ไฟป่าหวิดลามไหม้ 'หมู่บ้านป่าแหว่ง'
มือมืดลักลอบเผาป่าหวิดลามไหม้ “หมู่บ้านป่าแหว่ง” ต้องระดมรถดับเพลิงกว่า 10 คัน เข้าสกัดไฟ
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 14 มีนาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่รปภ.บ้านพักข้าราชการตุลาการศาลอุทธรณ์ภาค 5 ได้เกิดไฟป่า เป็นวงกว้าง ลุกไหม้ มาจาก เขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ลุกลาม มาใหม่ประชิดรั้ว บ้านพักข้าราชการตุลาการ ซึ่งปลูกบนพื้นที่ติดกับป่าเชิงดอยสุเทพ ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไฟป่าได้ลุกไหม้มาใกล้บริเวณ ริมรั้วบริเวณบ้านพัก 45 หลัง ตั้งอยู่บนพื้นที่ลาดชัน ลึกเข้าไปในป่า หากมองจากภาพมุมสูงเห็นอย่างชัดเจน และเกิดกลุ่มควันปกคลุมในบริเวณนั้นเป็นจำนวนมาก จนแสบหูแสบตาไปหมด
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รีบประสานขอสนับสนุนรถน้ำดับเพลิง จากเทศบาลนครเชียงใหม่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่และรถดับเพลิงจากเทศบาลข้างเคียงกว่า 10 คัน ระดมเข้าไปสมทบช่วยกันฉีดน้ำสกัดดับ เพลิงที่กำลังโหมไหม้ป่าเพราะขอบรั้วบ้านพักข้าราชการตุลาการ ใช้เวลาควบคุมเพลิงนานกว่า 2 ชั่วโมงจึงจะสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ และไฟป่าได้เผาผลาญ ป่าเต็งรังที่อยู่รอบๆเสียหายไปจำนวนหลายสิบไร่
จากการสอบสวนรปภ.ทราบว่าก่อนหน้านั้นได้เห็นควันไฟพวยพุ่ง ขึ้นบริเวณ ใกล้ๆกับริมรั้วบ้านพักข้าราชการตุลาการ จากนั้นได้ลุกลามไปเรื่อยๆอย่างรวดเร็วประกอบกับช่วงเกิดเหตุมีอากาศร้อนและมีกระแสลมแรงทำให้เพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว จึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และรถดับเพลิง
อย่างไรก็ตามหมู่บ้านพักข้าราชการตุลาการภาค 5 เมื่อ 2 ปีก่อน ได้มีชาวเชียงใหม่กลุ่มหนึ่งได้ออกมาต่อต้านคัดค้าน ไม่ให้ก่อสร้าง ในพื้นที่ดังกล่าวเนื่องจาก มีการถ่ายภาพมุมสูงมาเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์เห็นเป็นภาพลักษณะการ รุกล้ำเข้าไปสร้างบ้านพักในพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ซึ่งต่อมาทาง ศาลอุทธรณ์ภาค 5 ได้ออกมาชี้แจงว่าพื้นที่บริเวณดังกล่าวนั้นเป็นพื้นที่ราชพัสดุได้ขออนุญาตก่อสร้างอย่างถูกต้อง ต่อมาได้มีกลุ่มภาคประชาชนได้ชุมนุมต่อต้าน และเรียกร้องให้ รื้อถอน บ้านพักตุลาการทั้ง 45 หลังที่อยู่ติดเชิงเขาดอยสุเทพนั้นออกไป พร้อมกับเรียกขนานนามกันว่าเป็นหมู่บ้านป่าแหว่ง ต่อมา ทางรัฐบาล มีนโยบาย จะย้ายหมู่บ้านดังกล่าวไปสร้างที่ จ.เชียงราย จากนั้นเรื่องก็เงียบหายไป จนกระทั่ง มาเกิด เพลิงลุกไหม้ประชิดรั้วในวันนี้
ส่วน รปภ. น่าเชื่อว่าไฟป่าครั้งนี้ เกิดจากฝีมือมนุษย์ที่ลักลอบเผา ป่าโดยไม่ทราบวัตถุประสงค์ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป หลังจากเกิด เพลิงไหม้ป่าบริเวณ รอบๆหมู่บ้านพักข้าราชการตุลาการภาค 5 ว่าหมอกควัน ใน จ.เชียงใหม่ ที่ ค่า PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน มาตั้งแต่ช่วงเช้าแล้วทำให้พุ่งขึ้นไปแปะอยู่ที่ 375 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ทำให้ในตัวเมืองเชียงใหม่ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกควัน ขณะเดียวกันเว็บไซต์ Air Visual ได้ขึ้น ชื่อจังหวัดเชียงใหม่ เป็นจังหวัดที่ติดอันดับ 1 ของโลกที่มีอากาศแย่ที่สุด