‘เวคกิ้งบี’ รีแบรนด์ ชู ‘ออมนิแชนแนล’ เร่งขยายตลาดแอคทีฟแวร์
วิกฤติการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่สร้างความวิตกกังวลให้กับผู้คนทั่วโลก! ยิ่งเป็นการตอกย้ำให้ผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น ผลักดันธุรกิจแนวสุขภาพ ซึ่งรวมถึงเสื้อผ้าแนวสปอร์ตแฟชั่น หรือ แอคทีฟแวร์ ยังคงเป็นตลาดที่มีการเติบโต
โดย แบรนด์แอคทีฟแวร์สัญชาติไทย เวคกิ้งบี (WAKINGBEE) ได้จังหวะลุกขึ้น รีแบรนด์ดิ้ง พร้อมเปิดเกมรุกครั้งใหญ่!!
อรวัสสา ศยามเศรณี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวคกิ้งบี คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้บริหารแบรนด์ เวคกิ้งบี (WAKINGBEE) กล่าวว่า เทรนด์รักสุขภาพยังคงเป็นกระแสที่มาแรงขึ้นทุกๆ ปี โดยเฉพาะวิกฤติโควิด-19 ทำให้ผู้คนให้ความสำคัญในการดูแลสุขภาพ ออกกำลังกาย มากขึ้น
ส่งผลให้ภาพรวมตลาดเสื้อผ้าแนวสปอร์ตแฟชั่น มูลค่ากว่า 30,000 ล้านบาท ยังคงเป็นตลาดที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งส่วนหนึ่งผู้ประกอบการแบรนด์แนวสปอร์ตแฟชั่นต่างๆ หันมาพัฒนาสินค้าใหม่ เพื่อช่วงชิงลูกค้าและมาร์เก็ตแชร์ ทำให้ตลาดมีสีสันและคึกคัก
“แม้วิกฤติโควิด-19 จะทำให้คนเดินห้างน้อยลง แต่หันมาซื้อชุดออกกำลังกายผ่านทางออนไลน์แทน เพราะคนตระหนักถึงการใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้นจากการแพร่ระบาดของไวรัสในครั้งนี้”
สำหรับ การรีแบรนด์ของ “เวคกิ้งบี” ในรอบ 5 ปี ถูกปรับโฉมภายใต้คอนเซปต์ พลังในแบบคุณ (Sensible Sweat) หรือการใช้ชีวิตแอคทีฟแบบสมดุล ในการพัฒนารูปแบบสินค้าให้มีความหลากหลายมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การออกกำลังกายของผู้หญิงแต่ละคนที่แตกต่างกัน! บางคนเพื่อดูแลสุขภาพให้แข็งแรง บางคนออกกำลังกายเพื่อผ่อนคลายจากความเครียด บางคนต้องการสร้างกล้ามเนื้ออย่างจริงจัง
พร้อมกันนี้ ได้มีการปรับเปลี่ยนโลโก้ใหม่ที่ใช้สัญลักษณ์ “หยินหยาง” โดยใช้เส้นลายทางสี่เส้นแทนสีดำ สื่อถึงความแอคทีฟ วงกลมสีขาวสื่อถึงการหยุดพัก รวมกันแล้วเกิดเป็นความสมดุลของการออกกำลังกายและใช้ชีวิตแอคทีฟ นอกจากนี้ ยังได้นักแสดงผู้รักการออกกำลังกาย “แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์” ร่วมทีมเป็นหนึ่งในผู้บริหาร เพื่อยกระดับภาพลักษณ์แบรนด์สู่ "พรีเมียมแมส"
