'โออาร์' เร่งขยายปั๊มขายดีเซล บี10

นายบุญมา พนธนกรกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ธุรกิจค้าปลีก บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ เปิดเผยว่า บริษัท คาดการณ์ว่ายอดขายน้ำมันผ่านสถานีบริการ (ปั๊ม) “พีทีที สเตชั่น” ในปีนี้ จะเติบโตตามที่กรมธุรกิจพลังาน ได้ประเมินว่าจะขยายตัว 2-3% จากปี 2562 ตามทิศทางเศรษฐกิจในประเทศและการท่องเที่ยวที่ยังเติบโต ขณะที่ราคาน้ำมันไม่ได้ปรับเพิ่มขึ้นหรือถูกลงมากนัก ประกอบกับ บริษัท ยังมีแผนเดินหน้าขยายปั๊มน้ำมันต่อเนื่องจากปี2562 ที่ได้เปิดปั๊มใหม่จำนวน 155 แห่ง

โดยในปีนี้ บริษัท ได้เตรียมออกแคมเปญกระตุ้นยอดขายน้ำมันดีเซล บี10 เพื่อสนองต่อนโยบายของกระทรวงพลังงาน ที่ส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซล บี10 เป็นน้ำมันเกรดพื้นฐานในกลุ่มดีเซล ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2563 เป็นต้นไป ซึ่งตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.-31 มี.ค.นี้ บริษัท จะเริ่มแคมเปญจูงใจผู้บริโภคที่เติมน้ำมันดีเซล บี10 ครบทุก 500 บาท จะได้รับแจกน้ำดื่มเนสท์เล่ 1.5 ลิตรฟรี และภายในวันที่ 1 มี.ค.นี้ ทุกปั๊ม “พีทีที สเตชั่น” ทั่วประเทศ จำนวน 1,850 แห่ง จะมีหัวจ่ายน้ำมันดีเซล บี10 จำหน่าย จากปัจจุบัน มีจำหน่าย อยู่ที่ 550 แห่งทั่วประเทศ จากสิ้นเดือน ธ.ค.2562 มีจำหน่าย 350 แห่ง

“เดิมตั้งเป้าว่า เดือน ม.ค.นี้ จะเปิดขายดีเซล บี10 ให้ได้ 800 แห่งทั่วประเทศ แต่ล่าช้าไปจากแผนเพราะยังมีข้อจำกัด เช่น เรื่องการขออนุญาตปรับเปลี่ยนหัวจ่ายน้ำมันที่ต้องใช้เวลาดำเนินการ ซึ่งบริษัทก็อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการขออนุญาตต่างๆ เพื่อเปิดขายให้ครบทุกปั๊มทันตามที่ภาครัฐกำหนด”

อย่างไรก็ตาม ยอดขายน้ำมันดีเซล บี10 ขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังจากผู้บริโภคเริ่มมีความเชื่อมั่นในคุณภาพน้ำมันมากขึ้น เพราะจากผลการทดสอบพบว่า ช่วยลดควันดำลง 42% และลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 ลงได้ 3.2-3.5% ทำให้ปัจจุบัน มียอดขาย อยู่ที่ 1,500 ลิตรต่อวันต่อปั๊ม จากช่วงเริ่มขายเดือนแรก พ.ค.2562 อยู่ที่ราว 200-300 ลิตรต่อวันต่อปั๊ม ขณะที่ยอดขายกลุ่มดีเซลปกติ อยู่ที่ 7,000-8,000 ลิตรต่อวัน

ส่วนยอดขายดีเซล บี20 ยังเติบโตเช่นกัน ปัจจุบันมีขายผ่านปั๊มอยู่ที่กว่า 600 แห่ง ยอดขายอยู่ที่ 4 แสนลิตรต่อวัน ซึ่งหลังจากวันที่ 1 มี.ค.2563 ที่รัฐกำหนดให้ทุกปั๊มต้องมีการจำหน่าย ดีเซล บี10 นั้น บริษัท อยู่ระหว่างจัดทำแผนเพื่อปรับเปลี่ยนหัวจ่ายน้ำมันในแต่ละแห่งให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด แต่เบื้องต้นในส่วนของปั๊มน้ำมันในพื้นที่ภาคเหนือแลละภาคใต้ ได้ยกเลิกจากจำหน่ายดีเซล บี7 แล้ว และหันมาขายดีเซล บี10 แทน

นอกจากนี้ บริษัท มีแนวคิดที่จะทยอยยกเลิกหัวจ่ายน้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี85 ลง และปรับเปลี่ยนมาขายนำมันดีเซล บี10 แทน โดยพิจารณาจากความต้องการของตลาดเป็นหลัก ซึ่งปัจจุบันยอดขายแก๊สโซฮอล์ อี85 ยังมีปริมาณน้อยอยู่ อยู่ที่ประมาณ 7 แสนลิตรต่อวัน จากจำนวนปั๊ม 1,058 แห่ง ขณะที่ยอดขาย แก๊สโซฮอล์ อี 85 ของประเทศ อยู่ที่ 1.3 ล้านลิตรต่อวัน โดยเบื้องต้น คาดว่า จะสามารถปรับเปลี่ยนจายหัวจ่ายแก๊สโซฮอล์ อี85 มาเป็น ดีเซล บี10 แทน ได้ประมาณ 40-50 แห่ง

สำหรับกรณีที่ภาครัฐเตรียมประกาศยกเลิกจำหน่ายแก๊สโซฮอล์ 91 ในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ บริษัท มีความพร้อมที่จะดำเนินการตามนโยบายภาครัฐ และอยู่ระหว่างทำแผนปรับเปลี่ยนหัวจ่ายน้ำมันให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค เบื้องต้น มองว่า หากรัฐยกเลิกแก๊สโซฮอล์ 91 จะทำให้ผู้บริโภคหันไปเติมแก๊สโซฮอล์ อี20 หรือ แก๊สโซฮอล์ 95 แทน

นายบุญมา กล่าวอีกว่า ส่วนสถานการณ์โรคระบาดที่เกิดจากเชื้อไวรัสโคโรนาในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ประเทศจีน ได้ส่งผลกระทบให้ โออาร์ ต้องประกาศปิดร้านกาแฟอเมซอนในจีนชั่วคราว จนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดจะคลี่คลาย เพื่อป้องกันผลกระทบต่อพนักงานในร้าน เช่นเดียวกับร้านกาแฟชื่อดังหลายแห่งในจีนที่สั่งปิดร้านไปแล้วเช่นกัน

โดยปัจจุบัน โออาร์ มีร้านอเมซอนอยู่เพียงแห่งเดียวในประเทศจีน ตั้งอยู่ในปั๊มน้ำมันของ Sinopec เมืองนานหนิง มณฑลกวางซี ตั้งแต่วันที่ 3 ต.ค. 2562 แต่ยังไม่มีการเปิดปั๊มน้ำมันในจีน ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายของจีนที่ยังไม่เปิดให้เอกชนต่างชาติเข้าไปลงทุนสร้างปั๊มแต่อย่างใด