ตม.แจงปมรัฐอุ้ม '1MDB' จ่อฟ้องกลับ 'ช่อ พรรณิการ์'
ตม.จ่อฟ้องกลับ “ช่อ พรรณิการ์” หลังให้ข้อมูลพาดพิงการเข้าออกประเทศ ของผู้ต้องหาตามหมายจับตำรวจสากลผิดพลาดทำให้เกิดความสับสน ระบุ การเชื่อมโยงข้อมูลหมายจับของตำรวจสากลกับตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เพิ่งเสร็จเมื่อปี 2562
เมื่อวันที่ 24 ก.พ.63 พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รองผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ชี้แจงถึงการเดินทางเข้าออกของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับขบวนการยักยอกเงินจากกองทุน 1MDB ซึ่งนางสาวพรรณิการ์ วานิช หรือ ช่อ อดีตโฆษกพรรคอนาคตใหม่ หยิบยกขึ้นมาโจมตีว่ารัฐบาลมีส่วนเกี่ยวข้องในการช่วยเหลือ
คนแรก คือ นายจัสโต้ ซาเวียร์ อันเดร อดีตผู้บริหารบริษัท ปิโตรซาอุดิ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และผู้ต้องหาในคดีกรรโชกทรัพย์บริษัทดังกล่าว และถูกตำรวจไทยจับกุมตัวได้เมื่อปี 2558 ซึ่งบริษัทนี้ เป็นเครือข่ายฟอกเงินของกองทุน 1MDB จากการตรวจสอบพบว่า ถูกจับดำเนินคดี นายจัสโต้ มีการเข้า-ออกไทย รวม 30 ครั้ง ระหว่างวันที่ 7 สิงหาคม 2557 ถึง 12 มีนาคม 2558 หลังถูกจำคุกคดีรีดเอาทรัพย์ในไทยแล้ว ได้ถูกผลักดันออกจากไทย เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2559 และห้ามเข้าประเทศไทยตลอดชีวิต และจากการตรวจสอบไม่มีหมายจับตำรวจสากล
ส่วน นายโจ โล นักธุรกิจสัญชาติมาเลเซีย ที่ถูกระบุว่า ตำรวจสากลออกหมายแดง ตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2559 แต่เดินทางเข้าออกไทยด้วยเครื่องบินส่วนตัวได้ถึง 5 ครั้ง จากการตรวจสอบ พบมีการเดินทางเข้าออกประเทศไทยรวม 54 ครั้ง ระหว่างวันที่ 27 มิถุนายน 2556 ถึง 10 พฤษภาคม 2561 ออกจากไทยครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2561 แม้นายโจโล จะมีหมายจับ 2 หมาย ของทางการสิงคโปร์ ลงวันที่ 7 ตุลาคม 2559 และหมายจับของทางการมาเลเซีย ลงวันที่ 11 มิถุนายน 2561 แต่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้รับการประสานจากตำรวจสากล ในวันที่ 29 เมษายน 2562
ขณะที่ นางลู ไอ ซวอน สัญชาติมาเลเซีย หรือ จัสมินลู ทนายความของนายโจโล ที่ถูกระบุว่า มีชื่ออยู่ในบัญชีเฝ้าระวังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง แต่ยังสามารถเดินทางเข้าออกไทยได้ตามปกติ และถูกลบข้อมูลการเดินทางบางส่วน จากการตรวจสอบ ยืนยันว่า ข้อมูลการเดินทางเข้าออกของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ไม่สามารถลบได้ ซึ่งพบว่า จัสมินลู มีการเดินทางเข้าออกไทยรวม 68 ครั้ง ระหว่างวันที่ 9 สิงหาคม 2556 ถึง 3 กรกฎาคม 2561 โดยออกจากไทยครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 7 กันยายน 2561 ส่วนหมายจับตำรวจสากล เข้าระบบของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2562 ซึ่งเป็นช่วงที่จัสมินลู ออกจากประเทศไทยไปแล้ว
ส่วน นายตัง เคง ฉี สัญชาติมาเลเซีย ที่ถูกระบุว่า เป็นบุคคลที่ถูกสอบสวนจากกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ และถูกออกหมายแดง แต่สามารถอยู่ในไทยได้จนวีซ่าหมดอายุ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า มีการเดินทางเข้าออกไทย รวม 23 ครั้ง ระหว่างวันที่ 14 เมษายน 2560 ถึง 17 มิถุนายน 2561 และมีหมายจับของศาลแขวงปทุมวัน ฐานอยู่เกินกำหนด หรือ โอเวอร์สเตย์ ตั้งแต่วันที่ 17 กรกฎาคม 2561 ส่วนหมายจับตำรวจสากล เข้าสู่ระบบของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ในวันที่ 29 เมษายน 2562 พลตำรวจตรีสุรพงษ์ ยืนยันว่า ยังหลบหนีอยู่ในประเทศ ล่าสุด สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พบความเคลื่อนไหวตะเข็บลายแดนเพื่อนบ้าน เร่งจับกุม เพราะมีหมายจับแล้ว ที่ผ่านมา ที่ยังจับไม่ได้ ไม่ได้เพิกเฉย
ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมาย รวบรวมพยานหลักฐาน หากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เสียหาย ประชาชนเกิดสับสน โดยมีความผิดชัดเจนกรณีระบุว่า ลบข้อมูลเดินทางเข้าออกของจัสมินลู 22 รายการ ซึ่งความจริง ไม่มีการลบข้อมูล แต่กลับตรวจพบข้อมูลมากกว่าข้อมูลของนางสาวพรรณการ์ ซึ่งจะฟ้องร้องดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมมองว่าคุณ “ช่อ” อาจถูกต้ม จึงได้ข้อมูลไม่ถูกต้อง ขณะเดียวกัน สตม. ก็จะต้องตรวจสอบว่ามีคนใน หรือ เกลือเป็นหนอน ส่งข้อมูลให้คุณช่อ หรือไม่ด้วย
ด้าน พ.ต.เชิงรณ ริมผดี รองผู้บังคับการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 2 ระบุว่า ช่วงเวลาที่ นายซาเวีย นายโจโล และ นายจัสมิน ลู ถูกตำรวจสากลออกหมายแดง และเดินทางเข้าออกไทย เป็นช่วงที่การเชื่อมโยงฐานข้อมูลระหว่างตำรวจสากล และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ยังไม่เกิดขึ้น ซึ่งเชื่อมโยงได้สำเร็จเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2562 แต่ก่อนหน้านี้ การประสานข้อมูลบุคคลที่มีหมายจับตำรวจสากล จะเป็นการประสานเฉพาะรายบุคคลจากประเทศต้นทาง โดยจะมุ่งเน้นไปที่บุคคลอันตราย หรืออาจเป็นภัยเท่านั้น ดังนั้น บุคคลทั้งหมดที่ได้ชี้แจงไป ได้เดินทางออกจากไทยไปก่อนได้รับการประสานจากตำรวจสากล