จ่อถก กมธ.กฎหมาย หลังกลุ่มปลดแอกชาวสองล้อยื่นหนังสือร้องแก้ ก.ม.จราจร
"สิระ" จ่อถก กมธ.กฎหมาย หลังกลุ่มปลดแอกชาวสองล้อยื่นหนังสือร้องแก้ ก.ม.จราจรทางบก ให้จยย. ใช้สะพานข้ามแยก-อุโมงค์
เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 5 ม.ค.63 ที่บ้านเรือนไทย ถ.แจ้งวัฒนะ กลุ่มปลดแอกชาวสองล้อ นำโดย นายภีรสิทธิ์ จิระวงศ์ไพศาล พร้อมด้วยผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์กว่า 1,000 คัน เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ นายสิระ เจนจาคะ ส.ส. กมท. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เพื่อขอให้แก้ไข พ.ร.บ.จราจรทางบก ปี 2522 และเรื่องสะพานอุโมงค์
โดยนายภีรสิทธิ์ กล่าวว่า ทางกลุ่มเป็นประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากบทบัญญัติของกฎหมายจราจรที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง รวมถึงการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐที่อาศัยอำนาจจากกฎหมายมาออกข้อบังคับที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์และสร้างภาระให้กับประชาชนผู้ใช้จักรยานยนต์ จึงขอยื่นข้อเสนอ 3 ข้อ คือ 1.ผลักดันให้มีการแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จราจรทางบก พ.ศ.2522 ในส่วนของจักรยานยนต์ให้สอดคล้องกับสภาพปัจจุบัน 2.ประสานงานและสั่งการให้เจ้าพนักงานจราจรยกเลิกข้อบังคับที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์และสร้างภาระให้กับกลุ่มผู้ใช้รถจักรยานยนต์ และ 3.วางแผนงานเพื่อปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานในด้านคมนาคมให้สอดคล้องกับการใช้งานรถจักรยานยนต์และเอื้อให้เกิดความปลอดภัยในการขับขี่รถจักรยานยนต์ที่มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อสภาวะการณ์ของโลกยานยนต์ได้เปลี่ยนแปลงไป เจ้าพนักงานของไทยก็ต้องปรับตัว และปรับทัศนคติให้ทันต่อโลก เพื่อก้าวข้ามความขัดแย้งของผู้ใช้รถใช้ถนนทุกฝ่าย
นายภีรสิทธิ์ กล่าวอีกว่า การมายื่นหนังสือถึงนายสิระ เพราะนายสิระ ประกาศว่าใครมีปัญหาความเดือดร้อน สามารถมาแจ้งได้ จึงขอฝากเรื่องการแก้ไขกฎหมายจราจรที่ล้าสมัย รวมถึงเรื่องสิทธิในการขับขี่ โดยเฉพาะการห้ามใช้สะพาน-อุโมงค์ว่า แม้ค่าปรับจะสูงแค่ไหน ชาวสองล้อก็ต้องใช้สะพาน-อุโมงค์ จึงอยากให้ปรับกฎหมายสอดรับกับสภาพความเป็นจริงด้วย
ด้านนายสิระ กล่าวว่า การแก้ไขกฎหมายสามารถทำได้ 2 ทางคือ สภาฯ เป็นผู้ดำเนินการ หรือ คณะรัฐมนตรี(ครม.) เป็นผู้เสนอในนามรัฐบาล แต่กระบวนการแรก ตนจะนำเรื่องเข้าคณะกรรรมาธิการกฎหมายฯ ก่อน เพื่อศึกษาพิจารณาว่ากฎหมายที่ใช้อยู่ล้าสมัยหรือไม่
อย่างไรก็ตาม การออกกฎหมายจราจรปี 2522 ถือว่ามีเจตนาดี เพราะกำลังเครื่องของรถจักรยานยนต์ในขณะนั้น เพียง 70-80 ซีซี ซึ่งไม่สามารถที่จะขึ้นสะพานได้ แต่ตอนนี้สะพานกว้างขึ้น กำลังรถก็เพิ่ม และการใช้รถจักรยานยนต์ก็ช่วยแก้ปัญหาจราจรได้ส่วนหนึ่ง
ดังนั้นจะขอศึกษาและเชิญผู้ร้อง ผู้เกี่ยวข้อง มาให้ข้อมูลก่อน ส่วนตำรวจผู้บังคับใช้กฎหมาย ถ้ามีโอกาสตนจะขอเจรจาก่อน โดยขอผ่อนผันการจับกุม หรือถ้าจะตั้งด่านก็ต้องตั้งที่ต้นทางขึ้นสะพานหรืออุโมงค์ ไม่ใช่ปลายทาง หรือถ้าสะพานไหนศึกษาแล้วว่าจะไม่เกิดอุบัติเหตุ ก็จะนำเสนอต่อสภาฯต่อไป