เทคโนโลยีใกล้ตัวเปลี่ยนแปลงแค่ไหนในรอบ 10 ปี

ในทางสากล 31 ธ.ค. 2019 ถือเป็นการสิ้นสุดทศวรรษที่ 2010 ทำให้เป็นโอกาสย้อนรำลึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้น และเปลี่ยนแปลงไปในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา เวลาผ่านไปไวจนหลายคนยังไม่ทันสังเกตเห็นความแตกต่างที่เกิดขึ้น หลายสิ่งทำให้ชีวิตสะดวกสบายแทบพลิกผ่ามือ หรือเข้ามามีอิทธิเกินกว่าที่คาดเดาไว้ โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี 

ช่วงครึ่งปีหลังของ 2009 หลายสื่อในต่างประเทศออกมาคาดการณ์เทคโนโลยีที่จะเกิดขึ้นในปีถัดไป เว็บไซต์ไอทีชื่อดังอย่าง Techcrunch ได้ประกาศเทคโนโลยี 10 ชนิดที่จะมาเขย่าโลกในปี 2010 หลักๆ คือ

 1) Tablet อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หน้าตาทันสมัย หน้าจอกว้าง บางเท่าสมุด สามารถทำงานได้สารพัดประโยชน์ไม่ว่าจะเขียน พิมพ์ เชื่อมอินเทอร์เน็ต สามารถตอบโจทย์การทำงานได้หลากหลาย

ด้วยคุณสมบัติที่ใกล้เคียงกับ Laptop หรือคอมพิวเตอร์พกพา แต่ขนาดเล็กกว่า เบากว่า แถมไม่จำเป็นต้องมีแป้นพิมพ์ทำให้ช่วงปี 2010 Tablet ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว และถูกคาดหวังว่าพวกมันจะสามารถมาแทนที่ Laptop ได้ไม่ช้าไม่นาน

ช่วงนั้น Tablet ที่สร้างความฮือฮาไปทั่วโลกคือ iPad อุปกรณ์จาก Apple บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ ที่เปิดตัวขึ้นมาครั้งแรกช่วงเดือน ม.ค. โดย Steve Jobs  ผู้บริหาร Apple ในสมัยนั้น การนำเสนอที่ทันสมัย ทำให้สามารถตีตลาดคนรักเทคโนโลยีและคนทั่วไปได้ไม่น้อย

อย่างไรก็ดี 10 ปีผ่านมา แม้ว่าความสำเร็จของ iPad จะยังไม่ถึงขั้นที่ Jobs วาดหวังไว้ เพราะท้ายที่สุดแล้วมันยังไม่สามารถทดแทนแลปทอปได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่กลับสร้างแนวโน้มใหม่ขึ้น นั่นคือ การใช้ iPad ทดแทนการใช้กระดาษมากขึ้น สอดคล้องไปกับการรณรงค์อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ซึ่งพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปนี้ทำให้ร้านถ่ายเอกสารในมหาวิทยาลัยหลายแห่งประสบปัญหาผู้ใช้บริการน้อยลง เพราะถูก iPad เข้ามาทดแทนการถ่ายเอกสารในรูปแบบเดิมๆ

2) ระบบปฏิบัติการมือถือ ในปี 2010 เป็นช่วงที่ระบบปฏิบัติการ Android (แอนดรอยด์) กำลังมาแรง โดยก่อนหน้านั้น HTC และ Motorola เป็นสองผู้นำในตลาดมือถือค่าย Android และในปี 2010 ก็เป็นปีแรกที่ Samsung กระโดดเข้ามาร่วมค่าย Android โดยเปิดตัว Samsung Galaxy S ที่มีคุณสมบัติหลากหลาย ฉีกแนวจากจากสมาร์ทโฟนตระกูล Apple

ช่วง 2010 – 2019 Android ตีตลาดผู้ใช้สมาร์ทโฟนมากเรื่อยๆ โดยจุดขายของระบบปฏิบัติการนี้คือการเปิดกว้าง สามารถรองรับเกมที่หนักหน่วงได้ เอาใจบรรดาคอเกมออนไลน์ อีกทั้งยังสามารถใช้งานได้ในสมาร์ทโฟนหลากหลายแบรนด์ทำให้มีผู้ใช้เป็นจำนวนมาก

