'พีทีทีจีซี' รับโควิด-19 กระทบส่งออกตลาดจีนระยะสั้น

นายคงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ พีทีทีจีซี เปิดเผยว่า บริษัท คงเป้าปริมาณการขายผลิตภัณฑ์ปีนี้โต 10% จากปีก่อน แม้ว่าการแพร่ระบายของไวรัสโคโรนาในจีนจะส่งผลกระทบต่อมาร์จินในไตรมาส 1 แต่คาดว่าสถานการณ์จะเริ่มคลี่คลายในช่วงไตรมาส 2 และกลับสู่ปกติในช่วงครึ่งปีหลัง

เบื้องต้น ไวรัสโคโรนา ได้ส่งผลกระทบต่อยอดส่งออกเม็ดพลาสติดไปตลาดจีน ในช่วงเดือนก.พ.นี้ ลดลงประมาณ 1-2% จากเดิมมีสัดส่วนส่งออกตลาดจีน อยู่ที่ประมาณ 25-27% ของกำลังการผลิตรวม อยู่ที่ 2.3 ล้านตันต่อปี ซึ่งบริษัทได้รับมือโดยปรับเปลี่ยนตลาดส่งออกไปยังแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แอฟริกา และอินเดียทดแทน

ดังนั้น คาดว่า ทั้งปีนี้ มาร์จินจะดีขึ้นจากปีก่อน เนื่องจากช่วงไตรมาส 4 ปีที่ผ่านมา ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์(สเปรด) ต่ำสุดแล้ว จึงคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นในปีนี้ หลังเริ่มเห็นสัญญาดีขึ้นทั้งปริมาณและราคาในช่วงเดือน ม.ค.แต่เริ่มตกลงในช่วงเดือนก.พ.นี้ จากไวรัสโคโรนา แต่หากสถานการณ์คลี่คลายตามสมมุติฐานที่ตั้งไว้ ก็เชื่อว่า ทั้งปีนี้ ค่าการกลั่น(GRM) จะอยู่ที่ 4-5 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากปี62 อยู่ที่ 3.86 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ สเปรดเม็ดพลาสติดชนิดความหนาแน่นสูง(HDPE)กับแนฟทา อยู่ที่ 400-450 ดอลลาร์ต่อตัน ดีขึ้นจากปีก่อน

ส่วนโครงการปิโตรเคมี คอมเพล็กซ์ ในสหรัฐ คาดว่า จะสามารถตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย(FID)ได้ช่วงกลางปีนี้ โดยจะเดินหน้าตามแผนที่จะออกไปสร้างการลงทุนบ้านแห่งที่สองในสหรัฐ ซึ่งในอนาคตมีแผนที่จะใช้สหรัฐฯเป็นฐานขยายการลงทุนทั้งการเข้าซื้อกิจ(M&A) และการลงทุนในกองทุนร่วมลงทุน(CVC)เป็นต้น

นายคงกระพัน กล่าวอีกว่า บริษัท ยังเดินหน้าขยายการลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(EEC) ตามแผน 5 ปี ต่อเนื่องหลังจากช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาใช้เงินลงทุนไปแล้ว 1 แสนล้านบาท และมีโครงการในมือที่อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ มูลค่า 1 แสนล้านบาท แต่คาดว่า จะสามารถอนุมัติโครงการได้ในเร็วๆนี้ ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะเป็นการทยอยลงทุนในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า