ศาลฎีกายืน! ประหารชีวิต 'กฤติเดช' ขณะเป็นผญบ. ลงมือฆ่าข่มขืนน้องสโนว์
สั่งประหารชีวิต! ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ ให้ลงโทษ "กฤติเดช ระเวงวรรณ" ขณะเป็นผู้ใหญ่บ้าน ลงมือข่มขืนน้องสโนว์แต่ขัดขืนถูกทำร้ายจนตาย ด้านครอบครัวพลประสิทธิ์เผยได้รับความเป็นธรรมแล้ว ขอบคุณกระบวนการยุติธรรมและเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายตลอดจนสื่อมวลชน
กรณีคดีสะเทือนขวัญฆาตกรรม น.ส.ฤดีวัลย์ พลประสิทธิ์ หรือ น้องสโนว์ อายุ 18 ปี นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนร่องคำ อ.ร่องคำ จ.กาฬสินธุ์ ถูกคนร้ายถีบรถจักรยานยนต์ล้ม เพื่อหวังจะข่มขืนแต่เหยื่อขัดขืนจึงถูกทำร้ายร่างกายจนตับแตก และมีเลือดออกในช่องท้อง โดยเหตุการณ์เกิดบริเวณถนนสายบ้านสีถาน-บ้านโนนเมือง หมู่ 8 ต.ดงลิง อ.กมลาไสย เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 2558 เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เวลากว่า 100 วัน จึงรวบรวมหลักฐานและเข้าจับกุมนายกฤติเดช ระเวงวรรณ ผู้ใหญ่บ้านสีถาน (ขณะนั้น) หมู่ 15 ต.ดงลิง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 4 เม.ย. 2559 พร้อมตั้งข้อหาหนัก ข่มขืนกระทำชำเรา ทำร้ายผู้อื่นถึงแก่ความตาย
ต่อมา เมื่อวันที่ 30 มี.ค.2560 ศาลชั้นต้นจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ตัดสินประหารชีวิตนายกฤติเดช ระเวงวรรณ จำเลย และให้ชดใช้ค่าสินไหม 2,390,000 บาท แต่จำเลยได้ใช้สิทธิ์ในการยื่นอุทธรณ์ปฏิเสธ กระทั่งเมื่อวันที่ 17 ก.ค.2561 ศาลอุทธรณ์ตัดสินยืนโทษประหารชีวิตนายกฤติเดช ระเวงวรรณ จำเลย และให้ชดใช้ค่าสินไหม ตามศาลชั้นต้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2563 ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ได้ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาคดีข่มขืนกระทำชำเรา ทำร้ายผู้อื่นถึงแก่ความตาย คดีหมายเลขดำที่ อ. 2112/2559 และคดีหมายเลขแดงที่ อ.1381/2560 ที่โจทก์ พนักงานอัยการจังหวัดกาฬสินธุ์ และนางลำไย พลประสิทธ์ โจทก์ร่วมที่ 1 นายกฤษ พลประสิทธ์ โจทก์ร่วมที่ 2 ยื่นฟ้อง นายกฤติเดช ระเวงวรรณ อดีตผู้ใหญ่บ้านสีถาน ข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย เป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.58 หลังจากที่ น.ส.ฤดีวัลย์ พลประสิทธิ์ หรือ "น้องสโนว์" ขี่รถจักรยานยนต์กลับจากโรงเรียนตามปกติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายกฤษ และนางลำใย พลประสิทธิ์ พ่อ แม่ พร้อมนางสาวภัทรานิษฐ์ พลประสิทธิ์ และญาติพี่น้อง ตลอดจนเพื่อนบ้านเดินทางมาฟังคำพิพากษาตั้งแต่เช้าเวลา 08.30 น. ทั้งนี้นางลำใยยังคงสวมชุดข้าวไว้ทุกข์และกอดรูปถ่ายของน้องสโนว์ ลูกสาวไว้แนบอกตลอดเวลาเหมือนทุกๆครั้งที่ผ่านมา ท่ามกลางความสงสารของประชาชนที่พบเห็น และมีเจ้าหน้าที่ศาลกำหนดพื้นที่ให้สื่อมวลชนที่มาคอยติดตามคดี พร้อมกับดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเต็มที่ ก่อนที่จะเดินขึ้นไปฟังคำตัดสินในช่วงเวลา 09.30 น.
