ไทยจ่อคัดกรอง 'ไวรัสโคโรน่า' ในผู้เดินทางจาก ฮ่องกง-สิงคโปร์
ไทยจ่อเพิ่มคัดกรองโรคโควิด19 ผู้เดินทางจาก 2 พื้นที่ ฮ่องกง-สิงคโปร์ หลังพบรายงานจำนวนผู้ป่วยแบบก้าวกระโดด ส่วนคนไทยเพิ่มกลุ่มผู้ป่วยปอดอักเสบไม่ทรายสาเหตุใน 6 จังหวัดท่องเที่ยว และมีผู้ป่วยยืนยันหายดีกลับบ้านได้อีก 1 ราย
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2563 นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.) กล่าวว่า ผู้ป่วยยืนยันโรคไวรัสโคโรน่า 19 หรือ โควิด-19 สะสม 33 รายเท่าเดิม โดยมีผู้ป่วยหายดีและแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้อีก 1 รายเป็นชายชาวจีน
ขณะนี้ผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรักษาในโรงพยาบาล 21 ราย กลับบ้านแล้ว 12 ราย ส่วนผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคต้องเฝ้าระวังสะสมทั้งหมด 823 ราย อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วและอยู่ระหว่างติดตามอาการ 673 ราย ส่วนใหญ่เป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ยังคงรักษาในโรงพยาบาล 150 ราย ส่วนผู้ป่วยยืนยันรายอื่นๆ อาการดีขึ้น มี 2 รายที่มีอาการหนักมาตั้งแต่แรกรับมารักษาที่สถาบันบำราศนราดูร ขณะนี้แพทย์ยังคงดูแลอย่างใกล้ชิด
สำหรับคนไทยกลับบ้านที่ฐานทัพเรือสัตหีบ เป็นวันที่ 9 ของการเฝ้าระวังโรค ผู้ป่วยยืนยัน 1 ราย ที่โรงพยาบาลชลบุรี อาการปกติ ไม่มีไข้ ไม่ไอ ไม่มีน้ำมูก ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการยังพบเชื้อ อยู่ในห้องแยก ยังคงเฝ้าระวังติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง ส่วนคนไทยที่อาคารรับรองสัตหีบ 137 คนทุกคนสบายดี ไม่มีไข้
กรณีเรือ Westerdam นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้สั่งการให้เตรียมวางแผนรองรับ โดยประสานงานกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำชับให้เจ้าหน้าที่ด่านทุกช่องทางเข้าออก ทั้งบก เรือ อากาศ เตรียมการกรณีผู้โดยสารจากเรือดังกล่าวมาแวะเปลี่ยนเครื่องที่ประเทศไทย รวมทั้งประสานข้อมูล วางแผนดูแลคนไทยที่อยู่บนเรือ
เรือท่องเที่ยวแค่แวะพักภูเก็ต
นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีเรือท่องเที่ยวที่จะแวะพักที่ จ.ภูเก็ต ในวันนี้ (13 กุมภาพันธ์ 2563) เจ้าหน้าที่ควบคุมโรคจากกระทรวงสาธารณสุข ได้ขึ้นไปประเมินสุขอนามัยบนเรือ ตรวจสอบข้อมูลสุขภาพของผู้โดยสารและลูกเรือ ร่วมกับแพทย์ประจำเรือ ผลการตรวจไม่มีผู้มีอาการเข้าเกณฑ์การสอบสวนโรค (PUI) และก่อนลงมาจากเรือแพทย์ประจำเรือจะวัดไข้ซ้ำอีกครั้ง และเมื่อลงจากเรือแล้วจะมีทีมแพทย์กระทรวงสาธารณสุขและกองทัพเรือวัดไข้ซ้ำอีกครั้ง เป็นไปตามมาตรฐานสากล ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก เพราะผู้โดยสารกลุ่มนี้ไม่ใช่ผู้ป่วย และเรือลำนี้ มาแวะพักตามเส้นทางเดินเรือปกติ โดยมีการแจ้งการเข้าออกประเทศอย่างถูกต้อง
แบบคัดกรองความเสี่ยงออนไลน์
นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขจับมือมหาวิทยาลัยเชียงใหม่(มช.) สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.) จัดทำแบบคัดกรองตนเองออนไลน์(Self-Screening) สำหรับผู้ต้องสงสัยที่จะติดเชื้อไวรัสโคโรนา 19 เป็น 3 ภาษาได้แก่ ภาษาไทย จีน อังกฤษ เพื่อคลายความวิตกกังวลประชาชน โดยประชาชนสามารถเข้าไปตอบคำถามเพียง 4 ข้อ เพื่อประเมินความเสี่ยงที่จะติดโรคและสามารถดูคำแนะนำการปฏิบัติตัว ได้ที่ http://sescimande.net/Self-Screening/
