เช็กข้อดีการ ‘สอบ ก.พ.’ สวัสดิการ ‘ข้าราชการ’ ดียังไง?
เปิดข้อดีของการเป็น "ข้าราชการ" นอกเหนือจากเงินเดือนซึ่งเป็นการตอบแทนแล้ว ยังมี "สวัสดิการ" และ "ประโยชน์เกื้อกูลต่างๆ" อะไรอีกบ้าง ที่ทำให้ขึ้นชื่อว่าเป็นอาชีพที่มีความมั่นคง
"ข้าราชการ" เป็นอีกหนึ่งกลุ่มอาชีพที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย เนื่องจากนอกจากจะได้รับค่าตอบแทนตามค่าของงานในแต่ละตำแหน่งแล้ว ยังมี "สวัสดิการ" และ "ประโยชน์เกื้อกูล" ต่างๆ ที่ทำให้ข้าราชการมีสิทธิประโยชน์ สะดวกสบาย และมีความมั่นคง
โดยสิทธิประโยชน์ที่ ข้าราชการไทย จะได้รับเมื่อได้บรรจุเป็นข้าราชการ มีดังนี้
"สวัสดิการ"
สวัสดิการ คือ ค่าตอบแทนที่ทางราชการจัดให้แก่ราชการในฐานะที่เป็นสมาชิกขององค์กร เพื่อช่วยให้มีความมั่นคงในชีวิต ตลอดจนเป็นเครื่องมือสำคัญในการเสริมสร้างขวัญกำลังใจให้ข้าราชการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและบังเกิดประสิทธิผล โดยสวัสดิการของข้าราชการพลเรือนสามัญมีทั้งที่กำหนดให้เป็นตัวเงินและไม่เป็นตัวเงิน ดังนี้
- สิทธิในการลา
การลาของข้าราชการ แบ่งออกเป็น 11 ประเภท ดังต่อไปนี้
1. การลาป่วย ตั้งแต่ 30 วันขึ้นไป ต้องมีใบรับรองของแพทย์, การลาป่วยไม่ถึง 30 วัน ไม่ว่าจะเป็นการลาครั้งเดียวหรือหลายครั้งติดต่อกัน ถ้าผู้มีอํานาจจะสั่งให้มีใบรับรองของแพทย์ตามวรรคสามประกอบใบลา หรือสั่งให้ผู้ลาไปรับการตรวจจากแพทย์ของทางราชการเพื่อประกอบการพิจารณาอนุญาตก็ได
2. การลาคลอดบุตร ไม่เกิน 90 วัน
3. การลาไปช่วยเหลือภริยาที่คลอดบุตร ลาภายใน 90 วัน นับแต่วันที่คลอดบุตร และให้มีสิทธิลาไปช่วยเหลือภริยาที่คลอดบุตรครั้งหนึ่งติดต่อกันได้ ไม่เกิน 15 วันทําการ
4. การลากิจส่วนตัว เช่น ลากิจส่วนตัวเพื่อเลี้ยงดูบุตร ให้มีสิทธิลาต่อเนื่องจากการลาคลอดบุตรได้ไม่เกิน 150 วันทําการ
5. การลาพักผ่อน ข้าราชการสามารถลาพักผ่อนประจําปี ในปีงบประมาณหนึ่งได้ 10 วันทําการ (เว้นแต่รับราชการยังไม่ถึง 6 เดือน)
6. การลาอุปสมบทหรือการลาไปประกอบพิธีฮัจย์ ไม่น้อยกว่า 60 วัน
7. การลาเข้ารับการตรวจเลือกหรือเข้ารับการเตรียมพล แล้วแต่กรณี
8. การลาไปศึกษา ฝึกอบรม ปฏิบัติการวิจัย หรือดูงาน แล้วแต่กรณี
9. การลาไปปฏิบัติงานในองค์การระหว่างประเทศ ระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี
10. การลาติดตามคู่สมรส ลาได้ ไม่เกิน 2 ปี และในกรณีจําเป็นอาจอนุญาตให้ลาต่อได้อีก 2ปี แต่เมื่อรวมแล้วต้องไม่เกิน 4 ปี พิจารณาแล้วแต่กรณี
11. การลาไปฟื้นฟูสมรรถภาพด้านอาชีพ สามารถลาไปฟื้นฟูสมรรถภาพด้านอาชีพครั้งหนึ่งได้ตามระยะเวลาที่กําหนดไว้ในหลักสูตรที่ประสงค์จะลา แต่ไม่เกิน 12 เดือน (กรณีได้รับอันตรายหรือการป่วยเจ็บเพราะเหตุปฏิบัติราชการในหน้าที่ หรือถูกประทุษร้ายเพราะเหตุกระทําการตามหน้าที่ จนทําให้ตกเป็นผู้ทุพพลภาพหรือพิการ)
- เงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล
ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการรักษาพยาบาล ดังต่อไปนี้
1. ค่ายา ค่าเวชภัณฑ์ ค่าอุปกรณ์ทางการแพทย์ ค่าเลือด และส่วนประกอบของเลือดหรือ สารทดแทน ค่าน้ํายาหรืออาหารทางเส้นเลือด ค่าออกซิเจน และอื่นๆ ทํานองเดียวกันที่ใช้ในการบําบัดรักษาโรค
2. ค่าอวัยวะเทียม และอุปกรณ์ในการบําบัดรักษาโรค รวมทั้งค่าซ่อมแซมอวัยวะเทียม และอุปกรณ์ดังกล่าว
3. ค่าบริการทางการแพทย์ ค่าบริการทางการพยาบาล ค่าตรวจวินิจฉัยโรค ค่าวิเคราะห์โรค แต่ไม่รวมถึงค่าธรรมเนียมแพทย์พิเศษ ค่าจ้างผู้พยาบาลพิเศษ ค่าธรรมเนียมพิเศษ และค่าบริการอื่น ทํานองเดียวกันที่มีลักษณะเป็นเงินตอบแทนพิเศษค่าตรวจครรภ์ ค่าคลอดบุตรและการดูแลหลังคลอดบุตร
4. ค่าห้อง และค่าอาหาร ตลอดระยะเวลาที่เข้ารับการรักษาพยาบาล
5. ค่าใช้จ่ายเพื่อเป็นการเสริมสร้างสุขภาพและป้องกันโรค
6. ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายและจิตใจ
7. ค่าใช้จ่ายอื่นที่จําเป็นแก่การรักษาพยาบาล ตามที่กระทรวงการคลังกําหนด
ทั้งนี้ ผู้ที่มีสิทธิได้รับการรักษาพยาบาลข้างต้นจะต้องเป็นข้าราชการ อีกทั้งครอบคลุมบุคคลในครอบครัว ตามรายละเอียด ดังต่อไปนี้
- ข้าราชการและลูกจ้างประจํา ซึ่งได้รับเงินเดือนหรือค่าจ้างประจําจากเงินงบประมาณรายจ่าย งบบุคลากรของกระทรวง ทบวง กรม เว้นแต่ข้าราชการตํารวจชั้นพลตํารวจซึ่งอยู่ในระหว่างรับการศึกษา อบรมในสถานศึกษาของสํานักงานตํารวจแห่งชาติก่อนเข้าปฏิบัติหน้าที่ราชการประจํา
- ลูกจ้างชาวต่างประเทศ ซึ่งมีหนังสือสัญญาจ้างที่ได้รับค่าจ้างจากเงินงบประมาณรายจ่าย และสัญญาจ้างนั้นมิได้ระบุเกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาลไว้
- ผู้ได้รับบํานาญปกติหรือผู้ได้รับบํานาญพิเศษเพราะเหตุทุพพลภาพตามกฎหมายว่าด้วย บําเหน็จบํานาญข้าราชการหรือกฎหมายว่าด้วยกองทุนบําเหน็จบํานาญข้าราชการ และทหารกองหนุน มีเบี้ยหวัดตามข้อบังคับกระทรวงกลาโหมว่าด้วยเงินเบี้ยหวัด
- บุตรชอบด้วยกฎหมายของผู้มีสิทธิซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะ หรือบรรลุนิติภาวะแล้ว แต่เป็นคนไร้ความสามารถหรือเสมือนไร้ความสามารถซึ่งอยู่ในความอุปการะเลี้ยงดูของผู้มีสิทธิ แต่ทั้งนี้ ไม่รวมถึงบุตรบุญธรรมหรือบุตรซึ่งได้ยกให้เป็นบุตรบุญธรรมของบุคคลอื่น
- คู่สมรสที่ชอบด้วยกฎหมายของผู้มีสิทธิ
- บิดาหรือมารดาที่ชอบด้วยกฎหมายของผู้มีสิทธิ
- เงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาของบุตร
ข้าราชการมีสิทธิได้รับสวัสดิการ "ค่าเล่าเรียนของบุตร" ที่ชอบด้วยกฎหมายอายุที่ไม่เกิน 20 ปีได้สูงสุด 3 คน นับเรียงตามลำดับการเกิดก่อนหลัง ไม่ว่าเป็นบุตรที่เกิดจากการสมรสครั้งใด หรืออยู่ในอำนาจปกครองของตนหรือไม่
