Green Pulse I มธ.เกี่ยวข้าวบนสวนผักลอยฟ้าใหญ่สุดในเอเชีย 

ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีฝ่ายความยั่งยืนและบริหารศูนย์รังสิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) พร้อมด้วยคณาจารย์ นักศึกษา และศิษย์เก่า รวมกว่า 100 ชีวิต ร่วมกันเกี่ยวข้าวที่ปลูกเอาไว้บนสวนผักออร์แกนนิกลอยฟ้าซึ่งเป็นหลังคาของอาคารอุทยานเรียนรู้ป๋วย ๑๐๐ ปี เมื่อต้นอาทิตย์ที่ผ่านมา

โดยอาคารใหม่ของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ได้รับการออกแบบก่อสร้างเพื่อให้เป็นพื้นที่สาธารณะบริการประชาชน โดยเฉพาะการเป็น “ศูนย์การเรียนรู้ในด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน” ตามแนวคิดขแงอดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ โดยหลังคาถูกปรับประยุกต์ให้เป็นพื้นที่สวนลอยฟ้าซึ่งเป็นสวนสาธารณะและสวนผักปลอดสารเคมี ด้วยพื้นที่เกือบ 20,000 ตารางเมตรใหญ่ที่สุดในเอเชียในเวลานี้

ภายใต้กิจกรรม“มาเกี่ยวข้าวกัน” ที่จัดโดย มธ. ศูนย์รังสิตเพื่อรณรงค์อาหารปลอดสารเคมีหลังการเปลี่ยนมติโดยคณะกรรมการวัตถุอันตรายให้ชะลอการแบนสารพิษเกษตรที่พบว่ามีอันตรายต่อสุขภาพเมื่อปลายเดือนพฤษจิกายนที่ผ่านมา, จิตอาสาซึ่งได้ร่วมกันปลูก “ข้าวหอมธรรมศาสตร์”ซึ่งภาควิชาเทคโนโลยีการเกษตร คณะวิทยาศาสตร์ ได้พัฒนาสายพันธุ์มาจากข้าวหอมมะลิ ๑๐๕ แต่มีจุดเด่นกว่าตรงที่สามารถเก็บเกี่ยวได้ภายใน ๙๐ วันเท่านั้นและมีความเหมาะสมกับการปลูกแบบปลอดสารเคมีโดยเฉพาะ ได้ร่วมแรงร่วมใจกันเกี่ยวข้าวภายใต้กิจกรรมที่จัดขึ้น

ผศ.ดร.ปริญญา กล่าวว่า วิถีการเกษตรดั่งเดิมของประเทศไทยนับว่าเป็นต้นทุนที่ดีมาก แต่ปัจจุบันกลับพบการใช้สารเคมีในปริมาณที่สูง ซึ่งนอกจากสร้างผลกระทบต่อสุขภาพเกษตรกรและผู้บริโภคแล้ว ยังทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นด้วย ฉะนั้นเกษตรกรในประเทศไทยจึงเข้าข่ายยิ่งทำยิ่งจน

ผศ.ดร.ปริญญา กล่าวว่า ทุกการเปลี่ยนแปลงสามารถเริ่มต้นได้ที่ตัวเรา มธ.จึงอยากชักชวนให้ประชาชนเริ่มต้นด้วยการเลิกนำสารเคมีเข้าสู่ร่างกาย ไม่บริโภคผัก-ผลไม้ที่มีสารเคมี ซึ่งที่สุดแล้วจะนำไปสู่การเกษตรกรรมที่ปลอดจากสารก่อมะเร็งในอนาคต

“หลังคาของอาคารอุทยานเรียนรู้ป๋วย ๑๐๐ ปี นับว่าเป็นสวนผักออร์แกนนิกลอยฟ้าที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ ๑ ของภูมิภาคเอเชีย และถือเป็นอันดับ ๒ ของโลก รองจากมหานครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ดังนั้นการปลูกข้าวบนสถานที่แห่งนี้ นับเป็น “กุศโลบาย” ที่จะทำให้คนสนใจ และหันมาให้ความสำคัญกับเรื่องเกษตรปลอดภัยอย่างจริงจัง” ผศ.ดร.ปริญญา กล่าว

ด้านนายเอกชัย ราชแสง นักวิชาการเกษตรชำนาญการพิเศษ มธ. กล่าวว่า ขั้นตอนหลังจากนี้ ก็จะนวดข้าวให้เหลือเฉพาะเมล็ด แล้วตากแห้งประมาณ ๒๘ วัน จากนั้นก็จะนำไปเป็นเมล็ดพันธุ์เพื่อปลูกต่อ สำหรับหุงต้อนรับนักศึกษาชั้นปีที่ ๑ ในปีการศึกษาต่อไป