'คมนาคม' ทุ่ม 1.1 แสนล้าน เนรมิตทางหลวง ร่วมปั้นเศรษฐกิจปี 63

'คมนาคม' ทุ่ม 1.1 แสนล้าน เนรมิตทางหลวง ร่วมปั้นเศรษฐกิจปี 63

คมนาคม โดยกรมทางหลวงได้เปิดแผนเปิดงบ 1.1 แสนล้านบาท การเชื่อมโยงโครงข่ายถนนทั่วประเทศ และสร้างเครือข่ายต่อไปถึงเพื่อนบ้านเพื่อร่วมผลักดันเศรษฐกิจปี53

คมนาคมในฐานะหน่วยงานหลักเพื่อวางรากฐานการเดินทางทุกช่องทางของประเทศให้ ดี สะดวก และปลอดภัย ซึ่ง “ถนน”ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ที่ยังมีความสำคัญอย่างต่อเนื่องและยาวนาน ในปี 2563 นี้ กระทรวงคมนาคม โดยกรมทางหลวงได้เปิดเผยแผนการเชื่อมโยงโครงข่ายถนนทั่วประเทศ และสร้างเครือข่ายต่อไปถึงเพื่อนบ้านเพื่อทำให้การพัฒนาทั้งเศรษฐกิจปี 63 และความเป็นอยู่ของประชาชนกว้างไกลและทั่วถึง

ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายกรมทางหลวง (ทล.) ว่าสั่งการให้ ทล.เตรียมความพร้อมในการจัดใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ทันที ตามกรอบที่ได้รับจัดสรรงบประมาณฯ 115,888 ล้านบาท 157924078498 ส่วนใหญ่ใช้ดำเนินแผนงานบูรณาการพัฒนาด้านคมนาคมและระบบโลจิสติกส์ จำนวน 67,287 ล้านบาท หรือ 58% โดยขอให้เร่งรัดดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 30 ก.ย.2563 เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจปี63 จากการใช้งบประมาณลงทุนของรัฐบาล

 สำหรับโครงการสำคัญที่จะถูกจัดใช้ภายใต้งบประมาณปี 2563 อาทิ 157924083489 1.สะพานมิตรภาพระหว่างไทย - ประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งตามแผนทั้งหมดมี 15 แห่ง เปิดให้บริการแล้ว 10 แห่ง อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 1 แห่ง มีแผนจะก่อสร้าง 4 แห่ง 

โดยล่าสุด คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 2562 อนุมัติให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการโครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ - บอลิคำไซ) ระยะทางรวม 16.18 กม. ซึ่งจะดำเนินการก่อสร้างในปี 2563 และแล้วเสร็จปี 2565

         2.โครงการพัฒนาทางหลวงรองรับเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ระยะทางรวม 746 กม. โดยในปี 2563 ได้รับจัดสรรงบประมาณ 8 โครงการ วงเงิน 10,510 ล้านบาท ระยะทางประมาณ 90 กิโลเมตร (กม.) และส่วนที่เหลือจะวางแผนขอรับการจัดสรรฯ ครบทุกโครงการ ภายในปี 2566

 และ 3. โครงการขยายทางสายประธานให้เป็น 4 ช่องจราจร (ระยะที่ 2 ) จำนวน 11 โครงข่าย ระยะทางรวม 5,246 กม. อยู่ระหว่างก่อสร้าง 483 กม. หรือ 9.2% ก่อสร้างแล้วเสร็จ 4,239 กม. หรือ 80.8% และคงเหลือแผนงานในอนาคต 524 กม. หรือ 10%

          

 ในปี 2563 กระทรวงคมนาคม โดยทล.ยังมีโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่เตรียมเสนอขออนุมัติจาก ครม. อีก 5 โครงการ วงเงินรวมกว่า 2.66 แสนล้านบาท ประกอบไปด้วย 1.สายนครปฐม – ชะอำ (M8) วงเงินลงทุน 79,006 ล้านบาท 

ปัจจุบันอยู่ระหว่าง กระทรวงการคลัง เตรียมเสนอ ครม. อนุมัติหลักการโครงการ 2. สายหาดใหญ่ – ชายแดนไทย/มาเลย์เซีย (M84) วงเงินลงทุน 42,620 ล้านบาท อยู่ระหว่างการสรุปผลการศึกษารูปแบบเอกชนร่วมลงทุนโครงการรัฐ (พีพีพี)

        3.ส่วนต่อขยายทางยกระดับอุตราภิมุข ช่วงรังสิต – บางปะอิน (M5) วงเงินลงทุน 29,400 ล้านบาท อยู่ระหว่างการสรุปผลการศึกษารูปแบบพีพีพี คาดว่าจะแล้วเสร็จต้นปี 2563 4.สายวงแหวนรอบนอก กทม. ด้านตะวันตก (M9) วงเงินลุงทุน 78,000 ล้านบาท ช่วงบางขุนเทียน – บางบัวทอง อยู่ระหว่างศึกษารูปแบบพีพีพี พร้อมการออกแบบกรอบรายละเอียด คาดว่าจะแล้วเสร็จกลางปี 2563 ช่วงบางบัวทอง – บางปะอิน สำรวจออกแบบรายละเอียดแล้วเสร็จ และ 5.สายศรีนครินทร์ – สุวรรณภูมิ (M7)วงเงินลงทุน 37,500 ล้านบาทอยู่ระหว่างศึกษารูปแบบพีพีพี พร้อมการออกแบบกรอบรายละเอียด คาดว่าจะแล้วเสร็จกลางปี 2563

นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคม ยังมีนโยบายเร่งรัดให้ ทล.พิจารณาแผนพัฒนาจุดพักรถ (Rest Area) บริเวณ 4 ทิศของกรุงเทพฯ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกประชาชนในการเดินทางเชื่อมต่อหัวเมือง ประกอบกับใช้เป็นพื้นที่รองรับรถบรรทุก ที่คาดว่าจะเดินทางเข้าออกกรุงเทพฯ เฉลี่ยประมาณ 5 หมื่นคันต่อวัน 

“ทำให้จุดพักรถแห่งนี้ เป็นพื้นที่จอดพักของรถบรรทุก ก่อนการใช้ถนนเข้าสู่กรุงเทพฯ ตามกำหนดเวลาของกระทรวงคมนาคม ส่วนรูปแบบการลงทุนนั้น ทล.จะต้องพิจารณาให้รอบด้าน ทั้งการลงทุนเอง และเปิดให้เอกชนร่ววลงทุนในรูปแบบพีพีพี เพื่อให้โครงการนี้เกิดขึ้นได้เร็วที่สุด”

สำหรับโครงการสำคัญตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ ขณะนี้มี เส้นทางที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 4 เส้นทาง ระยะทางรวม 350 กม. ประกอบด้วย 1. M81 บางใหญ่ – กาญจนบุรี 96 กม.วงเงิน 55,620 ล้านบาท  อยู่ระหว่างการเจรจาสัญญาฯ โดยคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ภายในสิ้นปี 2566 ที่พักริมทาง อยู่ระหว่างเตรียมเสนอขออนุมัติรูปแบบการให้เอกชนร่วมลงทุนฯ (PPP)

 2. M6 บางปะอิน –นครราชสีมา 196 กม. วงเงิน 84,6000 ล้านบาท  3. M7 พัทยา – มาบตาพุด 32 กม. วงเงิน 20, 200 ล้านบาท 4. M82 บางขุนเทียน – บ้านแพ้ว 25 กม. วงเงิน 32,210ล้านบาท 157924086756