'นวัตกรรมสิ่งแวดล้อม' เสริมแกร่งธุรกิจนมไทย-เดนมาร์ก
การผลิตและจำหน่ายนม ภายใต้ แบรนด์ไทย – เดนมาร์ค กำลังขยายสาขาแฟรนไชส์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้คนไทยได้รับประโยชน์จากการดื่มนมวัวแท้
คนไทยกับการดื่มนม ดูเป็นเรื่องที่ไกลตัวมาก กระทั่งมีการความพยายามส่งเสริมในคนไทยหันมาดื่มนมเพื่อเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้ไทยทัดเทียมโลก ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา
ณรงค์ฤทธิ์ วงศ์สุวรรณ ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันร้าน Thai-Denmark Milk Land หรือดินแดนแห่งนมได้รับกระแสตอบรับจากผู้บริโภคดีเกินคาดส่งผลให้มีการขยายสาขาแฟรนไชส์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วภายใน 2 ปี เปิดให้บริการแล้วกว่า 176 สาขาทั่วประเทศ และเพื่อตอกย้ำนโยบายด้านการส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมขององค์กร(CSR)
อ.ส.ค. ได้ผุดร้าน Eco Thai-Denmark Milk land ขึ้นโดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณในการก่อสร้างร้าน“จากบริษัท เอส ไอ จี คอมบิบล็อก จำกัด และความร่วมมือจากพันธมิตรภายใต้โครงการรีไซเคิลกล่องนม ยู.เอช.ที บริษัท ไฟเบอร์พัฒน์ จำกัด ซึ่งสาขานี้จะใช้ผลิตภัณฑ์นมออแกนิคเป็นส่วนผสมหลักในทุกเมนู การตกแต่งภายในร้านเน้นวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมภายใต้ชื่อ Eco Thai – Denmark Milk land เป็นร้านแรกและถือเป็นร้านมิลค์แลนด์สาขาที่ 9
ทั้งนี้ เพื่อเร่งประชาสัมพันธ์ตราสินค้าและผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ไทย – เดนมาร์ค ตลอดจนเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์นมและรองรับการเติบโตของตลาดผลิตภัณฑ์กลุ่มนมเย็นและเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่องค์กรและตราสินค้า โดยความคืบหน้าล่าสุด อ.ส.ค. ได้ทำพิธีวางศิลาฤกษ์ในการก่อสร้างไปเมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2563 ที่ผ่านมา และจะดำเนินการแล้วเสร็จเปิดให้บริการได้ปลายปี 2563
“ที่ Eco Thai-Denmark Milk landต้องสาขาที่ 9 จากทั้งหมดที่เปิดให้บริการแล้วกว่า 176 นั้น เพราะเป็นเลขมงคล และระลึกถึงในหลวงรัชกาลที่ 9 โดย อ.ส.ค. ตั้งใจให้เป็นร้านต้นแบบเน้นเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เริ่มจากวัสดุภายในร้านผลิตด้วยวัสดุย่อยสลายได้ง่ายส่วนวัสดุก่อสร้างบางส่วนจะเน้นการรักษาสิ่งแวดล้อม สร้างจากกล่องนมรีไซเคิลและวัสดุรีไซเคิลทั้งหมด โดยเน้นกลุ่มเป้าหมายระดับพรีเมียม”
สำหรับร้าน Eco Thai-Denmark Milk land นับเป็นโครงการต่อเนื่องและต่อยอดมาจากการที่ อ.ส.ค. อยากมีสถานที่รับรองสำหรับผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมโรงงานนมไทย-เดนมาร์คและฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี รวมไปถึงไว้เป็นสถานที่ทดสอบสินค้าใหม่ๆ ก่อนนำออกสู่ตลาดจริง มีเครื่องดื่มพร้อมเสิร์ฟที่ผลิตจากน้ำนมโคสดแท้ 100 % ส่งตรงจากฟาร์มโคนม ไทย-เดนมาร์ค เรียกว่าเป็นศูนย์รวมเมนูนมสด ทั้งเมนูนมร้อน นมเย็น และนมปั่น เช่น นมสด นมชมพู นมสดคาราเมล นมสดอัญชัน นมสดมันม่วง นมสดโกโก้ นมสดชาไทย มัจฉะลาเต้ชาเขียว โยเกิร์ตสมูทตี้ สตอร์เบอรี่สมูทตี้ บลูเบอรี่สมูทตี้ เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังนำผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์ค อาทิ นมยู.เอช.ที. นมพาสเจอร์ไรส์ นมเปรี้ยวพร้อมดื่ม โยเกิร์ต และไอศกรีมไปจำหน่ายที่ร้านอีกด้วย โดย อ.ส.ค. ได้เปิดสาขาแรกเมื่อต้นปี 2561 ปัจจุบันมีอยู่กว่า 176 สาขาทั่วประเทศ
ดำเนินการในรูปแบบแฟรนไชส์เป็นหลัก ซึ่ง อ.ส.ค. มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาต่อยอดอย่างยั่งยืนและขยายสาขาเพิ่มขึ้นให้เข้าถึงทุกภาคในประเทศไทย และเพื่อส่งเสริมให้คนไทยได้ดื่มนมดีมีประโยชน์ นมโคสดแท้ 100% จากฟาร์มนมไทย-เดนมาร์ค
สำหรับร้านมิ้ลค์แลนด์ เป็นโมเดลที่ในการขยายในเชิงพาณิชย์เป็นหลัก เปิดในทำเลทั่วไป ไม่ใช่สถาบันการศึกษา และการลงทุนจะสูงกว่าร้านมิ้ลค์ชอป และใช้วีธีการขายแฟรนไชส์ โดยเงื่อนไขแฟรนไชส์ร้านมิ้ลค์แลนด์นั้น มี 3 รูปแบบ คือ 1.ขนาดเล็ก พื้นที่ 20 ตารางเมตร ลงทุน 1 ล้านบาท 2. ขนาดกลาง พื้นที่เฉลี่ย 21-40 ตาราเมตร ลงทุน 1.4 ล้านบาท และ 3. ขนาดใหญ่ พื้นที่ 40 ตารางเมตร ขึ้นไป ลงทุน 1.8 ล้านบาท โดยทั้งสองทั้งร้านมิ้ลค์ชอป มิ้ลค์แลนด์ มีอายุสัญญานาน 6 ปี และคาดว่าจะคืนทุนภายใน 3 ปี