กยท.ผนึก ปตท.เปิดปั๊มขายผลิตภัณฑ์ยาง
กยท. ร่วมกับ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก เปิดโครงการ จุดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยางพารา พัฒนาเกษตรกรไทย ปีที่ 3 หวังเป็นช่องทางตลาด ลดต้นทุนเกษตรกร
นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท รองผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย(กยท.)ด้านธุรกิจและปฏิบัติการ เปิดเผยว่า กยท. ได้ส่งเสริมให้เกษตรกรชาวสวนยาง รวมกลุ่มกันในรูปแบบสถาบันเกษตรกร เพื่อแปรรูปผลิตภัณฑ์ยางพารา เพิ่มมูลค่า และยังมีมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยาง และสถาบันเกษตรกร ในการหาพื้นที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ยางพารา ภายใต้โครงการ "จุดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยางพาราพัฒนาเกษตรกรไทย” ปีที่ 3 โดยอาศัยความร่วมมือระหว่าง กยท. และบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) ณ สถานีบริการ พีทีที สเตชั่น บจก.ธนรักษ์ปิโตเลียม (แม่ลาว) อ.แม่ลาว จ.เชียงราย
ซึ่งคาดว่า จะเป็นโครงการที่ส่งเสริมให้มีการใช้ยางพาราในประเทศเพิ่มขึ้น เป็นการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยางพาราให้แก่สถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง สามารถลดค่าใช้จ่ายในการหาพื้นที่จำหน่าย เพิ่มรายได้ มีช่องทางแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายโดยตรง เพื่อนำมาพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพและสามารถหาแนวทางการดำเนินธุรกิจ ให้ตรงตามความต้องการของผู้บริโภค เป็นการเสริมสร้างเศรษฐกิจประชารัฐ โดยมีเป้าหมายคือสถาบันเกษตรกรและเกษตรกรชาวสวนยาง สร้างโอกาสช่องทางด้านการตลาดได้ง่ายมากขึ้น และสามารถเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกร สถาบันเกษตรกร ผู้ประกอบกิจการยาง และประชาชนต่อไป
นายณัฐวุฒิ ศิริสัจจวัฒน์ ผู้จัดการเขตการขายอาวุโส บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ PTTOR กล่าวว่า มีความยินดีที่ได้ร่วมเป็นส่วนสนับสนุนโครงการ “จุดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยางพารา พัฒนาเกษตรกรไทย” ปีที่ 3 ร่วมกับ กยท. โดยการเปิดพื้นที่ในสถานีบริการน้ำมัน ปตท. ให้เป็นศูนย์กลางของชุมชนที่ได้นำสินค้าแปรรูปจากยางพาราเข้ามาจำหน่ายโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เพื่อช่วยพัฒนาและเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าของเกษตรกรผู้ปลูกยางพาราได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยเพิ่มรายได้และลดรายจ่ายในการหาพื้นที่จำหน่ายให้แก่เกษตรกรชาวสวนยางได้อีกช่องทางหนึ่ง
“บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) ต้องการให้สถานีบริการเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนตามแนวคิด living community ที่พร้อมส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน และทำงานร่วมกับภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนในการพัฒนาสินค้า บริการ ความเป็นอยู่ ตลอดจนคุณภาพชีวิตของประชาชนให้เข้มแข็งอย่างยั่งยืน”