ศาสตราจารย์นายแพทย์ สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า แบบคัดกรองตนเองเบื้องต้นแบบออนไลน์นี้ใช้เกณฑ์แนวทางตามการเฝ้าระวังของกระทรวงสาธารณสุข โดยจะมีชุดคำถามสั้นๆ เช่น ไข้ มีอาการเป็นอย่างไร เมื่อประชาชนตอบครบ ระบบก็จะประเมินผลและแจ้งผลเบื้องต้น โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ
1.ไม่มีความเสี่ยง ก็จะแนะนำให้ใช้ชีวิตประจำวันปกติ พร้อมกับการป้องกันตนเอง กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ
2.มีความเสี่ยง จะให้คำแนะนำในการแยกตัวเองและเฝ้าดูอาการตนเอง และอาการเป็นอย่างไรต้องไปพบแพทย์
3.เสี่ยงสูงมาก อาจติดเชื้อ แนะนำให้ไปพบแพทย์โดยด่วน ซึ่งเชื่อว่าแบบคัดกรองนี้จะทำให้ประชาชนวิตกกังวลน้อยลง และผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงสูงจะเข้ารับบริการได้โดยเร็ว
- เล็งคัดกรองผู้เดินทางจาก 2 พื้นที่เพิ่ม
นายแพทย์ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.) กล่าวว่า สถานการณ์ในต่างประเทศ นอกจากประเทศจีนแล้วมี 2 พื้นที่ที่มีการายงานผู้ป่วยแบบก้าวกระโดด คือ เขตปกครองพิเศษฮ่องกง และประเทศสิงคโปร์ ซึ่งระยะหลังแสดงว่ามีการแพร่เชื้อในประเทศในวงจำกัด และมีรางนด้วยว่าผู้ป่วยที่ยืนยันติดเชื้อนั้น เป็นการติดเชื้อภายในประเทศแน่ๆ แต่ไม่รู้ว่าติดมาจากไหน ดังนั้น กรมควบคุมโรคจะติดตามสถานการณ์ใน 2 พื้นที่นี้อย่างใกล้ชิด หากประเมินและพิจารณาแล้วว่ามีความจำเป็นจะต้องยกระดับเพิ่มการคัดกรองผู้ที่เดินทางเข้ามาประเทศไทยจาก 2 พื้นที่นี้ด้วยก็จะยกระดับทันที ซึ่งโดยทั่วไป เกณฑ์ที่ใช้ในการที่จะเริ่มคัดกรองผู้เดินทาง จากพื้นที่ไหน ก็คือในประเทศที่เริ่มมีการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง ถ้าประเทศไหนที่พิจารณาแล้วว่าความเสี่ยงของการเริ่มเจอผู้เดินทางเข้ามาในประเทศไทยจะติดเชื้อเข้ามา ก็จะเริ่มดำเนินการเฝ้าระวัง คัดกรอง และยกระดับการคัดกรองจาก 2 พื้นที่นี้ ซึ่งคาดว่าน่าจะยกระดับใน 1-2 วัน
“เวลาโรคมีอาการค่อนข้างเบา สิ่งหนึ่งที่จะเจอก็คือจะมีผู้ป่วยจำนวนนึงที่ไม่ได้เข้าระวังระบบ ทำให้ตัวเลขที่ประเทศต่างๆรายงานจะต่ำกว่าภาพความเป็นจริงเสมอ เพราะฉะนั้น ในสถานการณ์นี้จะต้องดูตัวเลขที่ 2 พื้นที่นี้รายงานขณะเดียวกันก็จะต้องคาดเดาต่อไปว่าขณะที่มีรายงานผู้ป่วยประมาณนี้คือ 50 คนทั้ง 2 พื้นที่ น่าจะมีผู้ติดเชื้อจริงจำนวนเท่าไหร่ และโอกาสที่จะส่งต่อเชื้อจากผู้เดินทางจะสูงแค่ไหน และนำมาสู่การตัดสินใจว่าจะยกระดับคัดกรองหรือไม่ เพราะการดำเนินการทุกอย่าง มีค่าใช้จ่าย จึงไม่โปรยการดำเนินการไปในขณะที่สถานการณ์ยังไม่ใช่ และขณะนี้สถานการณ์ของฮ่องกงกับสิงคโปร์ไปไกลกว่าไทยมาก”นายแพทย์ธนรักษ์กล่าว
นายแพทย์ธนรักษ์ กล่าวอีกว่า สำหรับคนไทยจะเพิ่มการเฝ้าระวังในกลุ่มผู้ป่วยปอดอักเสบที่ไม่ทราบสาเหตุ ในจังหวัดพื้นที่เสี่ยงที่เป็นเมืองท่องเที่ยว 6 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต กระบี่ และชลบุรี เพื่อเป็นการเพิ่มคัดกรองอีกชั้นหนึ่ง กรณีที่อาจจะมีผู้ป่วยติดไวรัสโคโรน่า2019 เกิดขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า ไม่จำเป็นต้องมีการจำกัดการเดินทางเข้าประเทศของผู้เดินทางจาก 2 พื้นที่นี้ใช่หรือไม่ นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวว่า ณ ปัจจุบันประเทศไทยไม่ได้มีประกาศจำกัดการเดินทางไม่ว่าจะเป็นผู้ที่เดินทางมาจากประเทศไหน ส่วนประเทศจีนที่เป็นแหล่งเกิดโรคก็มีความรับผิดชอบอย่างมากน่าชื่นชม ในการที่ประกาสปิดเมืองและสั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ซึ่งเป็นการช่วยเหลือประเทศอื่นๆอย่างมาก