ศาลใช้เวลาอ่านคำพิพากษาผ่านทางวีดีโอคอนเฟอร์เร้นให้กับจำเลยฟังในช่วงเวลาประมาณ 10.00 น. ใช้เวลา กว่า 30 นาที แต่ไม่มีญาติของจำเลยมาร่วมรับฟัง โดยสาระสำคัญที่จำเลยฎีกามีความขัดแย้งกันหลายอย่าง อีกทั้งศาลอุทธรณ์พิจารณาก่อนหน้านี้ ถึงแม้ฝ่ายโจทก์จะไม่มีประจักษ์พยานแน่ชัด แต่ปรากฏพยานแวดล้อมหลายปากที่ให้การสอดคล้องกัน ร่วมถึงหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะรอยแผลที่บริเวณนิ้วมือ ซึ่งเป็นรอยกัดของฟันของมนุษย์ และลูกอัณฑะที่บวม เป็นร่องรอยที่เกิดขึ้นจากการต่อสู้ ที่ได้รับคำยืนยันจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางนิติวิทยาศาสตร์ รวมทั้งรถจักรยานยนต์ทั้ง 2 คัน ก็มีหลักฐานยืนยันจากนิติวิทยาศาสตร์ว่ามีร่องรอยเฉี่ยวชนกัน ซึ่งศาลพิจารณาแล้วเป็นพยานและหลักฐานที่มั่งคง จึงตัดสินให้ลงโทษตามศาลศาลอุทธรณ์ คือประหารชีวิตนายกฤติเดช ระเวงวรรณ จำเลย และให้ชดใช้ค่าสินไหม 2,390,000 บาท
อย่างไรก็ตามทันทีที่ครอบครัวพลประสิทธ์ฟังคำตัดสินเสร็จแล้วได้เดินออกมาจากศาลด้วยอาการน้ำตาซึม พร้อมทั้งกล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ตลอดจนสื่อมวลชน
นางลำใย พลประสิทธิ์ แม่น้องสโนว์ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่เกิดเหตุลูกสาวถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตมาจนถึงปัจจุบันผ่านล่วงเลยมากว่า 5 ปีแล้ว ซึ่งทางครอบครัวได้บอกกับน้องสโนว์ว่าจะต้องได้รับความเป็นธรรม และครอบครัวจะต่อสู้ให้ถึงที่สุด กระทั่งในวันนี้ลูกสาวก็ไดรับความเป็นธรรมแล้ว ซึ่งต้องขอขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ตลอดจนสื่อมวลชนที่คอยให้กำลังใจตลอดมา
ด้านนางสาวภัทรานิษฐ์ พลประสิทธิ์ พี่สาวน้องสโนว์ กล่าวว่า วันนี้อยากบอกน้องสาวว่าความยุติธรรมมีอยู่จริง และน้องก็ได้รับความเป็นธรรมแล้ว คนร้ายก็ถูกตัดสินดำเนินคดีแล้ว ต่อไปตนก็ต้องทำหน้าที่ลูก ดูแลพ่อ แม่แทนน้องสาว
สำหรับคดีนี้เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2558 ก่อนเกิดเหตุในช่วงเช้า น้องสโนว์ ขี่รถจักรยานยนต์ไปเรียนตามปกติ จนในช่วงเย็นเวลากลับบ้านถึงที่เกิดเหตุถูกค้นร้ายสะกดรอยขี่จักรยานยนต์ประกบและใช้เท้าถีบ โดยคนร้ายพยามจะข่มขืนแต่ น้องสโนว์ ขัดขืนและกัดและบีบลูกอัณฑะ จนสามารถหลีกหนีการข่มขืนได้ แต่เนื่องจากถูกทำร้ายมีอาการสาหัสจึงได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา
จนเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2559 ตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้จับกุมตัวนายกฤติเดช ระเวงวรรณ ผู้ใหญ่บ้านสีถาน หมู่ที่ 15 ตำบลดงลิง อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมตั้งข้อหาฉกรรจ์ “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย เป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย, ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย โดยส่งสำนวนถึงอัยการจังหวัดกาฬสินธุ์ ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม 2559
ซึ่งอัยการจังหวัดตั้งองค์คณะขึ้นมาพิจารณาคดี 1 เดือน แล้วส่งฟ้องศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2559 และศาลได้รับเป็นคดีดำที่ 2112/2559 และสืบพยานโจทก์รวม 40 ปากพร้อมพยานเอกสาร ในเดือนพฤศจิกายน 2559 และสืบพยานจำเลย 11 ปาก ในช่วงเดือนธันวาคม 2559 และนัดฟังการคำตัดสินคดี เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2560 ที่ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งนายกฤติเดช ระเวงวรรณ จำเลย ใช้สิทธิอุทธรณ์และศาลอุทธรณ์ตัดสินยืนโทษประหารชีวิตนายกฤติเดช ระเวงวรรณ จำเลย และให้ชดใช้ค่าสินไหม ตามศาลชั้นต้น กระทั่งล่าสุดศาลฎีกามีคำตัดสินยืนโทษประหารชีวิตนายกฤติเดช ระเวงวรรณ จำเลย และให้ชดใช้ค่าสินไหมในวันนี้