'จีน' ออกกฎใช้ ‘ระบบจดจำใบหน้า’ ลงทะเบียนมือถือ
"จีน" ออกกฏเหล็กขึ้นใหม่ สำหรับผู้ใช้โทรศัพท์สมาร์ทโฟนต้องถ่ายรูป และใช้ระบบจดจำใบหน้าตัวเอง เพื่อลงทะเบียนเพื่อเปิดบริการใหม่
สื่อต่างชาติรายงานว่า การใช้ระบบจดจำใบหน้านี้มีผลบังคับใช้เดือนธันวาคมที่ผ่านมา รัฐบาลจีนกล่าวว่า กฎใหม่ดังกล่าวได้รับการออกแบบมาเพื่อใช้ในการยืนยันอัตลักษณ์ของบุคคลเพื่อช่วยป้องกันการทุจริตต่างๆ
กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีนยังไม่ได้ระบุว่า บริษัทใดบ้างที่จะเป็นผู้ดำเนินการระบบจดจำใบหน้าให้แก่บรรดาบริษัทโทรคมนาคม
ทั้งนี้ผู้ที่ต้องการเปิดบริการโทรศัพท์มือถือใหม่ทุกคนจะต้องถูกถ่ายรูปเก็บไว้ แต่ก็ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่ากฎหมายใหม่นี้จะส่งผลกระทบต่อผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือที่มีอยู่แต่เดิมแล้วอย่างไรบ้าง
การใช้ระบบจดจำใบหน้าในการเปิดบริการโทรศัพท์มือถือใหม่นี้ ยังเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของการใช้เทคโนโลยีนี้ในจีน ซึ่งมีการใช้กันอย่างแพร่หลายไม่ว่าจะเป็นตามร้านค้า ในระบบรถไฟใต้ดิน และสนามบิน เป็นต้น
นอกจากนี้ อาลีบาบา บริษัทค้าปลีกของจีนเปิดทางเลือกให้ลูกค้าของตนสามารถชำระค่าสินค้าโดยใช้การสแกนใบหน้าได้ และแขกของโรงแรมยังสามารถใช้ระบบจดจำใบหน้าในการเช็คอินได้ นอกจากนี้ หลายเมืองของจีนได้ประกาศว่าจะใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้าในระบบรถไฟใต้ดิน
ด้าน หนังสือพิมพ์ไชน่าเดลี่ ของรัฐบาลจีนรายงานว่า ระบบดังกล่าวจะถูกใช้เพื่อจำแนกผู้โดยสาร และใช้ในการกำหนดมาตรการตรวจสอบความปลอดภัยที่แตกต่างกัน
สำนักข่าวซินหว่ามีรายงานเมื่อเดือน ก.ค. ว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐกำลังวางแผนหรือได้สร้างระบบจดจำใบหน้าที่ทางเข้าของชุมชนสาธารณะทั้งหมด 59 แห่ง
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อปีที่แล้วเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีการจดจำใบหน้าอย่างกว้างขวางในพื้นที่ซินเจียงตะวันตก ซึ่งผู้เชี่ยวชาญเผยว่า ชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมกว่า 1 ล้านคนถูกควบคุมตัวไว้ได้ในค่ายทั่วซินเจียง จากการใช้เทคโนโลยีนี้
นอกจากนี้ จีนได้ประกาศแผนการที่จะขยายการใช้ระบบจดจำใบหน้าในการลงทะเบียนนักเรียนสำหรับการสอบเข้ามหาวิทยาลัยแห่งชาติ
อย่างไรก็ตาม มีการเรียกร้องให้รัฐบาลจีนพิจารณากฎข้อบังคับเพิ่มเติมสำหรับการใช้เทคโนโลยีชนิดนี้ ขณะเดียวกัน หนังสือพิมพ์พีเพิลเดลี่ของพรรคคอมมิวนิสต์ เรียกร้องให้รัฐบาลจีนตรวจสอบหลังจากมีผู้สื่อข่าวคนหนึ่งรายงานว่า เขาได้พบว่ามีการซื้อขายข้อมูลใบหน้าทางอินเทอร์เน็ต