พาณิชย์ดึง 5 พันธมิตรร่วมผลักดันธุรกิจแฟรนไชส์ไทยขยายตลาดสู่ต่างประเทศ
“วีระศักดิ์โ”เปิดโครงการพัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ไทยก้าวสู่สากล ดึง 5 หน่วยงานพันธมิต บูรณาการทำงานสร้างความเข็มแข็งธุรกิจแฟรนไชส์ไทยสามารถขยายสู่ตลาดต่างประเทศได้อย่างเป็นรูปธรรม
นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการเปิดโครงการการพัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ไทยก้าวสู่สากล ว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้จับมือกับ 5 หน่วยงานพันธมิตร ประกอบด้วย กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank) และสมาคมแฟรนไชส์และไลเซนส์) ร่วมกันบูรณาการการทำงาน เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจภายในประเทศ ผ่านการพัฒนาศักยภาพในการบริหารจัดการธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ การส่งเสริมให้ธุรกิจขับเคลื่อนด้วยองค์ความรู้และนวัตกรรม เพื่อต่อยอดการพัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ไทยให้ครบวงจร ตั้งแต่การสร้างธุรกิจเข้าสู่ระบบแฟรนไชส์ การยกระดับธุรกิจแฟรนไชส์สู่เกณฑ์มาตรฐานคุณภาพสากล จนถึงการผลักดันธุรกิจแฟรนไชส์สู่ตลาดต่างประเทศ และเติบโตได้อย่างเข้มแข็งและยั่งยืน
นอกจากนี้ ยังจัดเวทีเสวนา “เปิดประตูสู่ตลาดโลกด้วยแฟรนไชส์” ซึ่งผู้เข้าร่วมงานจะได้พบกับผู้เชี่ยวชาญธุรกิจแฟรนไชส์และการขยายสาขาสู่ต่างประเทศ มาร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเจ้าของแฟรนไชส์ชื่อดังที่ประสบความสำเร็จในการขยายสาขาสู่ต่างประเทศ
นายวีรศักดิ์ กล่าวว่า แม้ในช่วงการระบาดของโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจแฟรนไชส์บ้าง แต่แฟรนไชส์ไทย มีอัตตลักษณ์โดดเด่นทางวัฒนธรรมมีภาพลักษณ์ที่ดี และเป็นที่ต้องการของตลาดทั่วโลก จึงเชื่อว่าหลังจากผ่านวิกฤติครั้งนี้ มั่นใจว่าจะกลับมาขยายตัวได้ดีเหมือนเดิม เพราะธุรกิจส่วนใหญ่เกินครึ่งเป็นกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม และสินค้าอาหารจะเป็นที่ต้องการมากโดยเฉพาะในช่วงของการเยียวยาผลกระทบจากการระบาด ซึ่งจะเป็นการเพิ่มมูลค่าตลาดธุรกิจแฟรนไชส์ และนำเงินตราต่างประเทศเข้าสู่ประเทศไทยได้อีกทางหนึ่งเป็นการช่วย SME ในการขยายตลาดหาคู่ค้าใหม่ ๆ
ปัจจุบันมีธุรกิจแฟรนไชส์ที่ผ่านการพัฒนาตามเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพการบริหารจัดการธุรกิจแฟรนไชส์กว่า 334 กิจการ ซึ่งได้ขยายไปต่างประเทศแล้ว 32 ธุรกิจ ใน 32 ประเทศ เช่น Greyhound, Black Canyon, Mango Tree, กาแฟดอยช้าง, Clay Work, Smart Brain เป็นต้น