'เทสโก้โลตัส' ลุยลงทุนตามแผนเดิม แจงขายกิจการรอบริษัทแม่ตัดสินใจ
"เทสโก้ โลตัส" ลั่นธุรกิจในไทยยังเดินหน้าลงทุนตามแผนเดิม ควบคู่ "ดีลขายกิจการ" ในเอเชีย ชี้ขึ้นอยู่กับบริษัทแม่ตัดสินใจ "ขาย-ไม่ขาย"
กระแสความสนใจของกลุ่มทุนต่างๆ ต่อการเข้าซื้อกิจการค้าปลีกสัญชาติอังกฤษ "เทสโก้ โลตัส" ในประเทศไทยและมาเลเซีย ซึ่งเป็นหนี่งในบิ๊กดีลประวัติศาสตร์ด้วยการตีมูลค่าเฉียด 3 แสนล้านบาท ขณะนี้มีเพียง "บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์" ห้างค้าปลีกภายใต้กลุ่มบีเจซี เท่านั้น ที่ออกมาประกาศตัวชัดเจนว่าได้ยื่นแสดงเจตจำนงในการเข้าซื้อกิจการต่อบริษัทแม่ เทสโก้ สโตร์ อิงค์ ประเทศอังกฤษ ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ท่ามกลางการคาดการณ์ว่าบิ๊กคอร์ป ทั้ง กลุ่มเซ็นทรัล และ เครือซีพี ต่างลงสนามประมูลแข่งด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามดีลดังกล่าวยังไม่มีสัญญาณจากบริษัทแม่ และเทสโก้ โลตัส ในเมืองไทยว่าจะ "ปิดดีล" เมื่อไร อย่างไร
โดยผู้บริหาร เทสโก้ โลตัส เปิดใจเป็นครั้งแรกต่อกระแสข่าวขายกิจการ
นางสาวสลิลลา สีหพันธุ์ ประธานกรรมการฝ่ายกิจการบรรษัท เทสโก้ โลตัส กล่าวว่า เทสโก้โลตัส ในประเทศไทยและมาเลเซีย บริหารโดยบริษัทแม่ 100% ดังนั้นการพิจารณาและการตัดสืนใจขึ้นอยู่กับเทสโก้ สโตร์ อิงค์ ประเทศอังกฤษ โดยตรง
อย่างไรก็ตาม ระหว่างนี้ เทสโก้ โลตัส ประเทศไทย ยังคงเดินหน้าขยายเครือข่ายสาขาตามแผนงานเดิม มุ่งร้านขนาดเล็ก เทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส
นางสาวสลิลลา กล่าวด้วยว่า ดีลขายกิจการครั้งนี้ เกิดขึ้นข่วงปลายปี 2562 ในระหว่างที่ เทสโก้ สโตร์ อิงค์ กำลังทบทวนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในเมืองไทย โดยมีผู้แสดงความสนใจซื้อกิจการเข้ามาก่อนหน้านั้น
"เดิมเรายังไม่ได้คิดเรื่องนี้ แต่เมื่อมีผู้แสดงความสนใจเข้ามา ก็เลยมาทบทวนว่าจะพิจารณาใหม่แต่ขณะนี้ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่าทิศทางจะเป็นอย่างไร ซึ่งอาจจะขายหรือไม่ขายก็เป็นไปได้ทั้งสิ้น"
อย่างไรก็ดี สำหรับสถานการณ์ธุรกิจค้าปลีกในปี 2563 พบว่ามีปัจจัยที่ไม่เหมือนเดิมหลายมิติที่มีผลต่อการดำเนินธุรกิจ และคาดการณ์ได้ยากว่าแนวโน้มค้าปลีกจะเป็นอย่างไร
"หน้าที่ของเทสโก้ โลตัส ยังคงดูแลลูกค้าด้วยราคาที่ดี รวมถึงคุณภาพของสินค้าและแคมเปญการตลาด ที่สร้างความได้เปรียบเหนือคู่แข่ง"
โดยเฉพาะกลุ่มอาหารสด และโกรเซอรี่ หรือ อุปโภคบริโภคที่มีความแข็งแรง