สธ.ประกาศเพิ่ม 13 เมืองจีนเฝ้าระวัง 'ไวรัสโคโรน่า'
กระทรวงสาธารณสุขยืนยัน ยังคัดกรองเข้มที่สนามบินเตรียมเสริมกำลังคน หลังภาระงานเพิ่ม 2-3 เท่า ประกาศเพิ่มอีก 13 เมืองจีน ประชาชนมีประวัติเดินทาง ป่วยใน 14 วัน ให้รีบเข้ารักษา-แจ้งเจ้าหน้าที่
เมื่อวันที่ 25 ม.ค.2563 นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผอ.สำนักโรคติดต่อทั่วไป ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์ภาวะฉุพเฉิน กรมควบคุมโรค กล่าวว่า สาธารณรัฐประชาชนจีน ประกาศให้พื้นที่ต่อไปนี้เป็นพื้นที่ควบคุมการเดินทางเข้า-ออก เนื่องจากมีการระบาดของโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ล่าสุด คือ 1.เอินซือ 2.เสี้ยวก่าน 3.เสียนหนิง 4.หวงสือ 5.เซียนเถา 6.เฉียนเจียง 7.จิ่นโจว 8.ลีฉวน 9.หวงกัง 10.ชื่อปี้ 11.เอ้อโจว 12.จือเจียง และ13.อู่ฮั่น ดังนั้น ผู้ที่มีประวัติเดินทางไปในพื้นที่ข้างต้น และ เมืองกว่างโจว และจะมีปรับเพิ่มเติมอีกตามสถานการณ์ หากมีไข้และอาการระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อยหอบ ภายใน 14 วัน หลังเดินทางกลับถึงประเทศไทย ขอให้สวมหน้ากากอนามัยและรีบปรึกษาเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์และสาธารณสุขทันทีหรือ โทร.1422
"ผู้ป่วยที่เข้ามารับการรักษา จะดูข้อมูลว่ามีอาการทางเดินหายใจ คือ ไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก พอ กรองคนได้ตามเงื่อนไขก็จะส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการที่มีมาตรฐานสูง 2 แห่ง ใช้เวลา 24 ชั่วโมงจึงจะทราบผล ในพื้นที่ต่างๆ ที่มีการพบผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค อาจจะมีการสื่อสารเร็วเกินไป จนทำให้เกิดการเข้าใจผิด เพราะที่ผ่านมามีผู้เข้าเกณฑ์สอบสวนโรค ราวๆ 50 กว่าราย แต่ที่เข้าเกณฑ์จริงๆ เป็นเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่คือ 4 ราย และอีก 1 รายที่ราชวิถี ส่วนใหญ่พบว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ เป็นอาร์เอสวีบ้าง หรือเป็นการป่วยจากเชื้ออื่นๆ” นพ.โสภณ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าการที่ต้องคัดกรองเพิ่มอีก 10 เมือง เรื่องอุปกรณ์ และกำลังคนเพียงพอหรือไม่ ต้องเพิ่มเติมส่วนใดอีกหรือไม่ นพ.โสภณ กล่าวว่า ในส่วนของเครื่องมือยังใช้ได้อยู่ เพราะสายการบินไม่ได้ลงพร้อมกัน แต่จะประสานงานการท่าอากาศยานขอให้เที่ยวบินจากเมืองเสี่ยงลงจอดที่เกตเดิม หรือใกล้เคียง เพราะฉะนั้นเครื่องมือไม่จำเป็นต้องเพิ่ม แต่ในส่วนกำลังคนจะต้องหามาเพิ่ม เพราะปริมาณงานเพิ่มขึ้นประมาณ 2-3 เท่า ของอัตราปกติ