สถานทูตไทยในปักกิ่งตั้งกลุ่ม ‘วีแชท’ คุย ‘คนไทยในอู่ฮั่น’

นายชาตรี อรรจนานันท์ อธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปักกิ่ง ได้เปิดกลุ่มสนทนาในแอพพลิเคชันวีแชท ให้กับคนไทยในเมืองอู่ฮั่นที่มีอยู่ 64 คน แบ่งเป็นนักศึกษา 49 คน คนทำงานและนักท่องเที่ยวรวม 15 คน เพื่อใช้ได้ติดต่อสื่อสารกับเจ้าหน้าที่สถานทูตฯ ทางวีแชทแบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมง  อีกทั้งยังให้บาร์โค้ด และเบอร์สายด่วนฉุกเฉิน หากใครต้องการอาหาร สิ่งของใช้จำเป็น ความช่วยเหลืออะไรเป็นพิเศษๆ หรือรู้สึกเจ็บป่วยก็สามารถแจ้งเข้ามาทันที โดยทางสถานทูตฯจะเร่งมือประสานส่งความช่วยเหลือไปให้โดยด่วน นอกจากนี้ ในกลุ่มวีแชทได้เชิญเจ้าหน้าที่แพทย์จากกระทรวงสาธารณสุขเข้าไปในกลุ่มด้วย เพื่อให้คำปรึกษาไม่ให้คนไทยกลุ่มนี้รู้สึกถูกทอดทิ้ง และคลายความกังวลที่อาจเกิดขึ้นได้ 

"สถานทูตพร้อมจะให้การสนับสนุนในเรื่องอาหาร  และมาตรการต่างๆ รวมถึงการให้ความช่วยเหลือเรื่องเงินแบบเร่งด่วน เพราะผู้ที่ติดอยู่ในเมืองอู่ฮั่นส่วนใหญ่เป็นนักศึกษา ซึ่งจะมีการโอนเงินไปให้กับมหาวิทยาลัยท้องถิ่น  เพื่อแบ่งเบาภาระให้กับนักศึกษา  หากต้องติดอยู่ในเมืองอู่ฮั่นนานพอสมควร" อธิบดีกรมการกงสุลกล่าว 

นายธนา เวสโกสิทธิ์ รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า สถานทูตฯ ระดมเจ้าหน้าที่ในการประสานกับทางการจีน และจัดเตรียมอาหาร ข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็น ยารักษาโรค และหน้ากากอนามัยรุ่นพิเศษสำหรับการแพร่ระบาดไวรัสโคโรน่า เพื่อส่งเข้าไปช่วยเหลือให้กับคนไทยในเมืองอู่ฮั่นที่อยู่ภายใต้การควบคุมจำกัดพื้นที่

"จีนดำเนินมาตรการจำกัดคนเข้าออกเมืองอู่ฮั่นแบบเด็ดขาด ซึ่งเจ้าหน้าที่สถานทูตฯก็ไม่อาจเดินทางเข้าไปได้ และการนำสิ่งของช่วยเหลือเข้าไปในเมืองอู่ฮั่นต้องได้รับการการันตีความปลอดภัย โดยทางสถานทูตฯ ได้ติดต่อไปยังหน่วยงานจีนที่เกี่ยวข้องในการประสานขอทราบระเบียบขั้นตอน เพื่อส่งสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นเข้าไปให้ความช่วยเหลือคนไทยในอู่ฮั่นทุกคน และโดยเร็วที่สุด" นายธนา กล่าวย้ำ 

เมื่อถามว่า มีคนไทยในเมืองอู่ฮั่นแสดงความประสงค์อยากกลับประเทศไทยจำนวนเท่าไร นายธนากล่าวว่า ขณะนี้รายงานอย่างเป็นทางการยังไม่มี ขณะที่คนไทยในเมืองอื่นๆในมณฑลหูเป่ย์มีอยู่ 18 คน ก็สามารถเดินทางเข้าออกได้เป็นปกติ หากใครอยากกลับประเทศก็ทำได้

มีรายงานว่า การเดินทางเข้าออกไปยังพื้นที่เมืองอู่ฮั่นต้องได้รับการคัดกรองอย่างเข้มงวด ทั้งคนและสิ่งของช่วยเหลือต้องถูกตรวจสอบอย่างละเอียดว่า มีความปลอดภัยและไม่มีเชื้อโรค โดยการเข้าออกพื้นที่ในเวลานี้มีเฉพาะเจ้าหน้าที่แพทย์ หน่วยงานสาธารณสุข และเจ้าหน้าที่ทหารของจีน หากต้องการส่งสิ่งของเข้าไปในเมืองจะต้องผ่านการตรวจสอบและได้รับอนุญาตจากทางการจีนเท่านั้น