นอกจากนี้ CRIP (Consumer Intelligence Research Partners) หน่วยงานเก็บสถิติ ได้มีการสำรวจผลการใช้งานของผู้ใช้ระบบปฏิบัติการในสมาร์ทโฟน ในช่วงเดือนธันวาคม 2017 พบว่า ผู้ใช้ Android มีความภักดีต่อ Brand สูงถึง 91% ขณะที่ iOS อยู่ที่ 86%

นอกจากปี 2010 จะเป็นจุดเริ่มต้นความรุ่งเรืองของ Android ยังเป็นจุดเริ่มต้นระบบปฏิบัติการของค่าย Microsoft ที่ดันระบบ Windows Phone 7 ออกมาให้ได้ยลโฉมในปีนั้น แต่น่าเสียดายที่ระบบนี้อยู่รอดถึงแค่ปี 2017 โดยกระแสตอบรับ Windows Phone 7 ไม่ดีเท่าที่ควร ส่วนหนึ่งคือการบริการยังน้อยมากเมื่อเทียบกับเจ้าใหญ่ ทำให้ผู้บริโภคไม่กล้าซื้อ จึงไม่สามารถตีตลาดระบบใหญ่อย่าง iOS และ Android ได้สำเร็จ จึงต้องโบกมือลาสมรภูมิระบบปฏิบัติการไปอย่างเงียบๆ

อย่างไรก็ตามประสิทธิภาพในการทำงานของ iOS และ Android รวมถึงความนิยมในปัจจุบันแทบไม่ได้แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของผู้ใช้ หรือความจงรักภักดีในแบรนด์ของแต่ละคน และระบบปฏิบัติการเหล่านี้ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ในทศวรรษหน้าอีกต่อไป

3) โซเชียลมีเดีย เทรนด์ด้านเทคโนโลยีที่สร้างพฤติกรรมใหม่ๆ ให้กับผู้ใช้เชียลมีเดียในช่วงนั้น คือการเกิดขึ้นของ Instagram (อินสตาแกรม) แอพพลิเคชันที่ใช้ในการแบ่งปันรูปภาพและคลิปวิดีโอสั้นๆ ที่คิดค้นขึ้นโดยเควิน ซิสตรอม และไมเคิล ไมก์ ครีเกอร์ ชาวอเมริกัน และเปิดใช้งานในปี 2010 เพียงเพื่อแชร์ของพวกเขาลงในโลกออนไลน์

ผ่านมาเกือบ 10 ปี อินสตาแกรมไม่ได้ทำหน้าที่แค่นั้น แถมยังได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม จนกระทั่ง Facebook ได้เข้ามาซื้อกิจการ ในราคา 1 พันล้าน ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเดือน เมษายน 2012

ภายใต้การบริหารงานของ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ประธานบริษัทเฟซบุ๊ก ทำให้อินสตาแกรมในปัจจุบันเป็นโซเชียลมีเดียที่เน้นการสื่อสารด้วยรูปภาพ และวิดีโอ ที่มีผู้ใช้งานทั่วโลกมากถึง 849.3 ล้านบัญชี (ข้อมูลไตรมาส 3 ปี 2019 จาก The Flight) และยังกลายเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายของออนไลน์ที่ได้รับความนิยมมาก และมีแนวโน้มมากขึ้นในอนาคตด้วย

การเติบโตของอินสตาแกรมที่ก้าวกระโดด แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมการใช้โซเชียลมีเดียของคนรุ่นใหม่ ที่นิยมสื่อสารด้วยภาพ และไว้วางใจบริการซื้อขายผ่านโซเชียลมีเดียมากขึ้นจนนำไปสู่การตลาดรูปแบบใหม่ในปัจจุบัน

แม้เทคโนโลยีเหล่านี้จะเป็นเพียงตัวอย่างบางส่วนที่เกิดขึ้น แต่ล้วนเป็นภาพสะท้อนให้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนในโลกเทคโนโลยีช่วง 10 ปีผ่านมา และเป็นตัวบ่งชี้ว่า ไม่มีอะไรที่อยู่รอดในโลกดิสรัปชันโดยไร้การเปลี่ยนแปลงแม้แต่สิ่งที่เกิดขึ้นใหม่