เวียดนามเผย 9 อุตสาหกรรมเจอผลกระทบไวรัสโคโรน่า
ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ มีอุตสาหกรรม 9 ประเภทในเวียดนามที่ได้รับผลกระทบโดยตรง แต่เป็นผลกระทบระยะสั้น
เอสเอสไอ ซิเคียวริตีส์ คอร์ปอเรชัน เผยแพร่รายงานที่บ่งชี้ว่า อุตสาหกรรม 9 ประเภทได้รับผลกระทบโดยตรงจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่แต่เป็นผลกระทบระยะสั้น ประกอบด้วยอุตสาหกรรมสิ่งทอ ค้าปลีก อาหารทะเล เบียร์ น้ำมันและก๊าซ ความปลอดภัย ท่าเรือ อุตสาหกรรมส่งสินค้าทางเรือ การบริการภายในสนามบิน และอุตสาหกรรมการบินพลเรือน
รายงานฉบับนี้ยังระบุว่า อุตสาหกรรมการบินเป็นอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบหนักสุดเพราะการเดินทางทั่วโลกจะลดลงอย่างฮวบฮาบ โดยเฉพาะการเดินทางด้านการท่องเที่ยวในเส้นทางต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับจีน โดยเมื่อปี 2562 ชาวจีนเดินทางเข้าเวียดนามในสัดส่วน 40% ของยอดการเดินทางของชาวต่างชาติในเวียดนาม
นอกจากนี้ การขนส่งสินค้าทั้งทางเรือและเครื่องบินที่ออกจากจีนหรือไปจีนก็มีแนวโน้มลดลงอย่างมากเพราะความต้องการสินค้าจากกลุ่มผู้บริโภคชาวจีนลดลง ประกอบกับการจำกัดปริมาณการผลิตสินค้าที่เกิดขึ้นในหลายเมืองของจีนเพราะการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า
ส่วนการส่งออกในอุตสาหกรรมสิ่งทอของเวียดยาม ไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า เนื่องจากเวียดนามลดการส่งออกสิ่งทอไปจีน แต่อุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบคือ อุตสาหกรรมค้าปลีก เนื่องจากประชาชนเลี่ยงที่จะออกนอกบ้านเพราะกลัวติดเชื้อไวรัส
ขณะที่การบริโภคเบียร์ในประเทศจะเจอสถานการณ์เดียวกันคือการบริโภคลดลงแต่การบริโภคเบียร์ในเวียดนามเริ่มลดลงมาตั้งแต่มีการประกาศใช้กฏข้อบังคับ 100 ที่เพิ่มบทลงโทษสำหรับคดีเมาแล้วขับ เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามลดอุบัติเหตุจากการดื่มสุราของรัฐบาล
ในส่วนของธุรกิจส่งออกอาหารทะเลไปจีนของเวียดนาม คาดว่าจะมีปริมาณลดลงเพราะความต้องการของผู้บริโภคจีนลดลง หลังจากปีที่แล้ว การส่งออกอาหารทะเลจากเวียดนามไปจีนมีสัดส่วน 16.5% ของยอดส่งออกอาหารทะเลโดยรวมของประเทศ ในจำนวนนี้ รวมยอดส่งออกกุ้ง 16.1% และยอดส่งออกปลาดอรี 33%
สำหรับอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ เป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ โดยราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ปิดตลาดวันอังคาร (4 ก.พ.) ปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ1ปี ท่ามกลางความวิตกกังวลว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่กระทบอุปสงค์พลังงาน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนมี.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ลดลง 50 เซนต์ ปิดที่ราคา 49.61 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ งวดส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 49 เซนต์ ปิดที่ 53.96 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เป็นราคาปิดต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 31 ธ.ค.ปีที่แล้ว
ทั้งนี้ บรรดานักลงทุนในตลาดน้ำมันกังวลว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าจะก่อผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจของจีน ชาติเศรษฐกิจอันดับ 2 ของโลกและผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุด
และความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์พลังงานที่อ่อนแอ ยังมีขึ้นท่ามกลางข้อตกลงของนักลงทุนเกี่ยวกับกำลังการผลิตน้ำมันดิบโลกที่ยังคงอยู่ในระดับสูง
“บิจาน ซานกาเนห์” รมว.น้ำมันอิหร่าน กล่าวว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ส่งผลกระทบต่ออุปสงค์น้ำมัน และเรียกร้องให้โอเปกใช้ความพยายามในการสร้างเสถียรภาพในตลาด
“ตลาดน้ำมันกำลังถูกกดดัน ขณะที่ราคาร่วงลงต่ำกว่า 60 ดอลลาร์ ดังนั้นควรมีความพยายามในการสร้างเสถียรภาพต่อราคาน้ำมัน” ซานกาเนห์ กล่าว
ซานกาเนห์ ยังกล่าวด้วยว่า อิหร่านสนับสนุนการเลื่อนการประชุมโอเปกให้เร็วขึ้น หากสมาชิกเห็นพ้องกับการปรับลดกำลังการผลิต
แหล่งข่าวระบุว่า โอเปกและพันธมิตรกำลังพิจารณาลดกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 500,000 บาร์เรล/วัน โดยอาจจัดการประชุมในวันที่ 14-15 ก.พ. นี้ จากเดิมที่มีกำหนดจัดการประชุมในเดือนมี.ค.
ในการประชุมของกลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตรในปีที่แล้ว ที่ประชุมมีมติปรับลดกำลังการผลิตอีก 500,000 บาร์เรล/วัน รวมเป็น 1.7 ล้านบาร์เรล/วันในช่วงเดือนม.ค.-มี.ค.ปีนี้
ส่วนอุตสาหกรรมที่ได้ประโยชน์จากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าในรายงานของเอสเอสไอคือ อุตสาหกรรมยา อุตสาหกรรมด้านสารสนเทศ อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับน้ำ ส่วนอุตสาหกรรมที่อยู่ตรงกลางไม่ได้รับผลกระทบหนักสุดหรือน้อยสุดมี 10 อุตสาหกรรมคือ รถยนต์ นม ที่อยู่อาศัย นิคมอุตสาหกรรม อสังหาริมทรัพย์ ธนาคาร ประกัน ก่อสร้าง เหล็ก ซีเมนต์ และปุ๋ยเคมี
อ่านข่าว
เจาะเรื่องลับ 'ไวรัสโคโรน่า' และอัพเดตข้อมูลที่ต้องรู้!