"พ.ต.อ.กฤษณะ" เผยคดี "ไอซ์ หีบเหล็ก" หลังค้นหาผู้เสียชีวิตในบ่อน้ำใกล้บ้าน พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย ประสานนิติเวชโรงพยาบาลศิริราชตรวจสอบ พร้อมส่งศพตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล ก่อนเข้าค้นหาเพิ่มเติมพรุ่งนี้อีกครั้ง คาดยังมีอีก 1 ราย
วันที่ 16 มกราคม พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีของ นายอภิชัย หรือไอซ์ องค์วิศิษฐ์ หรือ “ไอซ์ หีบเหล็ก” ว่า ได้รับความคืบหน้าจาก จนท.ตร.กก.ดส.บช.น. ว่าจากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุม นายอภิชัย หรือ ไอซ์ องค์วิศิษฐ์ ที่บ้านพักย่านเพชรเกษม กทม. ไปแล้วนั้น ซึ่งต่อมาได้ค้นหาบริเวณรอบบ้านพักแล้วพบศพ น.ส.กิ๊ก อายุ 22 ปี ถูกใส่ถุงฝังดินไว้ข้างบ้านของ นายอภิชัย เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัว นายอภิชัย ไปสอบสวน ซึ่งยอมรับสารภาพว่านำตัว น.ส.กิ๊ก ไปขังในหีบเหล็กจนกระทั่งเสียชีวิตจริง
ต่อมาจากการสอบปากคำพยานและผู้ต้องหาเพิ่มเติม ทราบว่าเคยมีผู้หญิง 2 คน ที่เคยติดต่อกับ นายอภิชัย ฯ ซึ่งต่อมาได้หายตัวไปนั้น วันนี้ 16 ม.ค. 63 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอหมายค้นจากศาลแขวงบางบอน และได้ทำการเข้าตรวจสอบบริเวณบ้านที่เกิดเหตุ โดยได้ประสานนักประดาน้ำ เข้าตรวจสอบ ค้นหาผู้เสียชีวิตภายในบ่อน้ำใกล้บ้านของนายอภิชัย ฯ ซึ่งพบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1ราย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ประสานนิติเวชโรงพยาบาลศิริราชเข้าตรวจสอบ และได้ส่งศพไปตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลอีกครั้ง เพื่อพิสูจน์ทราบว่าผู้เสียชีวิตคือผู้ใด
รองโฆษก ตร.กล่าวต่ออีกว่า คดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบปากคำผู้ต้องหา และพยานที่เกี่ยวข้องไว้ทั้งหมดแล้ว ซึ่งในส่วนของตัวผู้ต้องหานั้นขณะนี้ ทางสน.เพชรเกษม ได้ฝากขังอยู่ที่ศาลอาญา ธนบุรี และในวันพรุ่งนี้ 17 ม.ค. 63 เวลาประมาณ 10.00 น. จนท.ตร. กก.ดส. จะทำการขอหมายค้นจากศาลแขวงบางบอน อีกครั้งหนึ่ง เพื่อเข้าค้นหาผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม ที่คาดว่ามีอีก1ราย จากการสอบปากคำพยานและผู้ต้องหา
พร้อมกันนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้เน้นย้ำและกำชับเรื่องการป้องกันอาชญากรรมของทุกกองบัญชาการในทุกพื้นที่ ไม่ให้มีเหตุลักษณะนี้เกิดขึ้น โดยให้มีมาตรการเพิ่มความเข้มในการออกตรวจพื้นที่สุ่มเสี่ยง จุดล่อแหลม ต่างๆ อีกทั้งการทำประวัติบุคคลเฝ้าระวัง การประชาสัมพันธ์ถึงภัยของมิจฉาชีพให้กับประชาชน รวมถึงการป้องกันเหตุดังกล่าว แต่ถ้าหากเกิดเหตุขึ้นแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุมาได้โดยเร็ว และดำเนินการสืบสวนสอบสวนในทุกคดี ด้วยความถูกต้อง รวดเร็ว เป็นธรรม ตามหลักกฎหมาย อาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์หรือพยานหลักฐานที่ชี้ถึงตัวผู้กระทำความผิดเป็นสำคัญ เพื่อเยียวยาความเสียหาย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชน นักท่องเที่ยว นักลงทุน