‘อิ๊กดราซิล’จ่อIPO พบกองทรัสต์ ตลท. ร่วมถือหุ้น 9%

บริษัท อิ๊กดราซิล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ YGG ประกอบธุรกิจออกแบบและจัดทำคอมพิวเตอร์กราฟิกส์เกี่ยวกับงานโฆษณา ภาพยนตร์ และเกมส์ เตรียมเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ MAI ช่วงปลายปีนี้ โดยจะเสนอขายหุ้นไอพีโอรวมไม่เกิน 45 ล้านหุ้น 

ทั้งนี้ โครงสร้างผู้ถือหุ้นของ YGG ปัจจุบัน มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 ราย ได้แก่ ธนัช จุวิวัฒน์ และ ศรุต ทับลอย เป็นผู้ร่วมก่อตั้งและผู้บริหาร รวม 91% ขณะที่สัดส่วนอีก 9% ถือโดย เอสเอ็มอี ไพรเวท อิควิตี้ ทรัสต์ ฟันด์ โดยธนาคารออมสิน กองที่ 1 ซึ่งเป็นกองทรัสต์ฯ ที่ถือหุ้นร่วมกันโดยตลาดหลักทรัพย์ฯ และธนาคารออมสิน เพื่อให้การสนับสนุนธุรกิจเอสเอ็มอี (Venture Capital) ที่มีศักยภาพสูงและมีนวัตกรรม ทางธุรกิจ หรือสินค้า และมีศักยภาพในการเติบโตสูง

นาย ธนัช จุวิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร YGG เปิดเผยว่า กองทรัสต์ฯ ของตลาดหลักทรัพย์ฯ เข้ามาร่วมลงทุนกับบริษัทตั้งแต่ต้นปี 2560 ด้วยเงินลงทุน 50 ล้านบาท มีกำหนดถือครองทั้งสิ้น 8 ปี จนถึงปี 2568 ส่วนการตัดสินใจเข้าระดมทุนครั้งนี้ เพราะต้องการจะขยายฐานธุรกิจในต่างประเทศให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะแถบอเมริกาเหนือ ซึ่งบริษัทมีแผนจัดตั้งสำนักงานที่ประเทศแคนาดาภายในปี 2564

“ปัจจุบันโครงสร้างรายได้ของบริษัทมาจากต่างประเทศ 70% โดยเฉพาะในญี่ปุ่นและจีน หลังจากนี้บริษัทต้องการจะขยายฐานลูกค้าทางฝั่งอเมริกาเหนือเพิ่มขึ้น เพราะลูกค้าของบริษัทซึ่งเป็นผู้ผลิตคอนเทนท์ด้านภาพยนต์ แอนิเมชั่น และโฆษณา ตั้งอยู่ในโซนนั้นค่อนข้างมาก อาทิ Netflix, Disney ซึ่งในอนาคตเชื่อว่าจะเห็นสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเพิ่มสูงขึ้นไปอีก เพราะยังมีความต้องการจากผู้ผลิตคอนเทนท์ที่มีแนวโน้มโตต่อเนื่อง”

จุดเด่นอย่างหนึ่งของอิ๊กดราซิล คือ ความสามารถในการทำกำไร โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นถึง 42.59% และมีอัตรากำไรสุทธิ 27.97% สำหรับผลประกอบการ 9 เดือน ปี 2562 เป็นผลจากการมีธุรกิจที่ครอบคลุมทั้ง 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ แอนิเมชั่น สัดส่วน 50% เกมส์ 25% และกราฟิกส์โฆษณา/ภาพยนต์ 25% ซึ่งในอนาคตคาดว่างานในส่วนของแอนิเมชั่นจะเพิ่มขึ้นไปถึง 60% ทำให้บริษัทให้บริการลูกค้าได้อย่างครบวงจร และสามารถควบคุมต้นทุนให้ต่ำลงได้

“เป้าหมายระยะยาวของ YGG คือการก้าวไปเป็นผู้ให้บริการด้านออกแบบงานแอนิเมชั่น โฆษณา ภาพยนต์ และเกมส์ในระดับโลก ซึ่งที่ผ่านมาก็สามารถทำได้ดี เพราะมีบริษัทใหญ่ๆ รู้จักเรามากขึ้น ทั้งในจีน ญี่ปุ่น สหรัฐ ปัจจุบันบริษัทมีพนักงานกว่า 200 คน ซึ่งยังสามารถรับงานได้เพิ่มขึ้นอีก 15-20% และภายหลังการระดมทุนก็จะขยายขอบเขตการรับงานได้มากขึ้นอีก”

สำหรับกำไรสุทธิของบริษัท ปี 2559 - 2561 อยู่ที่ 28.14 ล้านบาท 14.02 ล้านบาท และ 21.09 ล้านบาท ตามลำดับ โดยกำไรสุทธิ ปรับลดลงในปี 2560 เนื่องจาก อัตรากำไรขั้นต้นลดลง จากการเพิ่มจำนวนพนักงานในฝ่ายแอนิเมชั่นและเกมส์เพื่อเตรียมรองรับงานในปี 2561 

ส่วนงวด 9 เดือน ปี 2562 ทำได้ 41.31 ล้านบาท ลดลง 16.2% เป็นผลจากการลดลงของรายได้และอัตรากำไรขั้นต้น เนื่องจากการแข่งขันในธุรกิจโฆษณาทางโทรทัศน์ที่มากขึ้น และรายได้จากงานเกมส์ลดลง 29.4% เพราะโครงการล่าสุดแล้วเสร็จตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 256