- บุตรที่ศึกษาในสถานศึกษาของทางราชการในหลักสูตรระดับไม่สูงกว่า อนุปริญญาหรือเทียบเท่า และหลักสูตรนั้นแยกต่างหากจากหลักสูตรระดับปริญญาตรี ให้ได้รับเงิน บำรุงการศึกษาเต็มจำนวนที่ได้จ่ายไปจริง แต่ทั้งนี้ ต้องเป็นไปตามประเภทและไม่เกินอัตราที่ กระทรวงการคลังกำหนด คณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- บุตรที่ศึกษาในสถานศึกษาของทางราชการในหลักสูตรระดับปริญญาตรี ให้ ได้รับเงินบำรุงการศึกษาเต็มจำนวนที่ได้จ่ายไปจริง แต่ทั้งนี้ ต้องเป็นไปตามประเภทและไม่เกินอัตราที่ กระทรวงการคลังกำหนด
- บุตรที่ศึกษาในสถานศึกษาของเอกชนในหลักสูตรระดับไม่สูงกว่ามัธยมศึกษา ตอนปลายหรือเทียบเท่า ให้ได้รับเงินค่าเล่าเรียนเต็มจำนวนที่ได้จ่ายไปจริง แต่ทั้งนี้ ต้องเป็นไปตามที่กำหนด
- บุตรที่ศึกษาในสถานศึกษาของเอกชนในหลักสูตรระดับสูงกว่ามัธยมศึกษาตอน ปลายหรือเทียบเท่าแต่ไม่สูงกว่าอนุปริญญาหรือเทียบเท่า และหลักสูตรนั้นแยกต่างหากจากหลักสูตร ระดับปริญญาตรี ให้ได้รับเงินค่าเล่าเรียนครึ่งหนึ่งของจำนวนที่ได้จ่ายไปจริง แต่ทั้งนี้ ต้องเป็นไปตาม ประเภทและไม่เกินอัตราที่กระทรวงการคลังกำหนด
- บุตรที่ศึกษาในสถานศึกษาของเอกชนในหลักสูตรระดับปริญญาตรี ให้ได้รับเงิน ค่าเล่าเรียนครึ่งหนึ่งของจำนวนที่ได้จ่ายไปจริง แต่ทั้งนี้ ต้องเป็นไปตามประเภทและไม่เกินอัตราที่ กระทรวงการคลังกําหนด
- เงินสวัสดิการสำหรับการปฏิบัติงานประจำสำนักงานในพื้นที่พิเศษ
ข้าราชการหรือลูกจ้างประจําซึ่งมีสิทธิได้รับเงินสวัสดิการสำหรับการปฏิบัติงาน ประจำสำนักงานในพื้นที่พิเศษ หากได้รับคําสั่งให้ไปปฏิบัติราชการนอกสํานักงานเกิน 15 วัน
- กองทุนบําเหน็จ บํานาญข้าราชการ
กองทุนบําเหน็จ บํานาญข้าราชการ หลักประกันชีวิตของข้าราชการในวันเกษียณ โดยมีการจ่ายบําเหน็จบํานาญ และให้ผลประโยชน์ ตอบแทนการรับราชการแก่ข้าราชการเมื่อออกจากราชการ รวมทั้งเป็นการส่งเสริมการออมทรัพย์ของ สมาชิก จัดสวัสดิการ และสิทธิประโยชน์อื่นให้แก่สมาชิกโดยกองทุนจะนําเงินไปลงทุนเพื่อหา ผลประโยชน์ตอบแทนคืนสู่สมาชิก ซึ่งอัตราบำเหน็จบำนาญที่จะได้รับจะคำนวณตามขั้นรายได้ และอายุการทำงาน
"ประโยชน์เกื้อกูล"
ประโยชน์เกื้อกูล คือ ค่าตอบแทนที่ทางราชการจัดให้แก่ข้าราชการ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการปฏิบัติงาน เป็นเครื่องมือสำคัญในการเสริมสร้างขวัญกำลังใจให้ข้าราชการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและบังเกิดประสิทธิผล ได้แก่
- ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ
- ค่าเช่าบ้าน
- เงินตอบแทนการปฏิบัติงานนอกเวลาราชการ
- รถราชการ
- โทรศัพท์ของทางราชการที่อนุมัติให้ใช้เป็นรายบุคคล
ที่มา: สำนักงาน ก.พ.