'มท.1' ขอหลักฐาน กำนันกาบัตรแทน อย่าพูดไปเรื่อย
"อนุพงษ์" โยนให้ กกต.สอบสวน กำนันกาบัตรแทน ใครมีหลักฐานมาให้ข้อมูลได้ เพื่อให้เกิดความกระจ่างต่อสังคม ไม่ใช่กล่าวหาโดยขาดซึ่งข้อเท็จจริง - ปัดวิจารณ์ ฉายา รบ.เซียงกง รอคอเมนต์ฉายาสื่อ
เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. 62 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีกว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ ถึงการเลือกตั้งซ่อมเขต 7 ขอนแก่น ที่มีการร้องเรียนการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐกาบัตรเลือกตั้งแทนผู้ลงคะแนนว่า ต้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นผู้สอบสวน เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นในคูหาเลือกตั้ง ตนทำหน้าที่เพียงแค่ติดตาม และกำนันที่ถูกกล่าวหาเป็นเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง ทั้งนี้ จากการสอบถามเบื้องต้นผู้ร้องเรียนนั่งรถเข็นเข้ามาในพื้นที่ ทางเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องเป็นผู้ช่วยเหลือ เพราะคนอื่นไม่สามารถเข้าไปในคูหาได้ จนเกิดข้อครหาดังกล่าวและมีการแจ้งความ
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ในที่เกิดเหตุมีผู้สังเกตการณ์ทั้งจากพรรคพลังประชารัฐ และพรรคเพื่อไทยอยู่ในจุดดังกล่าว และเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด จึงต้องว่าไปตามการสอบสวน ส่วนขั้นตอนปฏิบัติ เจ้าหน้าที่สามารถยืนประกบผู้ใช้สิทธิ์ได้หรือไม่นั้นให้ไปถาม กกต.ดีกว่า
ทั้งนี้ หากจริงทำผิดจริง นอกจากบทลงโทษของ กกต.แล้ว จะมีโทษทางวินัยหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ถ้ากระทำผิดจะมีบทลงโทษจาก กกต. ที่ค่อนข้างรุนแรง และสิ่งที่ตามมาคือโทษทางวินัยและอาญา ย้ำว่าต้องประพฤติมิชอบ ไม่ใช่ไปพาดหัวข่าว มหาดไทยเตรียมฟันเขาแล้ว แต่ขอให้รอผลการตรวจสอบเพราะมหาดไทยเองก็ไม่รู้ เนื่องจากอยู่ห่างไกล แต่หากใครเห็นเหตุการณ์ด้วยตาตัวเองก็ขอให้มาให้ข้อมูล เพื่อให้เกิดความกระจ่างต่อสังคมและเกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ไม่ใช่ว่ากันไปเรื่อยโดยขาดซึ่งข้อเท็จจริง ทุกอย่างมีกฎเกณฑ์อยู่ในคูหาเลือกตั้ง กกต. ดูอยู่ หากมีพยานหลักฐานไปดำเนินการได้
ส่วนกรณีที่ผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบตั้งฉายาให้กับรัฐบาลและรัฐมนตรีประจำปีว่า รัฐบาลเชียงกง นั้น พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ไม่ขอวิจารณ์รัฐบาลและตามบริบทของศรีไทย การตั้งฉายารัฐบาลเป็นสิ่งที่ทำมาตั้งแต่อดีตสื่อก็ว่ากันไป ตนไม่ขอวิจารณ์ส่วน ส่วน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ได้ฉายาพี่ใหญ่สายเอ็นนั้น ตนก็ไม่ขอวิจารณ์เพราะไม่ใช่เรื่องของตน รอให้สื่อโดนวิจารณ์บ้างแล้วกันแล้วค่อยมาถามตน