ข่าวดี! นักวิจัยจีน-อังกฤษ คืบหน้าพัฒนาวัคซีนไวรัสโคโรน่า
คณะนักวิจัยจีนค้นพบยา 2 ชนิดที่ยับยั้งไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ได้ชะงัด ขณะที่คณะนักวิจัยอังกฤษประสบความสำเร็จในการลดเวลาพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโคโรน่าเหลือ 14 วัน ส่งผลให้ตลาดหุ้นยุโรปทะยานแดนบวกขานรับข่าวดี
หนังสือพิมพ์ฉางเจียงของจีน รายงานว่า คณะนักวิจัยของศาสตราจารย์หลี่ ลี่จวนจ้วน หนึ่งในนักระบาดวิทยาชั้นนำของจีนจากมหาวิทยาลัยเจ้อเจียง ประกาศผลการทดสอบเบื้องต้นของยา 2 ชนิด คือ อาบิดอล (Abidol) และดารูนาเวียร์ (Darunavir) ที่สามารถยับยั้งเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ในห้องปฏิบัติการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ นางหลี่ยังแนะนำให้มีการบรรจุยาใหม่ 2 ชนิดนี้รวมอยู่ในโครงการรักษาไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ของคณะกรรมาธิการสุขภาพแห่งชาติ (เอ็นเอชซี) ด้วย
ขณะที่นายเฉิน ซัวะปิง นักวิทยาศาสตร์อีกคนในทีมบอกว่า ยา 2 ชนิดนี้ควรใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์เท่านั้น และว่า ยาทั้ง 2 ชนิดถูกใช้ในการรักษาผู้ป่วยไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ในมณฑลเจ้อเจียงมาแล้ว และขั้นตอนต่อไปจะใช้ยาที่มีประสิทธิภาพด้อยกว่าในการรักษาแทน
ส่วนในอังกฤษ คณะนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำประกาศความสำเร็จในการลดเวลาพัฒนาวัคซีนไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่เหลือเพียง 14 วัน
ศาสตราจารย์โรบิน แชตท็อก จากวิทยาลัยอิมพิเรียล คอลเลจ ลอนดอน เผยกับเว็บไซต์สกายว่า ทีมนักวิจัยของเขาประสบความสำเร็จครั้งสำคัญในการลดเวลาการพัฒนาวัคซีนไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่จาก 2-3 ปี เหลือ 14 วัน
“ขณะนี้อยู่ในช่วงเริ่มต้นทดลองวัคซีนนี้กับสัตว์อย่างเร็วที่สุดในสัปดาห์หน้า และจะทดลองกับมนุษย์ภายในฤดูร้อนนี้ หากได้รับทุนการวิจัยเพียงพอ”
อย่างไรก็ตาม นายแชตท็อกบอกว่า วัคซีนนี้น่าจะช้าเกินไปสำหรับการระบาดรอบนี้ แต่จะมีความสำคัญมากหากมีการระบาดในครั้งต่อไป
ปัจจุบัน บรรดานักวิทยาศาสตร์ในจีน สหรัฐ ออสเตรเลีย และยุโรป กำลังแข่งกันพัฒนาวัคซีนและร่วมมือระหว่างกันเพื่อทำให้กระบวนการนี้สำเร็จลุล่วงเร็วขึ้น
ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปต่างขานรับข่าวดีเกี่ยวกับวัคซีนไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ โดยดัชนีสต็อกซ์ (STOXX) 600 ซึ่งเปิดการซื้อขายวันนี้ (5 ก.พ.) ในแดนลบ กลับทะยานปิดแดนบวกที่ 0.8% เช่นเดียวกับตลาดหุ้นสหรัฐที่เปิดซื้อขายวันนี้เพิ่มขึ้น 0.5%
นายเดวิด แมดเดน นักวิเคราะห์ตลาดจากบริษัทซีเอ็มซี มาร์เก็ตส์ของอังกฤษ ระบุว่า บรรดาเทรดเดอร์เริ่มมองว่าสถานการณ์ไวรัสระบาดมีแนวโน้มอยู่ในการควบคุมมากขึ้น พร้อมกับหวังว่าวิกฤติด้านสุขภาพนี้จะถูกยับยั้ง และทำให้สถานการณ์ในจีนและทั่วโลกกลับสู่ภาวะปกติ