ทูตอียูชมไทย ใช้แผนธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน ประเทศแรกในเอเชีย
"ทูตสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย" เข้าพบ"สมศักดิ์" ชื่นชมไทยใช้แผนธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน เป็นประเทศแรกในทวีปเอเชีย พร้อมยินดี ไทยมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ขณะที่ รมว.ยุติธรรม ขอบคุณที่เชื่อมั่นในศักยภาพของไทย
ที่กระทรวงยุติธรรม เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2562 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ให้นายปีร์กะ ตาปีโอละ เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พร้อมหารือข้อราชการ
โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และเอกอัครราชทูตสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย ได้ต่างแสดงความยินดีต่อความสัมพันธ์ ที่ใกล้ชิดระหว่างสหภาพยุโรปและไทย รวมถึงได้ร่วมหารือข้อราชการในประเด็นที่เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน อาทิ ความร่วมมืออย่างต่อเนื่องในกิจกรรมด้านสิทธิมนุษยชน การนำแผนปฏิบัติการระดับชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน ไปปฏิบัติใช้ การผลักดันร่างพระราชบัญญัติคู่ชีวิต และร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย
นอกจากนี้ นายปีร์กะฯ ยังได้แสดงความชื่นชมบทบาทของกระทรวงยุติธรรม ภายใต้การกำกับดูแลของนายสมศักดิ์ฯ ที่ได้ผลักดันการจัดทำแผนปฏิบัติการระดับชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน จนบรรลุผลสำเร็จและได้ประกาศใช้เป็นประเทศแรกในทวีปเอเชีย พร้อมทั้งแสดงความชื่นชมที่กระทรวงยุติธรรม เป็นกำลังสำคัญในการผลักดันและสนับสนุนร่างพระราชบัญญัติคู่ชีวิต และร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย
โดยนายปีร์กะฯ ยังได้กล่าวแสดงความยินดี ที่ประเทศไทยสามารถจัดตั้งรัฐบาล ที่มาจากการเลือกตั้งได้สำเร็จ ซึ่งที่ประชุมคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรปด้านการต่างประเทศ ก็ได้มีข้อมติเกี่ยวกับประเทศไทย ที่รับทราบถึงพัฒนาการทางการเมืองของประเทศไทย พร้อมมีความเชื่อมั่นว่ากระทรวงยุติธรรม จะสามารถเป็นกำลังหลักในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนและเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาประเทศต่อไป
ขณะที่ นายสมศักดิ์ฯ ยืนยันถึงนโยบายการให้ความสำคัญกับประเด็นสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย รวมถึงการพัฒนาและผลักดันร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับประเด็นสิทธิมนุษยชนในด้านต่างๆ ขณะเดียวกัน ยังได้แสดงความขอบคุณที่สหภาพยุโรป มีความเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทย พร้อมขอบคุณที่คณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย มีความร่วมมือกับกระทรวงยุติธรรม ในมิติด้านสิทธิมนุษยชนด้วยดีเสมอมา ซึ่งการเยี่ยมคารวะของนายปีร์กะ ครั้งนี้ สะท้อนถึงการเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดระหว่างไทยกับสหภาพยุโรปที่มีความสัมพันธ์ ทั้งในเชิงธุรกิจ การเมือง และสิทธิมนุษยชน เพื่อความก้าวหน้า และการพัฒนาที่ยั่งยืนของทั้งสองประเทศและภูมิภาคต่อไป