'ตลาดทุนไทย' จะเปลี่ยนแปลงแค่ไหนในปี 2565

'ตลาดทุนไทย' จะเปลี่ยนแปลงแค่ไหนในปี 2565

จับตา 4 ปัจจัยที่ทำให้ปัจจุบัน และอนาคตของ 'ตลาดทุนไทย' ถูกท้าทาย พร้อมแนวทางพัฒนาตลาดทุนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในปี 2563-2565 ในมุมของ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)

ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี นวัตกรรม เป็นสิ่งที่เข้ามาพัฒนาและเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ ไปจากเดิม ไม่เว้นแม้แต่ 'ตลาดทุน' หน้าที่ของผู้กำกับดูแลอย่าง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ก็ย่อมเปลี่ยนไปเช่นกัน

รื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ ก.ล.ต. ร่วมปาฐกถาพิเศษ 'นโยบายขับเคลื่อนตลาดทุน ปี 63' ในงานสัมมนา 'ส่องหุ้น 2020' จัดโดยกรุงเทพธุรกิจ พร้อมอัปเดตการพัฒนาตลาดทุนปี 2563-2565 ที่อาจกล่าวได้ว่า ตลาดทุนจะไม่ได้เป็นแค่เรื่องของนักธุรกิจ หรือนักลงทุนกระเป๋าหนักอีกต่อไป

รื่นวดี เล่าถึงแนวทางในการพัฒนาตลาดทุนของ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ที่ต้องทำงานควบคุมคู่ไปกับ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เพื่อพัฒนาให้ตลาดทุนไทยเกิดประโยชน์ต่อคนไทยมากที่สุด

ปัจจุบันมีคนไทยเข้าตู่ตลาดทุนไม่ถึง 5 ล้านคน จากจำนวนประชากรไทยทั้งหมด ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องด้านตลาดเงินตลาดทุนพยายามให้คนไทยเข้าถึงตลาดทุนมากขึ้น มีโอกาสในการลงทุน รวมถึงบริษัทขนาดเล็ก ขนาดกลาง ทั้งกลุ่ม SME (ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม) และ Startup มีโอกาสในการระดมทุนเพื่อต่อยอดธุรกิจของตัวเอง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันตลาดได้มากกว่าที่เป็นอยู่

158289016643

สถานการณ์ปัจจุบัน แนวโน้ม และความท้าทายในอนาคต ที่มีต่อตลาดทุนมี 4 ด้าน ได้แก่

  • กระแส ESG (Environmental, Social, and Governance) เพิ่มขึ้น

ปัจจุบันปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นปัญหาใหญ่อันดับ 1 ของทุกประเทศทั่วโลก การดำเนินธุรกิจในปัจจุบันและในอนาคตจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลที่นำไปสู่ความยั่งยืนที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น เพื่อมีส่วนช่วยลด และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เนื่องจากผู้ลงทุนในปัจจุบันและอนาคตทั้งผู้ลงทุนสถาบัน และรายย่อยทั่วโลก ต่างมองหาบริษัทจดทะเบียนเรื่องความยั่งยืนเป็นสำคัญมากขึ้นด้วย ไม่ใช่พิจารณาแค่การลงทุนและพัฒนาบริษัทเพื่อรายได้ที่สวยงามเท่านั้น

  • Aging Society (สังคมสูงวัย) ทวีความรุนแรงขึ้น 

สิ่งที่น่ากังวลในสังคมสูงวัย คือภาพสะท้อนที่ผ่านมา มีเพียง 4% ของนายจ้างชาวไทย ที่มีการตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้ลูกจ้าง ซึ่งคำถามที่ตามมาคือลูกจ้างเหล่านี้จะวางแผนชีวิตอย่างไรให้มีเงินเกษียณเพียงพอกับความต้องการ ดังนั้นโจทย์สำคัญคือตลาดทุนจะสามารถช่วยแก้ปัญหาตรงนี้ได้อย่างไร ซึ่งในอนาคตหากการลงทุนสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ทำเอกสารง่ายขึ้น และการส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการลงทุนเพื่อเกษียณอายุต่างๆ เพิ่มมากขึ้นจะมีส่วนช่วยให้คนไทยมีเงินเกษียณเพียงพอได้ 

