'คลัง' จ่อเพิ่มทุน 'ธ.ก.ส.' 2 หมื่นล้าน
"คลัง"เตรียมเสนอครม.เพิ่มทุนธ.ก.ส.วงเงินไม่เกิน 2หมื่นล้านบาท หวังใช้รองรับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากระยะ 5 ปี แย้มใช้เงินจากกองทุนพัฒนาแบงก์รัฐ ด้าน "ธ.ก.ส." ยันฐานะแกร่ง ไร้ปัญหาด้านการเงิน เหตุเงินกองทุนสูงกว่าเกณฑ์แบงก์ชาติอื้อ
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างพิจารณาแผนเพิ่มทุนให้แก่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) เพื่อให้ธนาคารมีทุนไว้รองรับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจระดับฐานราก ซึ่งถือเป็นนโยบายที่รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญเป็นอย่างมากในปีนี้ หากสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากได้ จะเท่ากับเป็นการกระตุ้นการใช้จ่ายและการลงทุนในประเทศได้อีกทางหนึ่งด้วย
“ถ้าจะให้ธ.ก.ส.ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจระดับฐานราก ซึ่งนอกจากฐานลูกค้าของธ.ก.ส.แล้ว เขายังต้องดูแลเกษตรกรจำนวนมาก เราต้องเพิ่มทุนให้เพื่อให้มีเงินทุนเพียงพอ ส่วนจะเป็นจำนวนเท่าใดนั้น ต้องเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)พิจารณาอนุมัติก่อน โดยเม็ดเงินที่จะนำมาใช้ มาจากกองทุนพัฒนาแบงก์รัฐ”
เขากล่าวด้วยว่า รัฐบาลพร้อมพิจารณามาตรการดูแลเศรษฐกิจตามความเหมาะสมในแต่ละช่วงเวลา โดยในส่วนมาตรการชิมช้อปใช้นั้น ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา อย่างไรก็ดี ในแง่สถานการณ์การบริโภคในประเทศนั้น ขณะนี้เริ่มกระเตื้องขึ้น โดยดูได้จากยอดการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)ที่ขยายตัวเป็นบวก ด้านการลงทุนในประเทศนั้น หลังกฎหมายงบประมาณมีผลบังคับใช้ ทางรัฐบาลก็ได้เร่งรัดการเบิกจ่าย เชื่อ่าเม็ดเงินจะเริ่มไหลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจตั้งแต่ไตรมาสแรกของปีนี้
ด้านนายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธ.ก.ส. กล่าวว่า การขอเงินเพิ่มทุนดังกล่าวไม่ได้เป็นเพราะธ.ก.ส.มีปัญหาด้านการเงิน เพราะปัจจุบันเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงของธนาคารอยู่ที่ 12% เกินกว่าเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย( ธปท.) กำหนด แต่การเพิ่มทุนครั้งนี้เพื่อรองรับนโยบายการขับเคลื่อนเศรษฐกิจระดับฐานราก ซึ่งรัฐบาลโดยกระทรวงการคลังได้มอบหมายให้ธ.ก.ส.ไปร่วมกับหน่วยงานต่างๆจัดทำโมเดลพัฒนาเศรษฐกิจระดับฐานรากระยะ 5 ปี โดยนับตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นไป
“แผนพัฒนาเศรษฐกิจระดับฐานรากนั้น เป็นแผนที่รัฐบาลถือว่า เร่งด่วน จำเป็นต้องจัดทำโมเดลเพื่อรองรับ ส่วนหนึ่งของโมเดล คือ การดูแลสินเชื่อ ซึ่งตามปกติแล้ว เมื่อเรามีแผนขยายสินเชื่อ ฐานทุนเราต้องมีเพียงพอ ดังนั้น เราจึงขอเพิ่มทุน เพื่อนำมาปล่อยสินเชื่อในด้านต่างๆ เช่น บรรเทาปัญหาภัยแล้ง ระบบน้ำ ลงทุนเครื่องจักร วางแผนการผลิต รวมถึง ภารกิจในการดูแลฐานรากต่างๆ”
ทั้งนี้ เม็ดเงินเพิ่มทุนดังกล่าว ไม่ได้นำมาจากงบประมาณ แต่จะนำมาจากกองทุนพัฒนาแบงก์รัฐ ซึ่งปัจจุบันแบงก์รัฐได้นำส่งเงินสมทบเข้ากองทุนในแต่ละปี โดยในส่วนของธ.ก.ส.นั้น ได้นำส่งเงินสมทบเข้ากองทุนดังกล่าวปีละประมาณ 3-4 พันล้านบาท ส่วนวัตถุประสงค์การใช้เงินกองทุนนั้น คือ 1.เพื่อดูแลกรณีแบงก์รัฐประสบปัญหา และ 2.เพื่อรองรับการขยายงานของแบงก์รัฐ ซึ่งการที่ธ.ก.ส.ขอใช้เงินจากกองทุนก็เพื่อรองรับการขยายงานเท่านั้น
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เบื้องต้นวงเงินในการเพิ่มทุนธ.ก.ส.อยู่ที่ประมาณ 2 หมื่นล้านบาท โดยไม่ได้เบิกเงินเพิ่มทุนในปีเดียว แต่จะทยอยเบิกเงิยในแต่ละปี จากกองทุนพัฒนาแบงก์รัฐ