'ศุลกากร' สั่งจนท.ตรวจเข้ม สินค้าเกี่ยวข้องความมั่นคง-เกษตร

เมื่อวันที่ 9 ม.ค.63 นายยุทธนา พูลพิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรภาคที่ 4 เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว แนวทางการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่ด่านฯในพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซียปี 2563 ว่าแนวทางปฎิบัติต่อยอดจากปีที่ผ่านมา (2562) โดยจะมุ่งเน้นเรื่องความมั่นคง โดยเฉพาะการตรวจของติดตัวผู้โดยสารจะมีการตรวจเข้มมากยิ่งขึ้น โดยมีการติดตั้งเครื่องเอ็กซ์เรย์ ส่วนของที่เดินทางมากับรถยนต์ก็จะมีการตรวจค้นมากขึ้น เพิ่มความละเอียดขั้น อันนี้ไม่เฉพาะสินค้าทั่วไป แต่สิ่งที่เราเป็นห่วงสินค้าที่เป็นชนวนที่สามารถนำมาประกอบระเบิด

“เราจะให้ความสำคัญกับสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงมาก นอกเหนือจากสิ่งของทั่วไปที่เราดำเนินการอยู่แล้ว”

สองคือเรื่องสินค้าสองจะเน้นการตรวจสอบอย่างเข้มข้นสำหรับสินค้าเกษตรกรที่มีการลักลอบเข้ามาในประเทศไทยและมีผลกระทบกับสินค้าเกษตรในประเทศ ซึ่งแนวทางปฎิบัติในปี 2563 เราจะเน้นในสองเรื่องนี้มากเป็นพิเศษ

นายยุทธนา กล่าวว่า นอกเหนือจากมาตรการป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าแล้ว สิ่งที่ทางศูลการกรภาคที่ 4 จะเน้นในการอำนวยสะดวกการส่งออกและนำเข้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้บริการการตรวจปล่อยสินค้า หมายถึงทุกอย่างที่มีการปฎิบัติตามพิธีการศุลกากร ซึ่งปัจจุบันดำเนินการด้วยระบบอิเล็คทรอนิกส์ 100 เปอร์เซ็นต์ รวมถึงการชำระเงินค่าภาษีก็สามารถทำผ่านระบบอีบิดดิ้งได้100 เปอร์เซ็นต์ ฉะนั้นสิ่งที่เจ้าหน้าที่จะต้องปฎิบัติก็คือ ศักยภาพในการตรวจปล่อยสินค้า

“เรามีการอบรมเจ้าหน้าที่มากขึ้น ให้เจ้าหน้าที่สามารถใช้เครื่องมือในการตรวจสินค้าได้เร็วรวด เช่น เครื่องเอ็กซ์เรย์ เป็นการสร้างศักยภาพให้เจ้าหน้าที่ตรวจปล่อยสินค้าได้เร็วขึ้น”

ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรภาคที่ 4 กล่าว และว่า สำหรับการแนวทางปฎบัติของเจ้าหน้าที่ๆผ่านมาค่อนข้างน่าพอใจ มีจำนวนไม่มากที่จะต้องพัฒนา แต่จำเป็นต้องมีการต่อยอดทางด้านความรู้เรื่องการตรวจปล่อยสินค้า

สำหรับผลการดำเนินงานของสำนักงานศุลกากรภาคที่ 4 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2562 (1ต.ค.2561-30ก.ย.62) ผลการจัดเก็บรายได้ศุลกากรและการจัดเก็บแทนหน่วยงานอื่นจำนวน 8,183.19 ล้านบาท และผลการจัดเก็บรายได้ศุลกากรและการจัดเก็บแทนหน่วยงานอื่น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 (1 ต.ค.62-31ธ.ค.62) จำนวน 1,989.46 ล้านบาท รวมถึงประมาณการณ์ว่าในปีงบประมาณ พ.ศ.2563 การจัดเก็บรายได้ศุลกากรและการจัดเก็บแทนหน่วยงานอื่นจะใกล้เคียงกับปีงบประมาณพ.ศ.2562 ที่ผ่านมา