  • เศรษฐกิจโลกชะลอตัว ผันผวน ภาวะดอกเบี้ยต่ำยาวนาน

ความท้าทายเหล่านี้มาจากปัจจัยที่หลากหลายซึ่งกำลังเกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบัน และมีแนวโน้มเกิดขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะภาวะดอกเบี้ยต่ำยาวนาน ทำให้นักลงทุนมีพฤติกรรม search for yield หรือการแสวงหาผลตอบแทนที่สูง ซึ่งทำให้มีการไหลเข้าออกของเม็ดเงินในตลาดทุนอย่างรวดเร็วที่นำไปสู่ความผันผวนที่เกินคาดการณ์ สิ่ง

  • การพัฒนาของเทคโนโลยีและนวัตกรรม

รื่นวดี กล่าวว่า การพัฒนาของเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วที่ตามมาด้วยโอกาสและอันตราย ซึ่งในอนาคตนักลงทุนควรพิจารณาบริษัทที่จะลงทุน ไม่ใช่แค่นำสินทรัพย์ไปลงทุนอะไรให้เติบโตทางธุรกิจ แต่ยังต้องดูว่าเขาระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์อย่างไรได้บ้าง

การใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้ทำงานให้ได้ขึ้นได้ ยืดหยุ่นมากขึ้น โดย ก.ล.ต. กำลังอยู่ระหว่างการศึกษา และรับความฟังเห็นจากภายนอกเกี่ยวกับการใช้ "ปัญญาประดิษฐ์" ในการวิเคราะห์การลงทุน นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาโครงการตลาดทุนเสียใหม่ ด้วยใช้ "บล็อกเชน" มาใช้ ให้เชื่อมโยงได้ แข่งขันได้ ตรวจสอบได้ ความโปร่งใส ทุกอย่างอยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ความคุ้มครองชัดเจนขึ้น  

Single form แบบฟอร์มมาตรฐานสำหรับตลาดทุน ที่ช่วยลด pain point ของการทำเอกสารในปัจจุบันที่มีแบบฟอร์มที่ต่างกันออกไป จำเป็นต้องกรอกข้อมูลทุกครั้งที่เปิดบัญชีใหม่ จะถูกเปลี่ยนให้เป็นแบบฟอร์มเดียว กรอกง่าย ใช้ข้อมูลเท่าที่จำเป็น และกรอกเพียงครั้งแรกเพื่อเปิดบัญชี จากนั้นจะสามารถใช้ได้ทุกตัวกลาง โดยบริการนี้จะเกิดขึ้นในช่วงกลางปี 2563 เชื่อว่าการทำให้ขั้นตอนง่ายขึ้นเพื่อช่วยให้คนไทยลงทุนในตลาดทุนมากขึ้นในอนาคต

นอกจากนี้ ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ ยังวางแผนที่จะเปิดช่องทางการระดมทุน ตลาดที่ 3 ในตลาดหลักทรัพย์เพื่อรองรับกลุ่ม Startup และ SME เหมือนในต่างประเทศ ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ผู้เล่นรายเล็กมีโอกาสระดมทุนในการพัฒนาธุรกิจของตัวเอง

เป็นที่น่าจับตาว่า นับจากนี้ สถานการณ์ตลาดหุ้น กองทุนรวม หรือตลาดทุนอื่นๆ จะเป็นอย่างไร และแผนที่ ก.ล.ต. กำลังจะเดินหน้าในปีนี้และปี 2565 จะช่วยส่งเสริมการลงทุนของคนไทย หรือพัฒนาตลาดทุนให้เปลี่ยนแปลงไปตามเป้าหมายที่ควรจะเป็นได้มากน้อยแค่ไหน