สหรัฐไฟเขียวขายฝูงบิน ‘เอฟ-35’ ให้สิงคโปร์กว่า 8 หมื่นล้าน

สำนักงานความร่วมมือด้านความมั่นคงกลาโหมสหรัฐ (ดีเอสซีเอ) แถลงในวันนี้ (10 ม.ค.) ว่า รัฐบาลสิงคโปร์ได้แจ้งความประสงค์สั่งซื้อฝูงบิน เอฟ-35 จำนวน 4 ลำจากบริษัทล็อคฮีด มาร์ติน คอร์ป โดยมีเงื่อนไขสั่งเพิ่มได้ 8 ลำ เพื่อนำมาทดแทนฝูงบินขับไล่ เอฟ-16 ที่ใช้งานมานานหลายปี

ดีเอสซีเอระบุว่า กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐได้พิจารณาอนุมัติการจำหน่ายยุทโธปกรณ์ทางทหารให้แก่รัฐบาลสิงคโปร์ ประกอบด้วยเครื่องบินขับไล่ เอฟ-35บี จำนวนสูงสุด 12 ลำ และอุปกรณ์เสริมที่เกี่ยวข้อง รวมเป็นมูลค่า 2,750 ล้านดอลลาร์ (ราว 8.31 หมื่นล้านบาท)

เครื่องบินรุ่น เอฟ-35บี สามารถขึ้นและลงจอดด้วยรันเวย์ระยะสั้น ซึ่งเหมาะสมกับภูมิประเทศของเกาะสิงคโปร์ซึ่งมีที่ดินจำกัด

เดือน ต.ค. ปีที่แล้ว กระทรวงกลาโหมสหรัฐได้ประกาศลดราคาจำหน่าย เอฟ-35 ลงจากเดิม 13% ในระยะ 3 ปีข้างหน้า ซึ่งถือเป็นมาตรการดึงดูดให้ประเทศอื่น ๆ หันมาสนใจสั่งซื้อสุดยอดเครื่องบินขับไล่ชนิดนี้

ปัจจุบัน โครงการผลิต เอฟ-35 สร้างรายได้ให้กับล็อคฮีดราว 25% ของรายได้ทั้งหมดในแต่ละปี โดยมีลูกค้าหลักคือสหรัฐ รวมถึงลูกค้าระดับพันธมิตร ได้แก่ อังกฤษ อิตาลี เนเธอร์แลนด์ แคนาดา ตุรกี ออสเตรเลีย นอร์เวย์ และเดนมาร์ก ส่วนสิงคโปร์อยู่ในกลุ่มลูกค้าระดับสังเกตการณ์ร่วมกับอิสราเอล

สิงคโปร์เป็นประเทศที่ใช้จ่ายงบด้านการทหารสูงสุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ตลอดจนการปรับปรุงยุทโธปกรณ์ที่มีอยู่

ในปี 2562 รัฐบาลสิงคโปร์ได้อัดฉีดงบประมาณด้านความมั่นคงเพิ่มเป็น 30% ของงบประมาณทั้งหมด อยู่ที่ 2.27 หมื่นล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (ราว 5.08 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้นเกือบ 1,000 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์จากปี 2561