กองปราบ บุกรวบแก๊งยิงถล่มเสี่ยเจ้าของอู่รถเมืองตรัง
ตำรวจภูธรภาค9 สนธิกำลังกองปราบ บุกค้น 9 จุด รวบ 7 ผู้ต้องหาแก๊งยิงถล่มเสี่ยเจ้าของอู่รถฯ เมืองตรัง
จากกรณีคนร้ายบุกใช้อาวุธสงครามปืนอาก้ายิงถล่มรถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ 4 ประตู สีขาว ทะเบียน กจ 6409 ตรัง ซึ่งมีนายธวัชชัย หรือช่างวัช กลับขัน อายุ 53 ปี เจ้าของอู่รถธวัชชัยการช่าง เป็นคนขับ นางอำภา กลับขัน อายุ 54 ปี ภรรยาและนายสมชาย สนมน้อย ลูกจ้างในอู่รถ นั่งโดยสารอยู่ในรถ จนเป็นเหตุให้นายธวัชชัย เสียชีวิตคาที่ ส่วนนางอำภาและนายสมชาย ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบริเวณอู่รถธวัชชัยการช่างในจ.ตรัง เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. ที่ผ่านมา ตามที่ได้เคยมีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้นั้น
เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 12 ม.ค. พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9, พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. ,พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว ผกก.6 บก.ป. พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ ผกก.สสน.บก.ป. พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.1 บก.ปทส. และกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.5 กก.6 และ กก.สสน.บก.ป. สนธิกำลังหน่วยปฏิบัติการพิเศษนเรศวร261 และเจ้าหน้าที่ภูธรภาค 9 จำนวนกว่า 170 นาย เปิดยุทธการ “ประชาอุ่นใจไร้ภัยพาล” เพื่อปราบปรามกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุดังกล่าว โดยทำการตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายที่คาดว่าน่าจะเป็นที่กบดานของกลุ่มผู้ต้องหา จำนวน 9 จุดในพื้นที่ จ.ตรัง นครศรีธรรมราช และพัทลุง จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 7 คน ทั้งหมดเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดตรัง พร้อมของกลาง ปืนสั้นจำนวน 2 กระบอก ปืนยาว 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนจำนวนมาก รถยนต์กระบะทะเบียน กล2376 นครศรีธรรมราช เสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ และโทรศัพท์มือ จำนวน 8 เครื่อง
พล.ต.ต.จิรภพ กล่าวว่า ภายหลังเกิดเรื่องทางกองปราบได้ส่งกำลังเจ้าหน้าที่ ชุดปฏิบัติการ กก.6 บก.ป. ลงพื้นที่ที่เกิดเหตุเพื่อช่วยสนับสนุนตำรวจภูธรภาค 9 และตำรวจ สภ.รัษฎา สืบหาเบาะแสคนร้ายเป็นการด่วน เพราะเป็นคดีอุกฉกรรจ์ คนร้ายใช้อาวุธสงครามในการก่อเหตุจนมีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บสาหัส จนกระทั่งมาพบว่าปมการก่อเหตุดังกล่าวมาจากเรื่องชู้สาว ที่นายธวัชชัย ผู้ตายมักจะคอยไปเป็นที่ปรึกษาให้กับภรรยาของนายจิราวุธ หรือโกย้ง ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับผู้ตาย จนเกิดความหึงหวง นายจิราวุธ จึงได้ว่าจ้างให้นายปรานต์ และนายสุชาติ ช่วยจัดหามือปืนและทีมงานที่เหลือให้ ก่อนจะมีการประชุมวางแผน กระทั่งเมื่อทราบความเคลื่อนไหวของผู้ตายว่าจะเดินทางไปเป็นประธานงานสวดศพที่วัดแห่งหนึ่ง คนชี้เป้าสะกดรอยจึงประสานให้มือปืนทั้ง 2 คนไปดักรอที่บริเวณหน้าอู่รถเพื่อก่อเหตุดังกล่าว ทั้งนี้เมื่อทราบตัวกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุแน่ชัดจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับพร้อมกับแกะรอยสืบหาที่กบดานคนร้ายกลุ่มนี้เรื่อยมา จนกระทั่งนำไปสู่การเปิดปฏิบัติการครั้งนี้ และสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 7 คนได้ดังกล่าว
พล.ต.ท.รณศิลป์ กล่าวว่า หลังจากนี้จะมีการขยายผลไปยังมือปืนอีก 1 รายที่ยังอยู่ระหว่างการหลบหนี ขณะนี้ทราบตัวแล้วว่าเป็นใคร ซึ่งกำลังจะรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับเพิ่มเติม แต่อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบประวัติพบว่ามือปืนรายนี้มีหมายจับคดีฆ่าคดีอื่นติดตัวอยู่อีก 1 หมาย น่าจะติดตามจับกุมตัวได้ไม่ยาก ส่วนอาวุธปืนที่คนร้ายใช้ก่อเหตุขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผลติดตาม ขณะที่ในส่วนของการสอบปากคำผู้ต้องหาเบื้องต้นทั้งหมด ในจำนวนนี้ มี 3 คน ให้การรับสารภาพ ส่วนที่เหลือยังคงยืนกรานให้การปฏิเสธ แต่ก็ไม่เป็นกังวลเพราะมั่นใจในพยานหลักฐานที่มีอยู่ ส่วนผู้จ้างวานในคดีนี้จะมีญาติเป็นนักการเมืองท้องถิ่นหรือผู้มีอิทธิพลหรือไม่นั้น ก็ไม่ได้เป็นกังวลเช่นกัน และถ้าหากมีการเข้ามากดดันทางคดีมากๆก็จะโอนสำนวนคดีให้กับทางกองปราบไปดำเนินการต่อ แต่ณเวลานี้ยืนยันว่าไม่เป็นกังวลและเชื่อว่าไม่น่าจะมีใครกล้าเข้ามายุ่งแน่นอน
พล.ต.ท.รณศิลป์ กล่าวต่อว่า ส่วนผู้ต้องหาทั้งหมดหลังจากนี้จะมีการแยกฝากขังตาม สภ.ท้องที่ใกล้เคียง ก่อนจะมีการส่งฝากขังยังศาลจังหวัดตรังประมาณวันจันทร์หรืออังคารที่จะถึงนี้ เบื้องต้นขณะนี้ได้ทำการแจ้งข้อกล่าวหาแก่ นายจิราวุธ ในข้อหา จ้างวานฆ่า,ร่วมกันฆ่า,ร่วมกันพยายามฆ่า,ร่วมกันครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต,พกพาอาวุธปืนไปมนที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีก6 คนจะถูกดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันฆ่า,ร่วมกันพยายามฆ่า,ร่วมกันครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต,พกพาอาวุธปืนไปมนที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.รัษฎา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป