหลี่ยมภูเขากันเป็นจำนวนมาก ทำให้การจราจรบริเวณทางขึ้นเขาเพื่อไปยังผาเก็บตะวันติดขัดเป็นบางช่วง ทำให้นักท่องเที่ยวบางรายที่ไม่ได้เผื่อเวลาในการเดินทาง พลาดโอกาสที่จะได้ถ่ายรูปนาทีที่ดวงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าไปกับเหลี่ยมภูเขา ยิ่งเป็นในช่วงฤดูหนาวเช่นนี้ด้วยโอกาสที่ดวงอาทิตย์จะลาลับขอบฟ้าย่อมเร็วกว่าปกติไปด้วย ซึ่งเวลาที่เจ้าหน้าที่อุทยานแนะนำในการเดินทางมายังผาเก็บตะวันคือเวลาประมาณ 16.00-17.00 น.
นักท่องเที่ยวแห่ขึ้นเหนือ
อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์เปิดเผยยอดตัวเลขนักท่องเที่ยวในวันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา พบว่ามีนักท่องเที่ยวมากถึง 13,824 คน และนายกริชสยาม คงสตรี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ได้คาดการณ์ว่าจะมีปริมาณนักท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาวนี้ไม่ต่ำกว่าวันละ 5,000 คน และยังคาดการณ์อีกว่าหากเป็นวันหยุดก็จะมีนักท่องเที่ยวเกิน 10,000 คนแน่นอน
นายบัญชา รามศิริ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง เปิดเผยว่า จากสภาพอากาศหนาวล่าสุดอุณหภูมิบนจุดชมวิวห้วยน้ำดังวันนี้วัดได้ 4 องศาเซลเซียส และมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวในห้วงวันหยุดเพิ่มมากขึ้น กว่า 2,000 คนต่อวัน
ขณะที่ด่านตรวจทางขึ้นอุทยานภูหินร่องกล้า อ.นครไทย จ.พิษณุโลก มีนักท่องเที่ยวมาสัมผัสบรรยากาศหนาวกันอย่างหนาแน่น ทั้งเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว และมาเป็นกลุ่มด้วยรถจักรยานยนต์ จากพิษณุโลก สุโขทัย เป้าหมายเพื่อมาท่องเที่ยวที่อุทยานภูหินร่องกล้า และไปพักแรมที่ภูทับเบิก อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ ที่สามารถเดินทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงกันได้ ระหว่างอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าและภูทับเบิก สภาพอากาศเย็นตลอดทั้งวัน แม้ว่าจะช่วงเที่ยงและบ่ายสภาพอากาศยังคงหนาวเย็นและมีลมพัดแรง ขณะที่ร้านจำหน่ายสินค้าของชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง พืชผลเมืองหนาว สตรอว์เบอร์รี ก็จำหน่ายกันได้ดีขึ้น
เล็งประกาศพื้นที่ภัยพิบัติ
นายไพรินทร์ ลิ่มเจริญ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจ.เชียงใหม่ กล่าวว่า เรื่องที่จะประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติภัยหนาวนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่มีการกำชับว่าให้ติดตามสถานการณ์ต่อเนื่อง ซึ่งตามหลักเกณฑ์หากพบว่ามีอุณหภูมิต่ำกว่า 8 องศาฯ ติดต่อกัน 3 วันจะสามารถประกาศให้จ.เชียงใหม่เป็นพื้นที่ภัยพิบัติได้ ขณะนี้แนวโน้มก็มีความเป็นไปได้หากอากาศยังหนาวเย็นลงอย่างต่อเนื่อง และทางผู้ว่าฯก็ได้สั่งการไปให้นายอำเภอและผู้นำชุมชนต่างๆ ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างต่อเนื่องอีกด้วย
ระวังเด็กเล็ก-ผู้สูงอายุพิเศษ
นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ โฆษกกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวว่า อากาศหนาว ผู้สูงอายุ ประสาทการรับรู้ที่ผิวหนังจะมีความไวลดลง ปรับตัวต่ออากาศเย็นได้ไม่ดี และกลุ่มเด็กเล็ก ซึ่งศูนย์ควบคุมอุณหภูมิในร่างกายยังไม่สมบูรณ์ และมีไขมันใต้ผิวหนังน้อย อาจเกิดภาวะตัวเย็นเกิน (Hypothermia) โดยอาจมีอาการตั้งแต่อ่อนเพลีย ท้องอืด ซึมลง หายใจช้า ชีพจรเต้นช้า ปัสสาวะลดลงจนหมดสติและอาจเสียชีวิตในที่สุด จึงเป็น 2 กลุ่มที่ต้องระวังพิเศษ
“การอาบน้ำอุ่นต้องระวังไม่อาบน้ำนานเกินไป และไม่ควรปรับอุณหภูมิน้ำร้อนจนเกินไป จะทำให้ผิวแห้ง คัน แตก ลอก ควรทาครีมบำรุงผิวหลังอาบน้ำทันที เพิ่มความชุ่มชื้นป้องกันผิวแตก ซึ่งผู้สูงอายุมักมีสภาพผิวหนังที่แห้งง่ายตามวัย ผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับผิวหนัง หรือผู้ป่วยเบาหวาน ต้องระวังอย่าให้ผิวแห้งแตก หรือเกิดเเผลจากการเกา เพราะจะเกิดการอักเสบ และเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมาได้”นพ.รุ่งเรืองกล่าว