แต้ว-ณฐพร เป็นแฟนคลับของแบรนด์เวคกิ้งบี ชื่นชอบการออกกำลังกาย ได้ร่วมออกคอลเลกชั่นพิเศษมาหลายครั้งแล้ว ด้วยไลฟ์สไตล์ที่ตรงกับคอนเซปต์ “Sensible Sweat” ถือว่าเป็นตัวแทนของผู้หญิงแอคทีฟยุคใหม่ สะท้อนแบรนด์ได้เป็นอย่างดี โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของ “เวคกิ้งบี” เป็นผู้หญิงอายุ 20-50 ปี
“สิ่งที่มัดใจลูกค้ามาตลอด เป็นจุดขายที่เป็นจุดแข็งของเวคกิ้งบี คือ ความลงตัวระหว่างดีไซน์และฟังก์ชั่นที่ถูกออกแบบมาเพื่อสรีระของผู้หญิงโดยเฉพาะ"
รวมถึงการที่อินฟลูเอนเซอร์ (Influencers) ที่มีชื่อเสียงหลายคนได้ลองใช้ผลิตภัณฑ์แล้วชอบ และช่วยประชาสัมพันธ์ในสื่อออนไลน์ทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักในวงกว้างได้ในเวลารวดเร็ว รวมถึง ลูกค้าต่างชาติ รู้จักแบรนด์ผ่านหน้าร้านในห้างสรรพสินค้า
ปีนี้แบรนด์ยังได้ Strategic Partner เป็นโรงงานผลิตสปอร์ตแวร์รายใหญ่ของเมืองไทย ร่วมพัฒนาโปรดักท์เทียบระดับโกลบอลแบรนด์ พร้อมขยายไลน์สินค้าเพื่อเจาะลูกค้ากลุ่มใหม่ เพิ่มสินค้าเบสิคที่ “มิกซ์แอนด์แมทช์”กับไอเทมชิ้นอื่นได้ง่ายในราคาจับต้องได้มากขึ้น เริ่มต้น 590 บาท รวมทั้งเพิ่มไซส์ใหญ่พิเศษ (XL) รองรับผู้หญิงทุกสรีระ
ด้านการผลิตยังพัฒนาผ้าเฉพาะในชื่อ บีเลิฟด์ (Beeloved) มีคุณสมบัติพิเศษ เช่น แห้งเร็ว ป้องกันรังสียูวี ยืดหยุ่น 4 ทิศทาง จะถูกใช้ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีราคา 1,000 บาทขึ้นไป
ปัจจุบัน “เวคกิ้งบี” ให้บริการ 11 สาขา เป็นแฟลกชิพสโตร์ ที่ เซ็นทรัลเวิลด์ และ ป๊อปอัพสโตร์ ที่เซ็นทรัลลาดพร้าว และมีเคาน์เตอร์ในห้างสรรพสินค้า อีก 9 แห่ง ที่จะมีการขยายสาขาเพิ่มอย่างน้อย 2 แห่งในปีนี้
พร้อมกลยุทธ์การตลาดแบบ ออมนิแชนแนล (Omni Channel) ที่จะเชื่อมต่อช่องทางการขายทั้งออนไลน์และหน้าร้าน สร้างประสบการณ์การชอปปิงให้ลูกค้าอย่างไร้รอยต่อ
“พฤติกรรมการเลือกซื้อเสื้อผ้าออกกำลังกายของลูกค้า มาออกแบบแบรนด์ทัชพอยท์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ที่ช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงข้อมูลและรายละเอียดของสินค้าได้ทุกที่ทุกเวลา สามารถเลือกและสั่งซื้อสินค้าอย่างสะดวกรวดเร็ว ขณะเดียวกัน มีหน้าร้านที่ลูกค้าสามารถลอง เลือกซื้อ รับ และเปลี่ยนสินค้าที่สั่งจากทางออนไลน์ได้ จากฐานข้อมูลที่เชื่อมต่อกัน”
แอคทีฟแวร์ “เวคกิ้งบี” ยังมีแผนขยายตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้นเพื่อดันยอดขายให้เติบโตตามเป้า ปัจจุบัน มีตัวแทนจำหน่ายในฮ่องกงและไต้หวัน
การขยายตลาดเชิงรุกท่ามกลางวิกฤติในครั้งนี้ ท้าทาย!!
ด้วยเป้าหมายยอดขายที่มั่นใจว่าจะทำได้เพิ่มขึ้นถึง 200% ทีเดียว